ผกก.ชี้แจงคลิป "ตำรวจ" เปิดตู้หยิบผลไม้กินโดยไม่ขอพ่อค้า ที่แท้เข้าใจผิด
ผกก.สภ.ประตูน้ำฬาลงกรณ์ ชี้แจงคลิป "ตำรวจ" เปิดตู้หยิบผลไม้กินโดยไม่ขอพ่อค้า ที่แท้จ่ายเงินแล้ว
(21 ก.ย.) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปตำรวจนายหนึ่งเปิดตู้ผลไม้แช่เย็นจากรถพ่วงข้างไป พร้อมข้อความว่า "คือพี่เขาขับรถขายของ โดนจับให้มาเสียค่าปรับที่โรงพักเราแอบเห็นตำรวจนายหนึ่ง มาหยิบๆผลไม้ไปกินโดยไม่ขอเจ้าของ แบบนี้ก็ได้หรอคะ เราเลยเดินไปถาม ตำรวจตอบว่ากินได้สิ เป็นของกลาง จับคนเกี่ยวอะไรกับรถขายของ ผลไม้นะไม่ใช่ยาบ้า ที่จะยึดของกลาง ใครก็ได้ตอบเราที แบบนี้ก็ได้หรอ"
จนมีการแชร์โพสต์กันเป็นจำนวนมากถึงความไม่เหมาะสม และแสดงความคิดเห็นอย่างดุเดือดถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ สภ.ประจูน้ำจุฬาลงกรณ์
พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดเชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จัดหางานจังหวัดปทุมธานี ได้จับกุมผู้ต้องหาเป็นคนสัญชาติเวียดนาม นั่งจำหน่ายสินค้าอยู่คนเดียว (ผลไม้สดรถพ่วงข้าง) บริเวณหน้าบริษัทโฮยา ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี โดยที่ภรรยาซึ่งเป็นคนไทยเข้าไปอาบน้ำภายในบ้าน จึงจับกุมมาพร้อมของกลางรถจยย.พ่วงข้างขายผลไม้
เมื่อภรรยากลับมา ก็ได้มีการจับกุมภรรยาด้วยเนื่องจากถือว่าเป็นนายจ้างใช้แรงงานต่างด้าวโดยผิดเงื่อนไข โดยจับกุมผู้ต้องหา 2 คนพร้อมของกลาง เมื่อจับได้แล้วของกลางที่เป็นผลไม้ของดองที่เน่าเสียได้ ผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงได้ขอประมูลผลไม้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คิดราคา 500 บาทไป เพื่อหวังว่าหากประกันตัวไปแล้วจะสามารถนำไปขายได้ต่อ ระหว่างนั้นเมื่อประมูลได้แล้วมีนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเกิดความสงสารผู้ต้องหาจึงขอซื้อในราคาที่ประมูลได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปขายต่อ ประกอบกับต้องดำเนินดคีในการยื่นเรื่องประกันตัวอยู่ด้วย จึงขอซื้อต่อและให้ตำรวจจราจรนายหนึ่งมาเปิดตู้เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจรับประทาน
กระทั่งน้องสาวของผู้ต้องหามาพบจึงได้ถ่ายคลิปแล้วแชร์ต่อไป โดยที่ไม่ทราบเรื่องและไม่มีการสอบถามข้อเท็จจริงจากพี่สาวเลยปรากฏเป็นภาพคลิปข่าว สำหรับรถเข็นขายผลไม้ได้นำไปเก็บไว้ที่สถานที่เก็บของกลางสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ส่วนผลไม้ตำรวจได้ซื้อจากผู้ต้องหาที่ประมูลมาแจกจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับตำรวจจราจรที่ปรากฏในคลิปได้เรียกเจ้าตัวมาชี้แจงให้เข้าใจถึงการใช้คำพูด ที่จะต้องไปสื่อสารให้ประชาชนภายนอกได้เข้าใจ สำหรับประชาชนที่แสดงความคิดเห็นขอให้อยู่ในกรอบของกฏหมายเพราะอาจจะเข้าข่ายความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์