นักวิเคราะห์ชี้ จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ครองที่หนึ่งเศรษฐกิจโลกภายในปี 2030
นักวิเคราะห์ชี้ จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ครองเบอร์หนึ่งด้านเศรษฐกิจของโลกภายในปี 2030
วานนี้ (25 ก.ย.) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์จากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พีแอลซี (HSBC Holdings Plc) ธนาคารและบริษัทผู้ให้บริการด้านการเงินที่มีสาขาและสำนักงานทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกรวมถึงหลายประเทศทั่วโลกคาดการณ์ว่า จีนจีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ จนกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2030 หรืออีก 12 ปีข้างหน้า
โดยผลการศึกษายังคาดการณ์ด้วยว่า ประเทศจีนจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในทั่วโลกในทศวรรษหน้า
นอกจากนี้ จีดีพีของจีนจะทะยานขึ้นจาก 14.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน เป็น 26 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2030 ในขณะที่จีดีพีของสหรัฐฯ จะเติบโตช้ากว่า โดยจะขยับจาก 20.4 ล้านล้านดอลลาร์เป็น 25.2 ล้านล้านดอลลาร์
การคาดการณ์ดังข้างต้น ตรงกันข้ามกันกับคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่ผ่านมาอย่างชัดเจน โดยทรัมป์กล่าวว่า จีนจะไม่สามารถก้าวแซงสหรัฐฯ ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ของเอชเอสบีซี ได้รับการสนับสนุนจากการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ระบุว่าจีนอาจจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2030
ทั้งนี้ การศึกษาของเอชเอสบีซียังกล่าวด้วยว่า ตลาดเกิดใหม่อาจจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวในทั่วโลกขยายตัวได้มากถึง 70% ในปี 2030