เผยวงจรปิด แก๊งโจ๋สุดเหี้ยมรุมกระทืบเจ้าของหอพัก ก่อนดักทำร้ายซ้ำจนตาย
ตำรวจล่า 4 แก๊งโจ๋รุมกระทืบเจ้าของหอพักดับ ไม่พอใจหลังห้ามเหตุวิวาทในหอพัก
กล้องวงจรปิดของหอพักแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 6 ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ บันทึกภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันระหว่างผู้เช่าอาศัยห้องพักสองห้อง จนมีการเรียกสมัครพรรคพวกอีกกว่า 10 คน เข้ามาช่วย เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย มีความพยายามพังประตูห้องพักและทุบกระจกหน้าต่างจนแตกเสียหาย เพื่อจะเข้าไปทำร้ายคนที่อยู่ในห้อง
ขณะที่ นายจรูญ อายุ 60 ปี เจ้าของหอพัก ขี่รถจักรยานยนต์โดยมีภรรยาซ้อนท้ายเข้ามายังหอพัก เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปห้ามปราบ แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมเข้ามาชกต่อยและทำร้าย ลุงจรูญจึงขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
แต่ระหว่างทางกลับถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายบนถนนซ้ำอีก ใช้ทั้งหมวกกันน็อกทุบและใช้กระเป๋าเดินทางฟาด รุมเตะต่อย จนบาดเจ็บสาหัส ญาติได้นำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 ก.ย.) พ.ต.อ. ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และสอบปากคำภรรยาของนายจรูญผู้เสียชีวิต ขณะเดียวกันได้กำชับให้ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรสันทราย เร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ขณะที่ นางศิริวรรณ อายุ 58 ปี ภรรยาของนายจรูญผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุขณะสามีถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย ได้เข้าไปขอร้องกลุ่มวัยรุ่นให้หยุดทำร้าย โดยบอกว่าสามีเป็นเจ้าของหอ คนร้ายจึงหยุดทำร้ายและเข้าไปหาคู่อริในห้องพักหมายเลข 4 ขณะที่สามีก็ขี่รถจักรยานยนต์รีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ต่อมาลูกชายรีบเดินทางมาหาระหว่างทางสังเกตเห็นมีคนบาดเจ็บนอนอยู่ข้างทาง จึงถามว่าพ่อไปไหนและไปนานหรือยัง จึงพากันเดินย้อนไปดูคนที่บาดเจ็บ ปรากฏว่าเป็นนายจรูญจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่สุดท้ายก็เสียชีวิต
พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำและตรวจสอบกล้องจรปิด ทราบแล้วว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ คือ นายอนิวัฒน์ อายุ 26 ปี และ นายบรรจง อายุ 18 ปี บ้านอยู่ตำบลป่าไผ่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับพวกรวมกว่า 4 คน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายศาล และจะเร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด