18 ล้อบรรทุกดินพ่วงหลุด! พุ่งชนกวาดเรียบร้านค้าริมถนน หนูน้อยวัย 2 ขวบดับคาที่

18 ล้อบรรทุกดินพ่วงหลุด! พุ่งชนกวาดเรียบร้านค้าริมถนน หนูน้อยวัย 2 ขวบดับคาที่

18 ล้อบรรทุกดินพ่วงหลุด! พุ่งชนกวาดเรียบร้านค้าริมถนน หนูน้อยวัย 2 ขวบดับคาที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 ต.ค. 61 ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ ใจเที่ยง ร้อยเวร สภ.ป่าโมก ได้รับแจ้งมีเหตุรถบรรทุกดิน 18 ล้อ พ่วงหลุดพุ่งชนร้านค้าริมถนนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณถนนบางบาล-โผงเผง หมู่ที่ 4 ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง จึงประสานงานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยวีอาร์อ่างทองรุดไปยังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบรถพ่วงบรรทุกดิน 18 ล้อ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน 80-9288 อ่างทองจอดอยู่กลางถนน บริเวณด้านท้ายรถมีรอยฉีกขาด ห่างออกมาเล็กน้อยพบร้านค้าริมถนนถูกพ่วงของรถคันดังกล่าวชนกวาดจนราบเป็นหน้ากลอง

มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนางสาวสายฝน นิกรพันธ์ อายุ 51 ปี เจ้าของร้านดังกล่าวนอนร้องครวญครางอยู่ในกองร้านค้าที่พังเสียหายทั้งหมด ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยวีอาร์อ่างทองจึงเร่งนำตัวส่ง รพ.ป่าโมก เบื้องต้นอาการสาหัส

นอกจากนี้ยังพบร่างของ เด็กชายข้าวกล้อง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 2 ขวบหลานของนางสาวสายฝนเสียชีวิตอยู่ในกองเศษไม้ดังกล่าว โดยในที่เกิดเหตุเพิงร้านค้าขนาดใหญ่พังลงไปทั้งหมด และยังมีรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายอีก 2 คัน

ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเล่าว่าได้ยินเสียงดังโครมใหญ่จึงรีบออกมาดู และพบว่าร้านค้าของนางสาวสายฝนที่ทำหนีน้ำท่วมเมื่อหลายปีก่อนเพื่อขายของริมถนนพังจนหมดทั้งหลัง โชคดีช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงสายแล้ว หากเป็นช่วงเช้าที่มีคนมาซื้อของที่ร้านนี้มากอาจจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้

เบื้องต้นจากการสอบสวน นางสาวสิริยากร การสมบัติ อายุ 29 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าวทราบว่า รถคันดังกล่าวบรรทุกดินจากบ่อดินซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุเพื่อที่จะไปลงที่ท่าดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ขณะที่ขับรถมาใกล้ถึงที่เกิดเหตุมีหลุมขนาดใหญ่ทำให้รถเกิดเสียหลัก ซึ่งคนขับพยายามควบคุมรถแต่ด้วยน้ำหนักและความเร็วทำให้ไม่สามารถควบคุมได้ทำให้พ่วงหลุดลงไปชนร้านค้าที่อยู่ข้างถนนอย่างแรงจนพังราบ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นางสาวสิริยากรไว้ดำเนินคดีแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook