ตรวจแถวพรรคกองหนุน 376 เสียง โหวตอุ้ม "ลุงตู่" นั่งนายกฯ หลังเลือกตั้ง

เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” มีความชัดเจนทางการเมือง ตามที่หลายคนเรียกร้อง โดยเอ่ยว่า “สนใจการเมือง เพราะรักชาติ” ก็มีคำถามตามมาว่า จะเลือกเดินต่อแบบไหน สังกัดพรรคเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตของพรรคการเมือง หรือจะรอเป็นนายกฯ คนนอก ตามรัฐธรรมนูญที่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” เปิดทางไว้ให้ มีหลายออปชั่นให้ “นายกฯ ลุงตู่” ของมวลมหาประชาชนเลือก

ที่น่าสนใจคือ การแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจว่าจะกลับมาใหม่ได้นั้น “ลุงตู่” ไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน ซึ่งคงตอบได้ไม่ยากเพราะการโหวตเลือกนายกฯ หลังเลือกตั้งตามโรดแมป มีสูตรตายตัว ส.ว. 250 + ส.ส. 500 ต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 376 เสียง

“ส.ว. 250 คน” สมัยแรกตามรัฐธรรมนูญใหม่นี้ 6 คนมาโดยตำแหน่ง ผบ.เหล่าทัพ ปลัดกลาโหม และ ผบ.ตร. ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร มีที่มาที่ไปจากไหนบ้าง อีก 50 คน กกต. สรรหาในขั้นต้น แต่ขั้นท้ายสุดก็ส่งให้ คสช. จิ้มเอาอยู่ดี ส่วน 194 คนที่เหลือ ก็แต่งตั้งโดย คสช.อีก เท่ากับมีตุนไว้แล้ว 250 ที่นั่ง ต้องการ ส.ส. อีกเพียง 126 เสียง จึงง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก เพราะ 4 ปีที่ คสช. บริหารประเทศ ได้วางกำลัง วางเครือข่ายไว้ถ้วนหน้า แถมมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ รองรับแผนนี้อีกต่างหาก

>> ส่องที่มา "ส.ว." ยุค "คสช." ตัวแปรเลือก "นายกฯ"!!!

เอาที่เห็นกันชัดๆ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี “ชวน ชูจันทร์” ขับเคลื่อน แม้จะยังเปิดตัวละครหลักออกมาไม่หมด แต่มีชื่อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ -อุตตม สาวนายน” 3 คีย์แมนทีมเศรษฐกิจ ปรากฏมาโดยตลอด พร้อมเชื่อมโยง “กลุ่มสามมิตร” ของ “3 ส.”  “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” 2 คนดังยุคไทยรักไทยเรืองอำนาจ

โดยที่อีก 1 ส.ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ “สมคิด” นั่นเอง แถมแว่วๆ ว่ามีอดีต ส.ส. นักการเมืองในเครือข่ายมากถึง 150 คน รอลงสนามเลือกตั้ง

>> "กลุ่มสามมิตร" เป็นใคร? ทำไมถึงจะถูก กกต.ตรวจสอบ

พรรคนี้จึงน่าจะเป็นขุมกำลังหลัก แต่จะชัดเจนแค่ไหน รอดูกันในวันเสาร์ที่ 29 ก.ย.นี้ จะมีประชุมผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ก่อนไปจดทะเบียนกับ กกต. อย่างเป็นทางการ

หันไปดูแถว “พรรคลูกหาบ” อื่นๆ ที่อาจจะเปลี่ยนมาเป็นพรรคตัวชูโรง หาก “พลังประชารัฐ” เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ก็หนีไม่พ้น “รวมพลังประชาชาติไทย”ที่มี “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ประกาศตระบัดสัตย์เพื่อชาติไปเมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมข่าวลือหนาหู จะมีอดีต ส.ส.ย้ายค่ายออกจากประชาธิปัตย์ตามมาสมทบอีก ที่ด้วยชื่อชั้น “ลุงกำนัน” บารมีพอตัวน่าจะดันให้พอมีตัวเลข ส.ส. 20+ ได้ไม่ยาก

>> “สุเทพ” เมินคนด่าตระบัดสัตย์ตั้งพรรคเอง ประกาศเดินสายทั่วประเทศ

ส่วนอีก 2 พรรค “ประชาชนปฏิรูป” ของ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” แม้จะไม่ค่อยหวือหวา แต่ก็ชัดเจนว่าหนุน “บิ๊กตู่” เช่นเดียวกันกับ “พรรคพลังชาติไทย” ของนายทหารเพื่อนนายกฯ อย่าง “พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์” ก็ค่อยๆ สร้างพรรคมารองรับเพื่อเหตุผลนี้

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีพรรคเก่าที่พร้อมร่วมด้วยช่วยกันให้ “ลุงตู่” ได้สมหวัง เช่น “ภูมิใจไทย” ที่มีภาพความสัมพันธ์แนบแน่นกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ร่วมทริปเยือนต่างประเทศอยู่บ่อยๆ

ขณะที่ “พรรคพลังชล” ของ “สนธยา คุณปลื้ม” แม้มีข่าวว่าจะเว้นวรรค แต่ภาพที่ปรากฏก็เหมือนจะร่วมเป็นกองหนุนอยู่แล้วกรายๆ โดยหัวหน้าพรรค “สนธยา” และน้องชายเข้ามาทำงานกับรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ หรือแม้แต่ “พรรคปลาไหล” ในตำนาน “ชาติไทยพัฒนา” ยุค “ลูกท็อป” ก็น่าจะร่วมขบวนด้วยไม่ยาก แถมยังมีพรรคสีฟ้า “ประชาธิปัตย์” เป็นอะไหล่อยู่อีกด้วย

>> คสช.ใช้ ม.44 แต่งตั้ง "สนธยา คุณปลื้ม" นั่งเก้าอี้นายกเมืองพัทยา

>> ครม.ตั้ง "สนธยา คุณปลื้ม" เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

ดังนั้น สมการโหวตเลือกนายกฯ 376 เสียง จึงดูจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ “ลุงตู่” ที่จะตีตั๋วต่อเป็น “นายกฯเพื่อชาติ”…อีกครั้ง