หนังคนละม้วน หนุ่มอิหร่านปฏิเสธฉุดข่มขืนแฟนเก่า คงหึงจัดมโนไปเอง

หนุ่มอิหร่านโร่พบตำรวจ หลังสาวไทยแฟนเก่าแจ้งจับอ้างฉุดไปข่มขืน-โกนผมเกลี้ยงหัว ยันไม่ได้บังคับใดๆ แต่เป็นการสมยอม เชื่อคงเพราะหึงเห็นรูปแฟนคนปัจจุบัน จึงมโนสร้างเรื่องเอง

จากกรณีที่ น.ส.หนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี เข้าแจ้งความว่าถูกอดีตสามีกับลูกน้องฉุดตัวไปคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ก่อนจะกักขังหน่วงเหนี่ยว จับใส่กุญแจมือ พร้อมกับโกนผมหมดทั้งศีรษะ และพันธนาการบังคับข่มขืนกระทำชำเราถึง 2 ครั้ง เพื่อจะอ้อนขอให้กลับมาคบหาและอยู่กินกันอีกครั้ง เจ้าตัวออกอุบายจึงหนีออกได้ ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวพัทยา ได้เชิญตัว น.ส.หนึ่ง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย น.ส.หนึ่ง ยังยืนยันว่าถูกกระทำดังกล่าวจริง อีกทั้งยังเล่าเพิ่มเติมว่า คบหากับแฟนคนนี้มาราวๆ ปีเศษ แต่มีปัญหาทะเลาะบ่อย และเคยถูกทำร้าย

>> สาวไทยกลัวตาย อดีตสามีแขกซาดิสต์ ฉุดขึ้นห้อง-จับโกนหัว-ข่มขืนยับ

ที่ผ่านมาเคยเข้าแจ้งความแต่คดีก็เงียบหายไป ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ก่อนจะตัดสินใจเลิกรากันไปเมื่อ 3-4 เดือนก่อน กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ยืนยันว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นความจริงและต้องการจะดำเนินคดีอดีตแฟนหนุ่มคนนี้ให้ถึงที่สุด

เวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายโมฮ์เซน อายุ 39 ปี สัญชาติอิหร่าน ที่เดินทางเข้ามอบตัวมาให้ปากคำในกรณีดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกตามคำสั่งศาลจังหวัดพัทยา นายโมฮ์เซน ให้การว่า ทำอาชีพให้เช่ารถจักรยานยนต์ และเป็นผู้จัดการด้านการต่างประเทศของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง

ส่วนกรณีของ น.ส.หนึ่ง นั้น ยอมรับว่าเคยคบเป็นแฟนกันมาราวๆ ปีเศษจริง ก่อนเลิกลากันไป กระทั่งมาพบกันอีกครั้ง จากนั้นก็พากันไปที่คอนโดมิเนียม โดยไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ใส่กุญแจมือ ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว หรือขืนใจ ตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่เป็นความยินยอมพร้อมใจของฝ่ายหญิงเอง ส่วนเรื่องจับโกนหัวก็ไม่ได้ทำ เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนทำเอง

อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่่ฝ่ายหญิงมาแจ้งความ คาดว่าหลังจากมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว น.ส.หนึ่ง ได้นำโทรศัพท์ของตนมาตรวจดู ก่อนจะพบภาพหญิงสาวชาวอิหร่านอีกคนที่คบอยู่ จึงเกิดความหึงหวงและสร้างเรื่องเป็นตุเป็นตะ เข้าแจ้งความดังกล่าว ดังนั้นตนจึงขอให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอให้เป็นขบวนการทางยุติธรรม

ทางด้าน พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่า ทางตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการตรวจที่เกิดเหตุ รอผลการตรวจร่างกายผู้เสียหาย ภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานให้ครบถ้วน ก่อนสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าใครเป็นผู้กระทำผิด แต่ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอน