สาวตัดพ้อ...พ่อโดนกระทืบอ่วม แต่หมอไม่รักษา อ้างต้องรอเลข 13 หลัก

สาวตัดพ้อ...พ่อโดนกระทืบอ่วม แต่หมอไม่รักษา อ้างต้องรอเลข 13 หลัก

สาวตัดพ้อ...พ่อโดนกระทืบอ่วม แต่หมอไม่รักษา อ้างต้องรอเลข 13 หลัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวตัดพ้อโพสต์ถามโรงพยาบาล 1 ชีวิตกับเลข 13 หลัก อะไรสำคัญกว่า หลังพ่อถูกแก๊งเงินกู้บุกตีเจ็บสาหัสถึงบ้าน

(26 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน เพจเฟซบุ๊กกลุ่มพัทยาทอล์ค ได้แชร์ต่อข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อความตัดพ้อถามโรงพยาบาลแห่งหนึ่งว่า พ่อโดนตีทำร้ายหนักมาก แต่ไม่ทำการรักษา เพราะรอเลขบัตรประชาชน ทำให้รู้สึกแคลงใจว่าระหว่าง 1 ชีวิตกับเลข 13 หลัก อะไรสำคัญกว่า ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับ นางสาวอินทิรา อายุ 29 ปี เปิดเผยว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.30 น. เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา คนร้ายเข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายจรัญ อายุ 67 ปี พ่อของตน หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไป ส่วนพ่อได้บาดเจ็บสาหัสนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ภายในบ้าน

จนกระทั่งพี่สาวเห็นรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ วิ่งเข้ามาในซอยบ้านจึงออกมาดู พบพ่อถูกทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ทว่าทางโรงพยาบาลกลับไม่ยอมให้เข้ารับการรักษา ให้นำเลขบัตรประชาชน 13 หลักมาให้ก่อน สร้างความงุนงงเป็นอย่างมาก

แม้ทางครอบครัวจะยอมจ่ายค่ารักษาเอง แต่ทางโรงพยาบาลก็ยืนยันจะต้องรอเลขบัตรประชาชน กว่าจะได้รับการรักษาเวลาก็ล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง เมื่อผลการตรวจออกปรากฎว่า พ่อบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง กระดูกหน้าแตก ต้องส่งไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลชลบุรีอย่างเร่งด่วน

ส่วนด้านการดำเนินคดี นางสาวอินทิราและครอบครัวได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ภานุภัทน์ จงอภิชัยกุล สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งตนเองได้นำหลักฐานเปิดเผยถึงสาเหตุการถูกทำร้ายร่างกายของนายจรัญ ไปมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

สาเหตุเกิดจากแก๊งเงินกู้ บุกมาทวงเงินและทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม ทิ้งให้คนเจ็บนอนจมกองเลือดและหลบหนีไป ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว คาดว่าน่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีได้เร็วๆ นี้นี้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญให้กับครอบครัวของผู้เสียหายเป็นอย่างมาก เพราะแก๊งทวงหนี้รายนี้ก่อเหตุอย่างอุกอาจโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งยังมาเจอกับเหตุการณ์โรงพยาบาลไม่รับรักษาซ้ำเข้าไปอีก ทำให้รู้สึกท้อแท้ใจเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ อยากฝากถึงผู้บริหารโรงพยาบาลให้ประบปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นด้วย และฝากขอบคุณพ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตำรวจชุดสืบสวน ที่เร่งสืบสวนดำเนินการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างไม่รอช้าด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook