วิญญาณ “สายตำรวจ” เฮี้ยน! พยานหลอนย่องให้ข้อมูลตร.จับพี่ชายตัวเอง

วิญญาณ “สายตำรวจ” เฮี้ยน! พยานหลอนย่องให้ข้อมูลตร.จับพี่ชายตัวเอง

วิญญาณ “สายตำรวจ” เฮี้ยน! พยานหลอนย่องให้ข้อมูลตร.จับพี่ชายตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วิญญาณสายตำรวจตามหลอน น้องชายเข้าให้ข้อมูลตำรวจ อ้างกลุ่มพี่ชายเป็นคนฆ่า ก่อนช่วยกันขนย้ายศพขึ้นรถซาเล้ง นำศพไปทิ้งในคลองส่งน้ำ 

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพ นายกิฐติ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นสายตำรวจ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี สภาพขึ้นอืด ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนฆ่าทุบตีด้วยของแข็งมีบาดแผลบริเวณ คิ้วและท้ายทอยแล้วนำศพมาทิ้งเอาไว้ บริเวณริมคลองส่งน้ำกลางทุ่งนา ม.2 เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 

>> สายตำรวจถูกอุ้มฆ่า เมียสะอื้น จำศพผัวได้เพราะลายสักชินจัง

จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายได้เดินทางมาหา นายนารินทร์ หรือ ไก่ อายุ 43 ปี ที่บ้านพักของนายไก่ และถูกนายไก่ต่อว่าที่ผู้ตายเป็นสายให้ตำรวจ สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ทำให้เอเย่นต์ยาบ้า ในกลุ่มถูกจับกุมตัวไป

ด้วยความโกรธแค้นนายไก่ จึงได้ใช้ไม้ตีจนทำให้นายกิฐติเสียชีวิต แล้วนำศพไปซ่อนไว้ในคลองส่งน้ำ ก่อนที่จะเรียกพรรคพวกให้มาช่วยขนศพขึ้นใส่ซาเล้งไปที่ยังจุดที่พบศพ  เมื่อช่วงเช้าวันที่ 28 ก.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

>> พยานเล่านาที ก่อน "สายตำรวจ" ถูกฆ่าทิ้งศพในคลอง ล่าสุด จับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 ก.ย.) ที่ สภ.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดได้ ภายในคลองส่งน้ำ ม.2 ต.เชียงรากน้อย อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ใกล้กับจุดที่พบศพ 

จากนั้นได้ควบคุมตัว นายวีระศักดิ์ หรือ ดิ่ง อายุ 34 ปี น้องชายนายนารินทร์ หรือ ไก่ อายุ 43 ปี ผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบหนี ซึ่งนายวีระศักดิ์ หรือ ดิ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามจับกุมตัวมาได้ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่บ้านญาติ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา

ตรวจสอบปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ พร้อมพนักงานสอบสวน จึงได้ทำการสอบสวน นายวีระศักดิ์ หรือ ดิ่ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุ

นายวีระศักดิ์ หรือ ดิ่ง อายุ 34 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ทราบเพียงว่า พี่ชายของตนเองคือ นายนารินทร์ หรือ ไก่ และนายพิเชษฐ์ หรือ เต้ย อายุ 21 ปี และ นายนพรัตน์  หรือ เอ้ อายุ 34 ปี ได้มีการโทรติดตามตัวนายกิฐติ ผู้ตาย มาสอบถามเรื่องการเป็นสายตำรวจ จนทำให้เอเย่นต์ยาบ้าในกลุ่มถูกจับกุมตัวไป จนเกิดการโต้เถียงกันแล้วรุมทำร้ายร่างกาย

ตนมาทราบช่วงกลางดึกตนออกไปดูในคลองส่งน้ำ พบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ในคูน้ำ จากนั้นพี่ชายของตนเองพร้อมกับ นายพิเชษฐ์ หรือ เต้ย และ นายนพรัตน์ หรือ เอ้ ช่วยกันขนย้ายศพขึ้นรถซาเล้งนำศพไปทิ้งในคลองส่งน้ำ ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร

จากนั้นพี่ชายได้มาขอร้องให้ตนหลบหนีไปด้วยกัน เพราะเชื่อว่าถ้าตำรวจติดตามตัวมาต้องจับตัวเองไปด้วย แต่หลังจากตนเองหลบหนีไปได้เพียง 1 เดือน วิญญาณของผู้ตายติดตามตัวเองมาเกาะขาและเขย่าตัว รวมถึงกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพ

พี่ชายชวนตนเองหนีต่ออีกตนไม่ขอติดตามไปด้วย เพราะกลัววิญญาณจึงได้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาพบตัว ตนเชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายต้องการให้ตนช่วยเหลือจึงได้ยอมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นับตั้งแต่ที่ตนเองมาอยู่ ที่โรงพักเมื่อคืน วิญญาณของผู้ตายหายไปเลย

พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.ช้างใหญ่ กล่าวว่า ในเบื้องต้นขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้ว และทราบแหล่งกบดานแล้วส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตัว พร้อมกับทางพนักงานสอบสวนเร่งสอบพยาน

และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่ออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหา 3 คน ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุในการตาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook