"อดีตทหารใต้" นอนหลับอยู่ในห้องพัก เจอตีนแมวย่องฉก "ปืนพก" หนีลอยนวล

อดีต อส.ทหารพรานใต้ กลัมบ้านมาหลับในห้องพักเจอโจรแอบย่องเงียบเข้ามาฉกปืนหนีลอยนวล เจ้าหน้าที่คาดคนร้ายอาจนำไปเป็นอาวุธใช้ในการก่อเหตุ

วันที่ 29 กันยายน 2561 เวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำศูนย์วิทยุตำรวจ ภูธร 191 จังหวัดลำปาง รับแจ้งจากนายอนุวัตร เถาโถ อายุ 31 ปี

ว่ามีเหตุคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ ภายในหอพักอริสา ซึ่งตั้งอยูที่ เลขที่ 125 บ้านศาลาดอน หมู่ที่ 3 ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ซึ่งขณะเกิดเหตุ ตนและแฟนกำลังนอนหลับอยู่ภายในห้อง จึงขอให้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจที่เกิดเหตุด้วย

หลังรับแจ้ง ประสานร้อยตำรวจโทหญิง ชรัทดา ธัญหมอ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เขลางค์นคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าตรวจที่เกิดเหตุร่วมกับผู้เสียหาย

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบ นายอนุวัตร ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ พร้อมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ห้องหมายเลข 3 ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ และเล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ตนกับแฟนกลับจากไปค้าขายผ้าที่ตลาด

กลับมาถึงห้องพัก เวลาประมาณ 09.00 น. จากนั้นด้วยความเหนื่อยล้าจึงนอนพักและหลับไป โดยเปิดประตูห้องทิ้งไว้เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว

กระทั่งเวลาประมาณ 14.00 น. ตนกับแฟน จะนำผ้าออกไปขายที่ตลาดอีกครั้ง จึงหันมาหยิบกระเป๋าหนังที่วางไว้ที่หัวนอนก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่ากระเป๋าหนังที่วางอยู่ที่หัวนอนได้หายไปแล้ว

โดยภายในกระเป๋ามีเอกสารสำคัญของทางราชการ รวมทั้งบัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารและอาวุธปืนสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซีแซด จำนวน 1 กระบอกอยู่ในกระเป๋าด้วย

ซึ่งตนซื้อเก็บไว้ขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารพรานที่ จ.ปัตตานี ตนจึงรีบค้นหาในบริเวณบ้านและในรถแต่ก็ไม่พบ จึงคาดว่าขณะที่หลับอยู่ น่าจะมีคนร้าย แอบย่องเข้ามาและหยิบกระเป๋าออกไปจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าตรวจที่เกิดเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าบันทึกภาพที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เขลางค์นคร จะตรวจดูกล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

และจากนี้เจ้าหน้าที่รวมทั้งชาวบ้านคงต้องเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น เนื่องจากคนร้ายได้อาวุธปืนไปแล้ว และอาจจะก่อเหตุที่รุนแรงขึ้น หากขณะก่อเหตุและพบเจ้าทรัพย์ต่อสู้ขัดขืน อาจจะถูกทำร้ายได้

ชาวบ้านจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่เอง