วงจรปิดมัดตัว สาวเสิร์ฟยอมรับเป็นนางนกต่อ ช่วยเพื่อนปล้นนักดนตรี
(25 ก.ย.) เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผบก.ภ.จ.นนทบุรี พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.วิลาสินี อายุ 21 ปี และ นายศุภณัฐ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางอาวุธมีปลายแหลมยาว 2 เล่ม ที่ใช้ในการก่อเหตุ โทรศัพท์มือ 4 เครื่อง สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทสภาพขาด 1 เส้น พระเลียมทอง 1 องค์ เงินสด 600 บาท
พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย โดยสามารถขับกุมตัวได้ที่ร้านอาหารครัวร้อยล้าน ถ.สามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก นายเกษม อายุ 67 ปี นักดนตรีร้านอาหารครัวร้อยล้าน ระบุว่ามีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ก่อนใช้อาวุธมีดฟันที่บริเวณหัวไหล่ขวา 1 แผล นิ้วโป้งซ้ายถูกอาวุธมีดบาดได้รับบาดเจ็บ
ขณะกำลังจอดรถรอรับเพื่อนร่วมงานที่ขอติดรถไปทำงานที่ร้านอาหาร ภายในลานจอดรถวัดบัวขวัญ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนที่คนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทพร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสด 600 บาท ก่อนจะเดินหลบหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เกิดเหตุสอบปากคำผู้เสียหายและพยานที่เห็นเหตุการณ์ จนทราบว่าผู้เสียหายจะมาจอดรถนอนที่ลานจอดรถของวัดเป็นประจำในเวลา 14.00 น. ก่อนไปเล่นดนตรีที่ร้านอาหารเวลา 16.00 น.
แต่วันเกิดเหตุน.ส.วิลาสินี ที่เพิ่งเข้าทำงานเป็นพนักงานเสริฟท์ร้านอาหารที่เดียวกับผู้เสียหายไดประมาณเดือนเศษ ได้โทรศัพท์เข้ามาหาผู้เสียหายว่าให้รอจะขอติดรถไปทำงานด้วย พร้อมบอกให้ผู้เสียหายเปิดกระจกรถเอาไว้ทั้ง 2 ประตู
เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ น.ส.วิลาสินี ได้โทรศัพท์บอกให้นายศุภณัฐเข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว น.ส.วิลาสินี ได้ที่ร้านอาหาร ขณะกำลังทำงานตามปกติ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ
แต่ปรากฏว่ามีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาช่วยสนับสนุนยืนยัน ทำให้ น.ส.วิลาสินี ยอมให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมมือกับนายศุภณัฐ เพื่อนชายคนสนิทก่อเหตุชิงทรัพย์นายเกษมจริง โดยทำทีโทรศัพท์ไปหานายเกษมให้รอเพื่อขอติดรถไปทำงานด้วย
เมื่อนายเกษมหลงเชื่อจอดรถรอตน จึงโทรศัพท์บอกให้นายศุภณัฐเข้ามาลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินที่ได้นั้น นายศุภณัฐนำมาให้ตนเก็บไว้ แต่ยังไม่ทันได้แบ่งก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุเพราะต้องการนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าจับกุมตัว นายศุภณัฐ ได้ที่ห้องเช่าภายในซอยงามวงศ์วาน 23 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป