ชาวสวนโอด! "มะพร้าว" ขาดทุนหนัก จำใจปล่อยงอกคาสวน ทุนจมหลายแสนบาท

ประจวบคีรีขันธ์ ชาวสวนมะพร้าวทับสะแกวิกฤติหนัก ทำมะพร้าวขาวขายได้ราคาต่ำขาดทุนเหลือเพียงกิโลกรัมละ 9 บาท ขาดทุนยับ ต้องปล่อยมะพร้าวงอกคาสวนหลายหมื่นลูก ทุนจมหลายแสนบาท

วันที่ 24 กันยายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวที่มีคุณภาพและมากที่สุดในประเทศ

ทุกข์ระทมราคาตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เหลือส่วนต่างแค่ลูกละ 2 บาท แปรรูปทำมะพร้าวขาวไม่มีตลาดรับซื้อ ทำแล้วยังขาดทุนได้ไม่คุ้ม ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 9 บาท ขาดทุน กิโลกรัมละ 15 บาท

จำใจปล่อยมะพร้าวงอกคาสวน ขาดรายได้จุนเจือครอบครัว แถมต้องทนแบกภาระรับซื้อมะพร้าวจากลูกสวนต่อเนื่องทั้งๆ ที่ขายไม่ได้ เรียกร้องรัฐบาลยกเลิกนำเข้ามะพร้าวต่างประเทศอย่างถาวร เพราะกระทบต่ออาชีพของชาวบ้านในพื้นที่

นางบุญทิพย์ อ่างแดง อายุ 63 ปี ชาวบ้านหมู่ 9 บ้านอ่างทอง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพหลักคือ ทำมะพร้าวขาวและเผากะลาเพื่อทำถ่านมะพร้าว

โดยทำเองเป็นหลัก และจ้างแรงงานซึ่งเป็นชาวบ้านใกล้เคียงเพียงไม่กี่คน มาช่วยกันปอกเปลือก กะเทาะกะลา จากที่เคยทำมะพร้าวขาวส่งทุกวัน วันละ 200-500 กิโลกรัม โดนลดโควตาเหลือเพียงอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 100 กิโลกรัมเท่านั้น

ช่วงที่ผ่านมาทำแล้วขายไม่ได้ เพราะขาดทุน โดยก่อนหน้านี้มะพร้าวซื้อมาในราคาลูกละ 7 บาท ปัจจุบันซื้อหน้าสวน 4 บาท ซึ่งชาวสวนมะพร้าวเองเมื่อหักค่าใช้จ่าย ค่าสอยค่าเก็บแล้วจะเหลือเพียงลูกละ 1-2 บาท จากที่เคยมีราคาขายหน้าสวนสูงสุดที่ 27-29 บาท เมื่อปี 60

ส่วนการทำเนื้อมะพร้าวขาว 1 กิโลกรัม ต้องใช้ลูกมะพร้าวเกือบ 3 ลูก บวกค่าแรงกิโลกรัมละ 3 บาท ทำให้มีต้นทุนกิโลกรัมละ 24 บาท แต่ขายได้เพียงกิโลกรัมละ 9 บาท เท่ากับขาดทุนถึง 15 บาทต่อกิโลกรัม จึงจำเป็นต้องปล่อยมะพร้าวที่ซื้อมางอกคาสวน เพราะทำอย่างไรก็ไม่คุ้มทุน

ซึ่งช่วงที่ผ่านมาต้องซื้อมะพร้าวในสวนมะพร้าวของลูกสวนหรือเครือข่ายที่ส่งมะพร้าวให้ ทั้งที่ราคาตกต่ำแต่ก็ต้องซื้อมะพร้าวทุกเดือน เนื่องจากลูกสวนส่งมะพร้าวให้ตลอดไม่ว่าจะราคาสูงก็มีของส่งให้

หากวันนี้หยุดรับซื้อจากลูกสวน วันข้างหน้าลูกสวนก็จะหันไปส่งมะพร้าวให้กับเจ้าอื่น จึงต้องรักษาฐานลูกค้าด้วยการซื้อต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะระบายสินค้าไม่ได้ก็ตาม

ปัจจุบันเฉพาะที่สวนตนเอง มีมะพร้าวที่ซื้อมาและกองไว้ในสวนประมาณ 6 หมื่นลูก ซื้อในราคาลูกละ 7 บาท กับ ลูกละ 5 บาท เป็นจำนวนเงินกว่า 2 แสนบาท ขณะที่ซื้อมะพร้าวแต่ไม่มีทางระบายสู่ตลาด จึงมีรายจ่ายแบกรับภาระขึ้นทุกเดือน ทำให้ไม่มีรายได้

ซึ่งบางวันไม่มีเงินติดตัวไม่มีข้าวกิน ต้องไปงมหอยเก็บปูมาทำกับข้าวกินกันในครอบครัว รวม 6 ชีวิต เพราะไม่มีเงินซื้อวัตถุดิบทำอาหาร อีกทั้งยังต้องกู้หนี้ จากธนาคาร เพื่อซื้อมะพร้าว

ตอนนี้ยอมรับว่าเครียดจัดเพราะไม่มีเงินไปจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นที่ถึงกำหนดส่งคืนแล้ว ส่วนการเผากะลามะพร้าวเพื่อทำถ่านนั้น กำไรได้น้อยมาก แต่จำเป็นต้องทำเพื่อให้มีเงินหมุนเวียนมาช่วยเหลือในช่วงที่ทำมะพร้าวขาวไม่ได้ ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย

ตนอยากให้รัฐบาลหยุดนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศถาวร เพื่อให้ขายมะพร้าวในประเทศได้ แม้จะมีข่าวออกมาว่า หยุดนำเข้าชั่วคราวแล้ว แต่พบว่าราคามะพร้าวไม่ได้ดีขึ้นเลย จึงเชื่อว่ายังคงมีมะพร้าวเถื่อนหมุนเวียนอยู่ในระบบที่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวในพื้นที่

โดยยอมรับว่า ขณะนี้ชาวสวนมะพร้าวทับสะแก และพื้นที่ใกล้เคียงประสบปัญหาเช่นนี้ทุกคน ตั้งแต่ทำมะพร้าวขาวมากว่า 20 ปี ไม่เคยเจอวิกฤตที่หนักหนาสาหัสเช่นนี้ ถึงแม้ในอดีตราคาจะต่ำ แต่ค่าครองชีพและปริมาณของที่ขายออกก็ไม่ทำให้เดือดร้อนเช่นนี้ จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือด่วน