คดีร่างทรงฤๅษีตาไฟข่มขืนสาว 17 ญาติเหยื่อปิดปาก ไม่เจรจายอมความ
ความคืบหน้าร่างทรงฤๅษีตาไฟข่มขืนสาวอายุ 17 ปี ญาติเหยื่อไม่เจรจายอมความและรับชดใช้ค่าเสียหาย ขณะที่ตำรวจเร่งสรุปสำนวนคดีส่งฟ้อง
จากกรณีที่ นายสุรสิทธิ์ อายุ 40 ปี หนุ่มพิการชาวบ้านละทาย จ.ศรีสะเกษ อ้างตัวเป็นร่างทรงฤๅษีตาไฟ ถูกผู้ปกครองของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษว่า ได้ทำการล่อลวงลูกสาวไปทำการข่มขืนกระทำชำเราที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งริมถนนสายศรีสะเกษ – ขุขันธ์ อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ เหตุเกิดระหว่างวันที่ 26 – 27 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาหนักคือ พรากผู้เยาว์และข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.วันปิติ พฤทธิกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ซึ่งควบคุมกำกับดูแลทีมพนักงานสอบสวน คดีนี้ ให้ทีมพนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการสอบสวนปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
เนื่องจากว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการตรวจพิสูจน์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลภูสิงห์ยืนยันว่า น.ส.เอ เด็กสาว อายุ 17 ปี มีร่องรอยของการร่วมเพศ และผลการตรวจดีเอ็นเอ จากผู้เสียหาย ซึ่งส่วนราชการที่รับผิดชอบเรื่องนี้ ได้จัดส่งผลการตรวจพิสูจน์มาให้ทีมพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ในเร็วๆ นี้
ขณะเดียวกันทางฝ่ายญาติของเหยื่อร่างทรงฤๅษีตาไฟ ได้พากันรวมตัวเปิดเผยว่า พวกตนจะไม่มีการประนีประนอมยอมความกับทางฝ่ายร่างทรงอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะมีการเสนอค่าเสียหายให้กับทางฝ่ายผู้เสียหายเท่าใดก็ตาม เพราะพวกตนถือว่าเรื่องนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับทางฝ่ายลูกหลานของพวกตนเป็นอย่างมาก พวกตนขอให้ทางพนักงานสอบสวนคดีนี้ให้ความเป็นธรรมกับพวกตนด้วย
หากมีข้อกล่าวหาใดที่จะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับร่างทรงฤๅษีตาไฟ ขอให้เร่งรัดพิจารณาดำเนินการให้ด้วย เนื่องจากว่า พวกตนเป็นเพียงชาวบ้านนอกธรรมดาไม่ได้เรียนรู้เรื่องกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งพวกตนยืนยันว่า จะขอดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่งกับร่างทรงฤๅษีตาไฟจนถึงที่สุด