ไทยมุงทำเนียน 3 แสบฉกทรัพย์ดาราฮ่องกง หลังยืนดูเหตุทะเลาะกะเทย
ดาราตัวประกอบฮ่องกงเบี้ยวนัดดูของกลาง หลังตำรวจพัทยารวบ 3 ผู้ต้องหา อาศัยจังหวะชุลมุนฉกทรัพย์ของผู้เสียหายไปเป็นของตัวเอง
จากกรณี นายชานนี่ นักแสดงตัวประกอบชาวฮ่องกง ได้ร้องสื่อเมืองพัทยาว่า เมื่อคืนวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับสาวประเภทสอง บริเวณถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ มีคนยืนมุงดูเหตุการณ์มากมาย แต่ปรากฏว่าทรัพย์สินในกระเป๋าถือที่วางไว้ข้างถนนได้หายไป รวมมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ร่วมแถลงผลการจับกุม นายนภดล หรือ ตุ๋ย อายุ 52 ปี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง, นายบุญเลี้ยง หรือ เรือง อายุ 46 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง และ นายอนุรักษ์ หรือ เปีย อายุ 29 ปี สาวประเภทสอง
พร้อมกับยึดของกลางสร้อยข้อมือฝังเพชร 1 เส้น โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 10 เงินสด 4,000 บาท กระเป๋าเงินขนาดเล็ก 1 ใบ บัตรเอทีเอ็มของธนาคารฮ่องกง 9 ใบ บัตรประชาชน ใบขับขี่ และหนังสือเดินทางของ นายชานนี่ ดาราตัวประกอบชาวฮ่องกง ที่แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ปรากฏว่าในวันนี้ นายชานนี่ ไม่มาตามนัดและติดต่อไม่ได้
พล.ต.ต.นันทชาติ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันว่าได้เร่งรัดทำคดีอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่อาจจะมีปัญหาในเรื่องการสื่อสารอยู่บ้าง กระทั่งได้เบาะแสยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ร่วมกันก่อเหตุขโมยทรัพย์สินนักท่องเที่ยว จึงได้ควบคุมตัวเอาไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่า นายนภดล ขับวินอยู่ย่านวอล์คกิ้งสตรีท เป็นคนหยิบกระเป๋าภายในบรรจุทรัพย์สินทั้งเงินสดและเอกสารสำคัญ นายบุญเลี้ยง หยิบสร้อยข้อมือฝังเพชรที่ขาดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และนายอนุรักษ์ สาวประเภทสอง หยิบเอาโทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง
ขณะที่นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ ที่ผู้เสียหายอ้างว่าหายไปด้วยนั้น เรื่องนี้ยังไม่ยืนยันว่าเจ้าตัวได้สวมใส่ไปในวันเกิดเหตุ และมีนาฬิกาจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คงต้องรอติดต่อผู้เสียหายได้และสอบปากคำอีกครั้ง
นายนภดล ให้การว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุตนเป็นหนึ่งในไทยมุงที่ยืนดูอยู่ ผู้เสียหายกับกลุ่มสาวประเภทสองมีเรื่องตบตีกัน 2 ครั้ง พอหลังเหตุการณ์สงบตนเห็นกระเป๋าตกอยู่ จึงหยิบเอาไปแล้วนำทรัพย์สินที่ได้ซึ่งมีเงินสดเพียง 4,000 บาทมาเก็บไว้
ส่วนกระเป๋าและเอกสารโยนทิ้งไว้ข้างทาง และไม่ได้นัดแนะกับนายบุญเลี้ยงที่ทำงานอยู่วินเดียวกัน จนมาทราบภายหลังว่าเพื่อนร่วมวินก็ขโมยสร้อยข้อมือฝังเพชรของผู้เสียหายไปด้วย ขณะที่ นายบุญเลี้ยง อ้างว่า เห็นสร้อยข้อมือตกอยู่ และไม่รู้ว่าเป็นของแท้หรือของปลอม จึงเก็บไว้ก่อนไม่ได้ตั้งใจขโมยแต่อย่างใด
ภายหลังการสอบสวนเบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป