เปิดชีวิต "น้องนินจา" ในวันที่พ่อแม่พี่ตายจากไป ขนลุกดวงวิญญาณยังห่วง

เปิดชีวิต "น้องนินจา" ในวันที่พ่อแม่พี่ตายจากไป ขนลุกดวงวิญญาณยังห่วง

เปิดชีวิต "น้องนินจา" ในวันที่พ่อแม่พี่ตายจากไป ขนลุกดวงวิญญาณยังห่วง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"น้องนินจา" เด็ก 9 ขวบที่กำพร้าเพราะพ่อแม่พี่ชายตายในอุบัติเหตุรถชน พูดแบบไร้เดียงสา...แม่ยังอยู่ ได้ยินเสียงร้องไห้ตลอด ผู้เป็นป้ายื่นมือขออุปการะเลี้ยงดูหลานคนนี้แทน

จากกรณีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน เป็นพ่อแม่ลูกครอบครัวเดียวกัน แต่ปรากฏว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้เด็กชาย วัย 9 ขวบ ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า สูญเสียคนในครอบครัวไปทั้งหมด กลายเป็นประเด็นที่สังคมออนไลน์ต่างรู้สึกสะเทือนใจและเศร้าสลดกับเหตุที่เกิดขึ้น ตามข่าวที่รายงานไปแล้ว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกรณีดังกล่าว ก่อนจะไปพบกับ นางเบญจวรรณ อายุ 41 ปี ผู้เป็นป้าของ น้องนินจา อายุ 9 ปี เด็กกำพร้าที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวทั้งหมดจากอุบัติเหตุครั้งนั้น โดยระบุว่า เพิ่งเดินกลับมาจาก จ.สุรินทร์ หลังเสร็จสิ้นพิธีงานศพของพ่อแม่และพี่ชายของน้องนินจา

ในส่วนของรูปคดีตอนนี้ยังรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่ เรื่องการเยียวยากับคู่กรณียังไม่มีข้อสรุปในเวลานี้ แต่อีกฝ่ายก็ได้เข้ามาเจรจาบ้างแล้ว โดยจะขอจ่ายค่าทำขวัญเป็นวงเงิน 200,000 บาท แต่ตนได้บอกปฏิเสธไป เนื่องจากต้องการรอดำเนินการไปควบคู่กับการสอบสวนคดี

>> สะเทือนใจ กระบะชนพ่อแม่พี่เสียชีวิตหมด เหลือน้องชายเพียงลำพัง

ขณะที่ นางสุพรรณ และ นางสุเพียร ผู้เป็นยายและย่าของน้องนินจา เปิดเผยว่า ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไร เป็นห่วงแต่หลานชายที่ไม่เหลือใครเลย แต่ยังพูดอะไรกับเขาได้ไม่มาก เพราะไม่อยากซ้ำเติมไปมากกว่านี้ หลานยังพูดเสมอว่าพี่ชายและพ่อแม่ยังอยู่ ได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ตลอด บอกคิดถึงทุกคน แต่ก็ยังคงไร้เดียงสาอยู่มาก

news02-1ญาติที่ยังเหลืออยู่ของน้องนินจา ผู้เป็นป้าขออุปการะเลี้ยงดูแทน

ทั้งนี้ ป้าของน้องนินจา ได้ยื่นดำเนินการขอเป็นผู้อุปการะหลานชายคนนี้เอาไว้ พร้อมกับอยากฝากบอกถึงต้นสังกัดของคู่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ อยากให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ ควรรับรู้เรื่องราวความลำบากของเด็กชายคนนี้ ที่ต้องสูญเสียสมาชิกครอบครัวไป แต่เสนอให้แลกด้วยเงิน 200,000 บาท ตนมองว่าไม่ถูกต้อง ยิ่งมีกระแสข่าวว่าจะมีการฟ้องร้องพวกตนกลับด้วย ยิ่งทำให้ทุกคนเศร้าใจกันไปอีก เพราะเกรงว่าคงจะสู้คดีกับอีกฝ่ายไม่ได้แน่นอน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างยอมรับว่า รู้สึกวังเวงกับบรรยากาศโดยรอบบ้านของน้องนินจา โดยมีความเชื่อว่าดวงวิญญาณครอบครัวของน้องนินจาน่าจะวนเวียนอยู่ เพราะความเป็นห่วงและผูกพัน เพราะน้องนินจาต้องใช้อยู่เพียงคนเดียว อีกทั้งยังพบว่าช่วงนี้ตอนกลางดึก มักจะได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนบ่อยครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบไม่เคยมี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook