เปิดใจ "ตำรวจหนุ่ม" ที่คนทั้งประเทศชื่นชม นั่งคุยกับเด็กจะโดดสะพาน

เปิดใจ "ตำรวจหนุ่ม" ที่คนทั้งประเทศชื่นชม นั่งคุยกับเด็กจะโดดสะพาน

เปิดใจ "ตำรวจหนุ่ม" ที่คนทั้งประเทศชื่นชม นั่งคุยกับเด็กจะโดดสะพาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจหนุ่มชลบุรี เปิดใจหลังกลายเป็นฮีโร่ คนชื่นชมทั้งประเทศเพียงข้ามคืน จากวีรกรรมนั่งเป็นเพื่อนคุยกับเด็กหญิงจะฆ่าตัวตาย บอกเป็นหน้าที่ที่ใครก็ช่วยจะเข้าไปช่วย...ก่อนจะสายไป

จากเหตุการณ์ ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ ณ เชียงใหม่ รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเด็กนักเรียนโทรศัพท์มาแจ้งว่ากำลังจะกระโดดสะพานลอยคนเดินข้ามถนนสุขุมวิท ช่วงแยกเฉลิมไทย เขตเทศบาลเมืองชลบุรี เพื่อฆ่าตัวตาย จึงนำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ พบ น้องสวย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนหญิงนั่งอยู่กลางสะพาน ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างๆ พูดจาเกลี้ยกล่อมเด็กหญิงนานเป็นชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจยอมลงมาจากสะพานได้อย่างปลอดภัย

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ ณ เชียงใหม่ รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า หลังจากช่วยเหลือทราบว่า น้องมีอาการของโรคซึมเศร้าและความเครียดสะสม จากปัญหาที่พ่อแม่ทะเลาะกันบ่อย

>> เด็กหญิงโทรบอก 191 จะกระโดดสะพานลอย ตำรวจนั่งเกลี้ยกล่อมจนเปลี่ยนใจ

อีกทั้งเดินทางมาโรงเรียนก็ยังมาทะเลาะกับเพื่อน โดนคุณครูตำหนิต่อว่าอีก ทำให้รู้สึกท้อแท้และน้อยใจในชีวิต จึงตัดสินใจขึ้นมาบนสะพานลอย หวังจะกระโดดลงไป แต่ก็ตัดสินใจโทรศัพท์แจ้ง 191 เพราะอยากพูดระบายกับใครสักคน

โดยหลังจากที่ได้นั่งคุยกัน น้องสวยบอกว่าอยากอยู่กับครูเพลง เพราะเป็นครูที่รักและเคารพ จึงได้นำตัวไปพบกับครูเพลง และได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดชลบุรี ให้มาดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจให้เป็นปกติ เพื่อจะได้นำคืนสู่ครอบครัวต่อไป

ส่วนเรื่องที่มีภาพข่าวแชร์ออกไป ก่อนจะได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่แค่เพียงตำรวจเท่านั้นที่ควรทำ ไม่ว่าจะใครก็ควรเข้าไปช่วย แต่ที่ทำเช่นนั้นเพราะคือหน้าที่ของตำรวจ ส่วนที่ใช้มือลูบหัวน้องเขานั้น เพราะตนก็มีน้องสาวเหมือนกัน เคยเลี้ยงดูน้องสาวมาจึงพอเข้าใจชีวิตวัยรุ่นบ้าง

เหมือนกับตอนเราเด็กๆ ก็มีพ่อแม่มือมาลูบหัว ยังทำให้เรารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้เลย จึงคิดว่าน้องน่าจะรู้สึกแบบนั้นและจะได้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยว

นอกจากนี้ตรวจสอบยังพบว่า แม่ของน้องป่วยเป็นไบโพลาร์ ส่วนน้องแท้ๆ อีกคนก็เด็กพิเศษ ตัวน้องเองก็เหมือนจะโรคซึมเศร้าเช่นเดียวกัน จึงได้ปรึกษาทั้งครูที่โรงเรียน รวมทั้งศูนย์พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะเข้ามาช่วยดูแลน้องและประสานไปยังแพทย์เฉพาะทางโรงพยาบาลชลบุรี มาดูแลรักษาประเมินอาการน้องเขา เพื่อให้กลับมาร่าเริงสดใสเหมือนเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook