"มินดา" ปล่อยโฮ ผิดเองที่เชื่อใจ งัดหลักฐานซัดกลับ "แซ็ค ชุมแพ" ไม่ได้เรียกค่าเสียเวลา 2 ล้าน
หลังจากที่นักร้องลูกทุ่ง แซ็ค ชุมแพ เจ้าของเพลงฮิต คำแพง ได้ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงถึงความสัมพันธ์กับนักแสดงอิสระ มินดา มีทรัพย์สิน โดยยืนยันว่าเคยคบกับฝ่ายหญิงจริง แต่ไม่ได้ท้อง และได้เลิกรากันมานานถึง 4 เดือนแล้ว พร้อมแฉต่อว่าฝ่ายหญิงได้เรียกร้องค่าเสียเวลาที่คบกันเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท
>> "แซ็ค ชุมแพ" แถลงหมดเปลือก ปมเลิก "มินดา" งัดหลักฐานถูกเรียกเงินค่าเสียเวลาคบ 2 ล้านบาท
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (1 ต.ค.) มินดา มีทรัพย์สิน จึงขอตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงถึงอีกมุมบ้าง โดยมี คุณแม่ปัญชลีย์ วัฒนชัยศาสตร์, คุณสราวุธ ทูละมาลย์ ผู้จัดการส่วนตัว และ คุณพลอยลภัสร์ ธรรมวัฒนโชค พี่สนิท มานั่งร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย
มินดา : "สำหรับวันนี้ที่ออกมาอยากจะออกมาปกป้องตัวเราเองและครอบครัวของเรา เพราะเราเป็นผู้หญิง แล้วเราถูกต่อว่าจากหลายๆ คนอยากจะออกมาพูดความจริงให้ทุกคนได้เข้าใจ"
มินดา : "ตามที่แซ็คบอกเลยคือเราเจอกันผ่านทาง เฟซบุ๊คและก็มีพ่อสื่อติดต่อให้หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์มาเป็นแฟนกันได้คบกันโดยที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายรับรู้"
หญิง : "มีประเด็นที่คนสงสัยที่ว่ามินดามาโพสต์ถามหาความแมน แล้วถูกตีโจทย์กันไปว่าท้องหรือเปล่าอันนี้ คือน้องมินดาอยากจะออกมาพูดว่า น้องไม่ได้โพสต์เพื่อให้ตีความหมายไปอย่างนั้น ส่วนที่มาที่ไปว่าทำไมน้องถึงโพสต์ว่าไม่แมน เนื่องจากน้องติดต่อไม่ได้ติดต่อแซ็คไม่ได้ประมาณ 2 เดือน ส่งข้อความไป ส่งไลน์ไปโทรหาก็อย่างที่แซ็คพูดเขาก็พูดความจริงนะก็คือว่าเขาไม่รับอะไรเลย ซึ่งเป็นอีกที่มาหนึ่งของคลิปที่มินดาไปตามหาเขาที่ห้างแถวแจ้งวัฒนะ”
หญิง : “หลังจากวันนั้นก็มีคลิปนั้นออกมาจากเฟซบุ๊คน้องมินดาเองแล้วก็เริ่มมีแฟนคลับแซ็คเข้ามาถล่มว่าไปตามหาเขาทำไม ไปทำลายงานเขา ไปทำลายชื่อเสียงเขาในงาน ทำไมมีอะไรไม่ออกมาคุยกันเอง นี่คือสิ่งที่น้องโดนหลังจากนั้นคลิปนี้ก็ถูกแชร์ออกไปเยอะมาก จากนั้นน้องก็ส่งคลิปที่เป็นคลิปส่วนตัวที่น้องร้องไห้เป็นคลิปที่น้องพูดกับผู้ใหญ่ที่นับถือมาให้หญิง เราเริ่มเห็นสถานการณ์ว่าน้องโดนเยอะโดนว่าจากบางคนที่ไม่รู้จัก บางคนก็บอกว่ารู้จักน้องดีว่าน้องอยากดัง อยากเกาะกระแสแซ็ค คืออยากออกมาพูดว่าถ้าอยากเกาะกระแสแซ็คจริงๆ ก็น่าจะออกมาตั้งแต่ตอนเป็นแฟนกัน ตั้งแต่ตอนที่น้องคบกับแซ็ค อาจจะปล่อยคลิปหรือว่าอะไรทุกวิถีทางที่เราจะทำ ซึ่งมันเป็นวิธีสกปรก ทางเราไม่คิดที่จะเลือกทำ ก่อนหน้านี้ก็มีการตกลงคุยกันว่าคบกันแต่ก็ไม่ได้อยากให้เปิดเผยเพื่องานน้องเข้าใจและฉันเองก็เข้าใจรวมถึงคนรอบข้างของน้องก็เข้าใจ"
ผจก.สราวุธ : "ผมเองซึ่งเป็นผู้จัดการน้องก็ไม่อยากให้น้องคบกัน อยากให้น้องตั้งใจทำงานคือคิดว่าถ้าคบกันกับทางแซ็คมันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ผมอยากให้น้องคบกับคนที่เหมาะสมกัน และสุดท้ายเรื่องที่เขาออกมาพูดว่าเราเรียกเงิน 2 ล้าน ผมคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องจริง น้องมินดาเสียโอกาสหลายอย่างจากการที่พบกับแซ็ค ตอนที่อยู่ด้วยกัน แซ็คก็ไม่อยากให้น้องมินดาไปทำงานอยากให้น้องอยู่กับเขาเหมือนป๊อปปี้เลิฟ คนรักกัน ผมในฐานะของคนดูแลงานก็โกรธเขา เพราะน้องมินดามีละครสองเรื่องและเอ็มวี รวมถึงรายการอะไรต่างๆ อีกเป็นงานที่เข้ามาตอนคบกับแซ็ค ซึ่งน้องก็เสียโอกาสตรงนี้ไป นี่คือประเด็นที่เขาพูดถึงเรื่องเงิน 2 ล้าน แต่คือเราไม่ได้ไปเรียกเงินนะ"
สรุปสาเหตุที่เราเลิกกับแฟนเพราะอะไร ?
มินดา : "ต้องถามว่าเขาเลิกกับหนูเพราะอะไร เขาให้เหตุผลที่เลิกกันว่า ไปด้วยกันไม่ได้ ถามว่าเลิกกันมานานแค่ไหนแล้วก็ตามแชทที่ลงเลยคือ คุยกันวันที่ 3 กรกฎาคม พอวันที่ 8 กรกฎาคม เขาก็บอกเราแบบนั้นเลยคือประมาณ 2 เดือน"
แซ็คบอกว่าที่เลิกกันเพราะเขาไม่มีเวลาให้และเราเองก็เรียกร้องเวลาจากเขา ?
มินดา : "คือเขาไม่ได้พูดต่อหน้าในแชทที่เขาไลน์มาเขาบอกว่าเราไปด้วยกันไม่ได้เราก็ถามเขาว่าไปด้วยกันไม่ได้แล้วเขายังรักกันอยู่หรือเปล่าเขาก็บอกว่ายังรักแต่ว่าเราไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ เราก็ถามว่าหรือว่าเพราะเขามีคนอื่นเขาก็บอกว่าเขาไม่มีใครแต่ว่ามันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ สำหรับเรา เราไม่เข้าใจว่าการที่ไปด้วยกันไม่ได้มันเนื่องมาจากสาเหตุอะไร เราไม่ได้มีการทะเลาะอะไรกันรุนแรง แต่อยู่ดีๆ เขาก็บอกเราแบบนั้น”
มินดา : “ส่วนเรื่องสัญญาณเหตุที่ว่าจะเลิกจริงๆ ก็มีแชทที่ว่าคนอื่นส่งมาให้เรา เล่นแชทเรื่องของมือที่สามคือมีผู้หญิงทักเข้ามาหาเขาแล้วมันเด้งไลน์ขึ้นมาเราก็กดเข้าไปดู ก็เห็นข้อความซึ่งอันนี้คือเราถ่ายจากมือถือของเขา มีข้อความแบบนี้ กินน้ำอุ่นเด้อ อยากกินน้ำเย็นเด้อ คุณพักผ่อนหลายๆ สู้ๆ นะคะ เขาก็ตอบไปว่าจ้าคิดถึงเด้อ ผู้หญิงก็ตอบกลับมาว่าคิดถึงเหมือนกันจ้ารักมากด้วย"
ช่วงเวลาที่คบกันมีการแคะระคายไหมว่าเขามีคนอื่น ?
มินดา : "เราเห็นข้อความนี้ประมาณช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งตอนนั้นเขาเองก็ยังไม่ได้บอกเลิกเราหลังจากที่ได้เห็นข้อความนี้เราก็มีการทะเลาะกันมาตลอดตอนนั้นเขาบอกว่าผู้หญิงในแชทเป็น FC ก็คุยกันตามปกติหลังจากที่เราเห็นแชทนี้ เราก็เห็นเขาคุยแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แต่เราก็เชื่อเขาตามที่เขาบอกจากนั้นก็มีคนรอบตัวเขาพยายามที่จะบอกเราว่าในสิ่งที่เราสงสัยว่าเขามีคนอื่น คือเขามีจริงๆ ซึ่งระหว่างนั้นก็มีคนส่งหลักฐานมาให้เราเรื่อยๆ"
แล้วเราได้ถามเขาไหมว่าเขามีคนอื่นจริงๆ รึเปล่า ?
มินดา : “ถามตลอดค่ะ พี่เขาก็บอกว่าพี่จะบอกให้คิดอย่างนึงถึงมันจะมีใครตัวจริงก็คือตัวจริงสุดท้ายก็ต้องกลับบ้าน เราก็บอกไปว่านี่แหละที่หนูสับสน เราจะทนได้เหรอที่เราจะอยู่เป็นตัวจริงเพื่อรอให้เขากลับบ้าน”
เราสงสัยว่าที่เขามาบอกเลิกเราเพราะเขามีคนอื่น ?
มินดา : “มันมีเรื่องพวกนี้มาโดยตลอด มีคนบอกว่าสุดท้ายมินดาก็เลือกเชื่อตัวเองเหมือนเดิม มินดาก็บอกว่าเราไม่ได้จะเชื่อใคร อยากรอฟังจากแซ็คก่อน ได้คุยก็จะถาม ไม่ได้คุยก็ไม่ถาม”
แต่สาเหตุที่เลิกกันจริงๆ คือเข้ากันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าจับได้ว่าเขามีคนอื่น ?
มินดา : “ทั้งสองอย่างค่ะ แต่เขาไม่ยอมรับว่าเขามีคนอื่น”
คนอื่นไม่อยากให้คบกับแซ็ค ทำไมมินดาถึงยังเลือกคบกับเขาอยู่ ?
มินดา : “เรื่องของความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคน เราใช้หัวใจ เราไม่ได้ใช้ความรู้สึกหรือว่าอะไร เราเชื่อในหัวใจของเรา”
ผจก.สราวุธ : “ก็ถึงกับออกกฎห้ามเลยด้วยซ้ำ ผมเองแบนน้องไปเลยระยะนึง เป็นเหตุที่น้องต้องมาเสียรายได้ ผมว่าคบกับเขาแล้วน่าจะไม่ดี น่าจะไม่มีงานเข้ามา ผมเลยบอกน้องว่าถ้าคบกับคนนี้แบนนะ งานคงต้องหยุดไว้ก่อน นี่คือสาเหตุที่ทำให้น้องเสียรายได้ไป จนผมสงสารเขา ดูแล้วเขารักกันจริงๆ เราก็เลยยอม แต่เราก็อยากให้เขาเลิกกัน เพราะไม่อยากให้เขาเสียงาย แต่พอน้องมาร้องได้แล้วบอกว่าพ่อคะหนูรักเขา เราก็แบบ...คนรักกัน เราก็ไม่รู้จะทำยังไง”
มินดา : “ตอนที่คบกับแซ็คเขาก็มีกฎ มีข้อตกลงกัน แซ็คบอกว่าเขาจะไม่บอกสื่อว่าเขามีแฟน แต่คนอื่นที่ไม่ใช่สื่อเขาบอก คนอื่นส่วนใหญ่ก็รับรู้ว่าแซ็คมีแฟน”
อะไรคือสาเหตุที่เราโพสต์ว่าแซ็คไม่แมน จนเรื่องบานปลาย ?
มินดา : “ที่ผ่านมาก็มีคนหวังดีส่งอะไรต่างๆ นานาเกี่ยวกับเขาว่าเขามีคนอื่นมาให้เรารับรู้ แต่มันก็ไม่มีหลักฐานมายืนยันว่าเขามีคนอื่นจริง มินดาเองพยายามติดต่อเพื่อจะไปคุยเรื่องนี้กับเขา แต่เขาไม่รับสาย เขาเงียบ เราก็เลยไปที่งานเพื่อที่เราเองอยากฟังความจริงจากปากเขา”
แล้วทำไมเราถึงบอกกับคนอื่นว่าเราท้อง ?
มินดา : “ไม่ได้ท้อง และไม่เคยพูดว่าท้องเลยค่ะ เราเองก็ไม่ทราบด้วยว่าเรื่องนี้มาจากไหน ถ้าทางนั้นมีคลิปก็ให้เขาเอาคลิปออกมายืนยัน กล้ายืนยันตรงนี้เลยว่าเราไม่ได้พูด”
หญิง : “แค่น้องไปตามผู้ชายก็อายมากพออยู่แล้ว”
แสดงว่าคนตรงนั้นเข้าใจผิดกันไปเอง ที่มีการ์ดมาตะโกนว่า อย่าทำคนท้อง ?
มินดา : “เขาอาจจะเข้าใจผิดหรือไปได้ยินคนอื่นมาก็ได้ แต่เราไม่ได้พูดแน่นอน คนที่ไปกับเราก็ไม่ได้พูด”
แล้วทำไมวันนั้นเราถึงตัดสินใจไปเรียกร้องกลางห้างขนาดนั้น ?
มินดา : “ไม่ได้จะเรียกร้องอะไรค่ะ เราเห็นเขาไปโชว์ตัว เราก็จะเข้าไปหาแต่เรายังไม่ทันได้ถึงตัวเขาเลยก็ถูกการ์ดกันออกไป แต่ก็ไม่ได้คุย หลังจากที่ถูกการ์ดกันแล้วเราก็เลยโพสต์เฟซไป มันไม่ไหวแล้ว มันสุดหนทางแล้วจริงๆ เพราะคิดว่าเขาต้องเห็นและรีบทักเรามา แต่เขาก็ไม่ได้ทักมา”
เขาทำกับเราขนาดนี้ทำไมเราถึงยังเลือกเขาอยู่ ?
มินดา : “เราปรึกษาแม่ตลอดว่าเราเจออย่างนี้ต้องทำยังไง แม่ก็บอกตลอดว่าถ้าเรารักเขา เราต้องให้เกียรติเขา เราต้องเชื่อในสิ่งที่คนของเราพูด(เสียงสั่น)”
คุณแม่ : “เลิกหรือไม่เลิกเขาไม่ได้ซีเรียส แต่เขาไปยึดติดกับคำที่แม่สอนว่ารักแฟน เรามีแฟนหรือเราอยู่กับแฟนอยู่กับใครสักคนเราอย่าไปเชื่อคนอื่น คนใส่ร้ายมันมีได้ของคนที่อยู่ในวงการ เลยจะยึดถือว่าเขาอยากได้ยินจากปากแซ็คเท่านั้นเอง ณ วันนี้ถ้าแซ็คเดินมาบอกว่าเลิกกันด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ น้องเขายอมรับได้อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อยากจะเลิกกันเพราะความเข้าใจผิดหรือมีคนมาใส่ร้ายเท่านั้นเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าแซ็คออกมาแล้วคุยกับมินดามันก็จบ โดยที่ไม่ต้องมาแถลงข่าวเลย เขาคบกันทางบ้านรับรู้ ยืนยันเลยว่าเงิน 2.2 ล้าน มินดาไม่ได้เรียกร้อง ที่แชตไปคุยกับแม่แซ็คแค่อยากจะบอกว่าแซ็คยืมเงินไป มีค่าอะไรบ้าง แล้วเขาเสียเงินต่างๆ จากการที่เขาโดนแบนงาน เขาทิ้งงานเพื่อที่จะไปอยู่กับแซ็ค งานที่เขาเสียไปเสียอะไรบ้าง เขาต้องการแสดงให้เห็นว่าเขารักแซ็คจริงๆ เขาจริงใจและจริงจังตามที่แซ็คเคยบอกกับมินดาไว้ว่าเราจะต้องมีการแต่งงาน ค่าเสียเวลาของมินดาก็เอาไปรวมกับค่าสินสอด ซึ่งแม่บอกลูกเสมอว่าเรารักใคร คบใครแม่ไม่เคยมองเรื่องของฐานะทางการเงิน ขอแค่ให้ผู้ชายคนนั้นเป็นคนดี และรักลูกแม่จริงๆ ครอบครัวเรา ตระกูลเราเป็นครอบครัวทำมาหากิน เราเชื่อว่าเราช่วยกันสร้างครอบครัวช่วยกันทำมาหากินเราก็อยู่ได้โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปเอาเงิน 2.2 ล้านจากใครมา ยืนยันว่าไม่มีเรื่องตรงนี้ ลูกคบแซ็ค ครอบครัวเรารู้กัน ครอบครัวบ้านแซ็คเป็นยังไงเราก็ทราบดี”
มินดา : “ที่หนูพยายามติดต่อแซ็คไม่ได้เลย แต่หนูก็มีการพูดคุยกับแม่ตลอด คุยกัน 2-3 วันคุยกันที ไม่แชทก็โทรศัพท์คุยกัน หนูก็ฝากบอกทางแม่ว่าถ้าได้คุยกับแซ็คก็ให้เขาโทรหาหนูหน่อยนะ เพราะหนูมีเรื่องจะต้องคุย ต้องเคลียร์กับแซ็คจริงๆ แม่ก็บอกจะบอกให้ เหมือนแม่ก็บอกเขาไปหลายครั้งแล้ว แต่เขายังเงียบอยู่ เขาบอกกับแม่ว่าเดี๋ยวเขามีเวลาจะติดต่อมาเอง ซึ่งทางเราก็รอ รอมานานมาก”
มินดา : “จนวันที่แซ็คกำลังจะไปยุโรป คือไปต่างประเทศครั้งล่าสุด แม่ก็ไปส่งแซ็ค แล้วแม่ก็ได้ถามแซ็คเรื่องที่ยืมเงินไปเท่าไหร่ แม่เลยแชทถามหนูว่าเงินที่แซ็คยืมมินดาเท่าไหร่ เดี๋ยวแม่จะคืนให้ หนูเลยถามแม่ว่าได้คุยกับแซ็คแล้วเหรอ เขาว่าอย่างไรบ้าง แล้วแซ็คได้บอกแม่ไหมว่าเขาจะติดต่อกลับมาหาหนูไหม ก็คือมันมีการคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว ก่อนที่จะเข้าประเด็นเงินตรงนั้นค่ะ”
คุณแม่ : “เรื่องเงินในแชทคือมันออกมาไม่หมด ที่แซ็คเอาออกมามันไม่หมด มันแค่บางส่วน มันต้องรู้อีกว่าแม่คุยอะไรกับมินดา มินดาบอกว่าเรื่องเงินมันไม่สำคัญ มันสำคัญที่ใจมากกว่า เพียงแต่เราอธิบายว่าใจเรายอมทิ้งเงินไปขนาดนี้ เพื่อมาคบกับลูกแม่ แม่คิดยังไง แชทเราไม่ได้ลบ เรามีแชททั้งหมด“
หญิง : “พอแชทมันออกมาไม่หมดคนเลยเข้าใจน้องผิดว่าน้องกลายเป็นไปเรียกร้องเงิน เรียกร้องค่าเสียเวลา เรียกค่าตัว เราโดนกระแสโจมตี เป็นผู้หญิงหน้าเงิน ประเด็นนี้อยากให้ตัดออกไปเลย น้องไม่ได้เรียกร้องเรื่องเงิน”
คนมองว่าค่าอะไรต่างๆ เราเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ?
คุณแม่ : “ถ้ามองมุมกลับกัน คนทำไมไม่มองว่าน้องยอมเสียเงินเยอะขนาดนี้ เพื่อมาทุ่มเทให้ผู้ชายคนนี้ เพราะมันไม่ได้สำคัญที่เงิน มันสำคัญที่ใจ เดี๋ยวเอาแชทน้องไปดูรายละเอียดทั้งหมดเลยจะได้รู้ว่ามันคืออะไร อยากอธิบายให้แม่เขาเข้าใจแค่นั้นเองว่า ที่เราทุ่มเทคือใจเราเต็มๆ แค่นั้น”
ถัดมาอีกเดือนหนึ่งมีลดราคาให้ด้วย เรื่องจะจบ ?
มินดา : “อันนั้นไม่มีค่ะ ไม่รู้ด้วยว่ามาจากไหนค่ะ เพราะว่าแชทจริงหนูไม่ได้ลบคุยกับแม่ มีวันที่มีอะไรที่คุยกันมาตลอดนะคะ ไม่ได้มีไปลดเหลือห้าหมื่นหรืออะไรค่ะ หนูบอกว่ามีห้าหมื่นแต่ไม่ได้มีการแจงรายละเอียด และไม่ได้ออกมาจากแชทของเราค่ะ “
หญิง : “บอกแค่ว่าจำนวนเงินห้าหมื่นมาจากที่แซ็คมายืมเงินน้องครั้งละพัน สองพัน สามพัน มีแซ็คยืมบ้าง น้องของแซ็คยืมบ้าง แซ็คไม่อยู่โอนให้แม่ ก็รวมๆ ไปว่าประมาณก้อนนี้ห้าหมื่น น้องบอกว่าแล้วแต่แม่ก็แล้วกันค่ะ แม่จะโอนมาเท่าไหร่ ซึ่งวันนี้น้องก็ยังไม่ได้เงินจำนวนนี้คืน แล้ววันนั้นที่แซ็คแถลงข่าวที่บอกว่าคืนแล้ว ก็เป็นเงินค่าน้ำมันรถตู้ ที่แซ็คบอกให้มินดาโอนให้กับพี่คนขับรถตู้โดยตรง ไม่เกี่ยวกับเงินที่ยืมกันครั้งละพัน สองพัน”
สรุปห้าหมื่นมีจริงไหม ?
หญิง : “มีจริงค่ะ หมายถึงแปดหมื่น ห้าหมื่นไม่มีค่ะ”
มินดา : “หนูพิมพ์ไปว่าเกือบห้าหมื่น ถามแซ็ค ไม่ได้ลดราคาอะไร”
คุณแม่ : “ถึงบอกว่าให้เอาความจริงออกมาให้หมด พูดความจริงดีกว่า พูดให้มันจบ เราจะได้ไม่ต้องมานั่งโต้กันไปมา คือทางนู้นจะพูด พูดเลย เอาหลักฐานออกมาให้จบ เอาออกมาให้หมด อย่างเรา เรามีหลักฐานทั้งหมด เราก็ต้องการออกมาปกป้องศักดิ์ศรีลูกของเราเหมือนกัน เพราะพูดอะไรไป ลูกเราคือผู้หญิง พูดอะไรมาเราก็เสียอยู่แล้ว วันนี้เราเอาหน้าเรามา เหมือนเรามานั่งแก้ผ้าให้คนอื่นดูว่า ลูกเราไปนอนกับผู้ชายหรอ ไปเสียตัวให้แซ็ค เสียตัวไม่พอ เสียเงินอีกต่างหาก สังคมประนามว่าลูกเราโง่ แต่ถามว่าคนเราทำไปจากความรู้สึกที่เรารักผู้ชายคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องผิด แต่วันนี้ศักดิ์ศรีที่เอาไปแล้ว ผู้ลายกลับมองว่าเราเป็นฝ่ายผิดทั้งหมด ถ้าคุณแมนจริงๆ ออกมาพูดแบบลูกผู้ชายดีกว่านะคะ”
มินดารู้สึกยังไงที่คนตีความไปว่าเราเรียกร้องเงิน เพราะมีประโยคที่ว่าจ่ายมาก็จบ ?
มินดา : “จ่ายมาก็จบ เรื่องก็จบ ไม่มีค่ะ แชทอันนี้มันไม่มีเลยค่ะ”
หญิง : “คืออันนี้ไม่ทราบว่าแชทนี้ทางแซ็คเขาได้มาได้ยังไง แต่ทางมินดายืนยันว่าไม่ได้มีการเรียกร้องเงิน ไม่ได้มีการข่มขู่ว่าจ่ายห้าหมื่นจบแซ็ค จ่ายแปดหมื่นจบทุกคน ไม่มีคำนี้แน่นอน เพราะว่าเรื่องพวกนี้มันปิดกันไม่ได้นะคะ ถ้ามันมีจริงๆ แล้วเขาเอามาเปิดเผยยังไงน้องก็เสียหาย ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรเขาเสียหายอยู่แล้วค่ะ ไม่มีค่ะ”
มินดา : “แม่บอกว่ามินดาส่งเลขบัญชีมาให้แม่นะ แม่จะโอนคืน แม่ก็ได้รับรู้แค่ในฐานะแม่ หนูว่าแม่ให้เขามาเคลียร์กับหนูก่อนดีกว่าไหมคะ คือเขาบอกกับหนูว่าให้ไปรวมกับค่าสินสอดทีเดียวเลย หนูบอกแบบนี้ แล้วหนูก็อธิบายไป ก็คือจริงๆ ตัวหนูไม่ได้ต้องการเรียกร้องเงินหรืออะไร คือต้องการให้แซ็คออกมาเคลียร์กับหนูก่อน ออกมาคุยกับปัญหาที่เราค้างคาใจก่อน ในเรื่องประเด็นที่ว่ามีคนนั้น คนนี้มาบอกเรา ที่ว่าเขาเที่ยวไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น มันมีแชทเหล่านี้ส่งมาหาเราตลอด”
มีการดูแชทเฟซบุ๊กที่เป็นข่าวอ้างว่าจ่ายห้าหมื่นจบแซ็ค จ่ายแปดหมื่นจบทุกคน ?
มินดา : “อันนี้แชทคุยกับใครคะ”
ยืนยันว่าแชทที่เขาได้มามันปลอม ?
มินดา : “ตอนนี้มันมีเฟซปลอมออกมาเยอะมากค่ะ แต่ว่าที่คุยกับแม่แซ็คคือมีแค่ที่หนูเอาให้ดูจริงๆ”
หญิง : “ถ้าเรื่องเฟซอวตารหญิงอาจจะขออนุญาตพูดแทนน้องนะคะ น้องอาจจะยังฟุ้งอยู่ ก็หลังจากที่หญิงโพสต์คลิปมันก็มีเฟสที่เป็นแฟนคลับทั้งจริงและปลอมออกมาต่อว่าน้อง แล้วเรื่องมันก็เริ่มบานปลายเรื่อยๆ จากแฟนคลับของมินดาก็ออกมาตอบโต้ตอบด้วย พอแฟนคลับแซ็คพูดอันนี้ แฟนคลับของมินดาก็พูดอันนี้ หรือน้องบางทีอดทนไม่มากพอเขาก็ออกมาโต้ตอบ เหมือนโต้ตอบกันไปมา น้องเลยบอกว่าให้เก็บหลักฐานไว้เพื่อที่จะเอาไปฟ้อง มันมีคำนี้ที่เคยพูดกันมา พอน้องฟ้องเราก็เข้าใจว่าเฟสอวตารทั้งหลายที่มีเขาอาจจะกลัว เขาเลยเปิดเฟสอวตารขึ้นมา มีเพจขึ้นมาซึ่งเยอะมาก ทั้งเอาชื่อมินดาไปใช้ เป็นมินดามีสวนน้ำบ้าง มินดา อีดำ มินดาทุกอย่าง คือเราไม่รู้ว่าอะไรจริงอะไรปลอม แต่ของจริงอยู่กับเรา และเราได้เห็นบางแชทพร้อมๆ กันกับพี่นักข่าวด้วยซ้ำ”
แสดงว่าที่ออกมามินดาไม่ได้เป็นคนพิมพ์ ?
มินดา : “ไม่ใช่ค่ะ”
ถามถึงประเด็นที่แซ็คบอกว่าให้ไปซื้อยาหยอดตาตอนเที่ยงคืน ?
มินดา : “จริงๆ เราบอกเขาตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว เราแสบตา ตาลืมไม่ขึ้น บอกเขาไปตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่มแล้วว่าไปซื้อยาหยอดตาให้หน่อย ตอนนั้นเขากำลังนั่งทานหมูกะทะกับเพื่อนอยู่ เขาบอกว่าเดี๋ยวฝากเพื่อนอีกคนนึงที่กำลังจะเข้ามา ให้ซื้อให้ สุดท้ายเพื่อนเขาบอกว่าไม่มี เราก็รอจนถึงเที่ยงคืนก็ยังไม่ได้ เราก็เลยจะให้เขาไปซื้อกับเรา”
แล้วตอนที่อยู่ด้วยกันใช้เงินยังไง ในเมื่อมินดาไม่มีรายได้ แซ็คไม่พกเงินสด ?
คุณแม่ : ”มินดาจะไม่มีรายได้จากการโดนคุณพ่อแบน แต่น้องมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตัวเอง รายได้จากงานในวงการไม่ได้เยอะมาก น้องมาทำงานเป็นนักแสดง เพราะใจรัก เริ่มต้นแค่ 300 น้องก็เอา เพราะน้องเป็นคนขยัน ทางบ้านเราสอนให้ลูกทำมาหากินเองอยู่แล้ว”
แล้วใช้เงินกระเป๋าเดียวกันหรือเปล่า ?
มินดา : “ก็อย่างที่เขาบอก เขาไม่พกเงินสดค่ะ เขาก็บอกว่ายืม ไปซื้อของส่วนตัวของเขา แล้วเราก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร เราอยู่ด้วยกัน เป็นแฟนกัน เขาบอกว่ารอบยอดทีเดียวกับค่าสินสอด”
คุณแม่ : "มินดาจะต้องสำรองจ่ายไปก่อนตลอด”
ทุกครั้งที่ออกไปก่อน ได้มีการใช้คืนบ้างไหม ?
มินดา : “ก็เลยตามเลย อย่างที่เขาบอกว่าให้รวบยอดเป็นค่าสินสอดไปเลยค่ะ แต่ไม่ได้จดว่ามีอะไรบ้าง ที่จำได้จะมีค่าน้ำมันรถ ค่าเสื้อผ้า แต่ระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ค่าใช้จ่ายนู่นนี่นั่น จำไม่ได้หรอกค่ะ”
ตอนที่เขาบอกว่าให้รวบยอดกับค่าสินสอด เรามั่นใจแค่ไหนว่าเขาพูดออกมาจากความรู้สึก ?
มินดา : “หนูก็เชื่อทุกคำที่เขาบอก เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่รักใคร ก็รักหมดหัวใจ เราไม่เคยหวังอะไรจากเขา แม่หนูสอนมาตลอดว่าผู้ชายจะแต่งงานกับผู้หญิงที่อดทนกับเขามากที่สุด หนูก็ทนมาตลอด หนูอยากแต่งงาน อยากใช้ชีวิตกับเขา อยากมีครอบครัวที่มีความสุข เขาบอกกับหนูตลอดว่าหมดสัญญา 3 ปี เขาจะพากลับไปอยู่ที่บ้าน ไปใช้ชีวิตด้วยกัน หนูก็นั่งนับวันรอ(สะอื้นร้องไห้)”
หญิง : “อันนี้เป็นอารมณ์ผู้หญิงที่เชื่อคนรัก ฟังดูเหมือนเป็นคนโง่ที่ไปเชื่อคำพูดแบบนั้น ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า คือ เชื่อเรื่องความรัก จนหูหนวกตาบอด ไม่ว่าใครจะเตือนหรือคัดค้าน เขาก็ไม่ฟังจริงๆ จนมาถึงวันนี้ยังรู้สึกว่าทำไมปล่อยให้คนของเราถลำตัวไปขนาดนั้น ทำให้สังคมมองว่าเขาไม่รักนวลสงวนตัว ไปอยู่ ไปทุ่มเทเงินให้ผู้ชาย แล้วไปงี่เง่าใส่ผู้ชาย ซึ่งเรื่องพวกนี้มีที่มาที่ไป สังคมตอนนี้กำลังฟังความข้างเดียว ที่แซ็คพูดเป็นความจริง แต่เป็นความจริงที่พูดออกมาไม่หมด การที่คุณมาพูดเอาความดีเข้าตัว แล้วเอาความชั่วโยนมาที่ผู้หญิงทั้งหมด ไม่ว่าจะเรียกร้องกระเป๋า หรือค่าเสียเวลา แต่ ณ วันนี้ต่อให้คุณเอาเงินมากองตรหน้า ยังไม่มีคนอยากจะรับเงินของคุณเลย เงินไม่มีค่าเท่าความรู้สึก คุณสงสารเขาไหมที่เป็นผู้หญิง ยอมขัดคำสั่งของพ่อแม่มาอยู่กับผู้ชายคนนึง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่คุณก็ยังไม่มีความชัดเจนให้เขา คุณบอกให้เก็บเป็นความลับ เขาก็ยอมเชื่อมาโดยตลอด”
หญิง : “แต่พอถึงวันที่มีข่าว กลายเป็นคุณออกมาพูดว่าที่เข้ากันไม่ได้เพราะเรื่องยาหยอดตา หรือมินดาบอกว่าเขาสกปรก อันนี้เขาไม่ได้หมายถึงร่างกายสกปรก มันมีนัยนะกว่านั้น ที่หลายคนไม่รู้แล้วน้องไม่ได้ออกมาพูด เพราะเขาเซ้นซิทีฟและบูชาเรื่องความรักมากเกินไป เขามั่นใจมากเกินไปว่าผู้ชายคนนี้ คือ คนที่ใช่สำหรับเขา วันนี้เขาได้เห็นแล้วว่าไม่เหมือนที่เขาคิด น้องโดนกระแสจากสังคมเยอะมาก ทุกคนเข้าใจในทิศทางเดียวกันหมดเลย ว่าน้องออกมาเรียกค่าเสียเวลา เรียกค่าตัว แซ็คกลายเป็นคนน่าสงสาร น้องกลายเป็นผู้หญิงทุเรศ อยากได้เงิน เราไม่ได้ตั้งใจออกมาห่ำหั่นกับแซ็ค เราออกมาพูดความจริงในสิ่งที่แซ็คบอกและสงสัย ณ วันนี้น้องยังรู้สึกดีกับแซ็ค พูดถึงทีไรก็ร้องไห้ แต่ไม่สามารถกลับไปเหมือนเดิมแล้ว ผู้ชายออกมาแถลงข่าวชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาเลิก”
คุณแม่ : ”ถ้าเราไม่ออกมาพูดอะไรเลย เราก็จะไม่ได้ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของเรา แซ็คออกมาพูดในสิ่งที่ดีกับเขา แต่เหรียญจะมี 2 ด้านเสมอ วันนี้ไม่ว่าจะเป็นเฟซอวตารหรือแฟนคลับแซ็คไใ่ได้ก้าวก่ายแค่มินดาคนเดียว แต่ก้าวก่ายถึงพ่อแม่ ครอบครัว รวมถึงธุรกิจ ซึ่งมันยุติธรรมกับเราเหรอ ถ้าเราจะทะเลาะกัน แฟนคลับเขาเกลียดมินดา แม่นั่งดูอยู่ เราเป็นผู้ใหญ่ไม่อยากลงไปยุ่ง ปล่อยให้เป็นเรื่องของเด็กทะเลาะกัน แต่วันนี้มีการเข้าไปยุ่งกับพ่อเขา ยุ่งกับธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของสองคนนี้เลย เขาไม่ได้สนใจแล้ว ตั้งหน้าตั้งตาออกมาด่าอย่างเดียว”
มินดาจะทำยังไงต่อ เพราะฝ่ายแซ็คก็มีทนายที่เก็บรวบรวมหลักฐานเพื่อจะฟ้องเรา ?
มินดา : “ฟ้องหนูเหรอคะ หนูว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิดนะคะ หนูมั่นใจว่าสิ่งที่หนูทำคือสิ่งที่ถูก คือเราทำไปเพราะไม่ได้อยากจะไปประจาน หรือตั้งใจทำให้เขาเสียชื่อเสียง เราแค่อยากรู้ว่าที่ผ่านมาความรู้สึกของเรามันคืออะไร (ร้องไห้)”
ตัดใจจากผู้ชายคนนี้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือยัง ?
มินดา : “หนูรักเขา (ร้องไห้)”
มีอะไรอยากจะบอกให้เขารู้ไหม ?
มินดา : “อยากจะให้เขาเอาความจริงออกมาพูด จริงๆ มันเป็นเรื่องของคนสองคนเองค่ะ แต่หนูไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ถึงกลายเป็นเรื่อง จริงๆ เขาแค่คุยกับหนูสองคนก็จบแล้ว (ร้องไห้) ทำไมต้องให้มีการแถลงข่าวใหญ่โตขนาดนี้”
อยากได้ยินคำว่าขอโทษจากเขาไหม ?
มินดา : “หนูฟังเขาแถลงข่าวแล้ว หนูก็ต้องเข้าใจตามที่เขาบอกค่ะ หนูว่ามันก็ต้องจบลงตามที่เขาบอก (ร้องไห้)”
หากเขาไม่ได้มีการออกมาตอบโต้อีก เราจะจบเรื่องทุกอย่างแค่นี้ใช่ไหม ?
หญิง : “คือจริงๆ มันควรจะจบตั้งแต่ตอนที่เขาเคลียร์ว่าเลิกกันแล้วนะคะ แต่ที่มันไม่จบเพราะการที่คนรอบตัวของเขาพยายามจะโยงเรื่องนั้นเรื่องนี้ ดูๆ ไปมันก็เหมือนการสาวไส้นะคะ ออกมาแฉน้อง ออกมาพูดเรื่องแซ็ค พูดกันไปพูดกันมา โดยที่เราไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง คุณมาเรียกกระแสให้เพจตัวเองหรือเปล่า ความจริงมันอยู่ที่คนสองคน เรื่องนี้มันจะไม่มีปัญหาใหญ่โตลุกลามถ้าแซ็คมาพูดกับน้องและเคลียร์กัน ตอนนี้นะคะมีคนที่โจมตีน้อง ซึ่งเป็นคนรอบข้างที่โจมตีมาโดยตลอด หญิงมองดูอยู่ห่างๆ และรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไร้สาระ มันเป็นเรื่องเด็กทะเลาะกัน เป็นเรื่องของเด็กที่ไม่เข้าใจกันและโกรธกัน แต่ที่วันนี้หญิงออกมาเพราะรู้สึกว่าเขาโดนกระทำจากคนรอบข้าง นั่นก็คือคนที่มีแฮชแท็ก #ทีมแซ็ค เราไม่มีทีมอะไรทั้งนั้นค่ะ”
หญิง : “และวันนี้ถ้าถามว่าเราอยากจะไปฟ้องแซ็คไหม ฟ้องผู้จัดการ หรือตอบโต้อะไรอีกไหม เราก็ยังไม่ได้มีความคิดนั้น ไม่ได้คิดจะออกมาตอบโต้อะไรเลย แค่ออกมาพูดในความจริงที่คนสงสัยและเข้าใจเราผิดนะคะ ส่วนที่จะออกมาตอบโต้และมีกระแสมาว่าแต่งตั้งทนายนู้นนี่นั่น เราแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อจะให้เขาฟ้องร้องคนที่กล่าวหาน้อง หรือโจมตีทางธุรกิจของครอบครัวน้อง ตรงนี้มีการดำเนินการจริง”
หญิง : “ส่วนเรื่องที่บอกค่าทนาย 30,000 บาท ไม่มีค่ะ ทนายเป็นที่ปรึกษาของทางบ้านอยู่แล้ว เราก็ฟังไลฟ์เหมือนกันที่บอกเรื่อง 30,000 ไม่มีค่ะ เราไม่มีการระบุตัวเลขอะไรขนาดนั้นเลยนะคะ ทนายที่เราคุยทุกวันนี้ก็เป็นทนายครอบครัวที่ให้คำปรึกษาเฉยๆ ยังไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรให้เขา”
คุณแม่ : “คือจริงๆ แล้วต้องบอกว่าในฐานะที่แม่เป็นแม่ แม่อยากพูดให้มันจบ เพราะแซ็คพูดไม่เคลียร์แล้วมาตั้งโต๊ะแถลง ถ้าลำพังตัวแซ็ทมาคุยกับน้องสองคนมันก็คงจะจบไปตั้งนานแล้ว แต่แซ็ทมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวแล้วพูดเอาดีเข้าตัวทั้งหมดเลย และโยนความผิดทั้งหมดมาให้ผู้หญิง ถึงแม้จะไม่ได้โยนความผิดมาแต่ถ้ามีเรื่องฉาวแบบนี้เกิดขึ้นยังไงเราก็เสียหาย เพราะเราเป็นผู้หญิง เหมือนเรามานั่งแก้ผ้าให้ทุกคนดู เหมือนเรามานั่งประจานตัวเอง แม้กระทั่งวันนี้เราก็มาประจานตัวเอง แต่เราอยากจะออกมาพูดบ้างว่าในสิ่งที่เราโดนกระทำ โดนพาดพิง โดนกล่าวหา หรือโดนรบกวนหลายๆ อย่างไปจนถึงเรื่องธุรกิจ มันเกินเลยจากตัวน้องไปแล้วค่ะ”
คุณแม่ : “เราเพียงอยากจะให้เขาพูดให้มันจบ วันนี้เรามาโต้ในสิ่งที่ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง หลักฐานเรามีทั้งหมด คือมันเรื่องไร้สาระทั้งหมด”
ถ้าหากลูกสาวเรากับแซ็คจะกลับมารักกันอีกครั้ง ยอมไหม ?
คุณแม่ : “ไม่ยอมค่ะ คงไม่มีใครจะให้ไปรักกับผู้ชายที่ไม่สามารถปกป้องลูกเราได้ แม่อาจจะผิดเองที่สอนให้ลูกไปบูชาความรักมากเกินไป เชื่อแฟนมากเกินไป แม่ดูเขามาตลอดในระยะเวลาที่เขาคบกันหรือเขาจะคุยกับใคร เขาจะเล่าให้แม่ฟังตลอด เพราะฉะนั้นถ้าจะกลับมาคบกันแม่บอกเลยไม่ได้ แซ็คดูแลลูกแม่ไม่ได้ ที่เราออกมาพูดเพราะเราแค่อยากปกป้องลูกเรา”
ถ้าหากลูกสาวเรากับแซ็คจะกลับมารักกันอีกครั้ง ยอมไหม ?
คุณแม่ : “ไม่ยอมค่ะ คงไม่มีใครจะให้ไปรักกับผู้ชายที่ไม่สามารถปกป้องลูกเราได้ แม่อาจจะผิดเองที่สอนให้ลูกไปบูชาความรักมากเกินไป เชื่อแฟนมากเกินไป ให้ลูกเชื่อคำพูดแฟนมากเกินไป เราอาจจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดีพอ แต่แม่ดูเขามาตลอดในระยะเวลาที่เขาคบกันหรือเขาจะคุยกับใคร เขาจะเล่าให้แม่ฟังตลอด เพราะฉะนั้นถ้าจะกลับมาคบกันแม่บอกเลยไม่ได้ แซ็คดูแลลูกแม่ไม่ได้ แซ็คไม่เป็นผู้ใหญ่พอ ยังไม่สามารถที่จะจะดการตัวเขาเองได้เลย และปกป้องอะไรเราไม่ได้ ที่เราออกมาพูดเพราะเราแค่อยากปกป้องลูกเรา”
คุณแม่ : “แซ็คเคยเจอกับแม่ เขาจะเป็นนักร้องหรืออะไรก็แล้วแต่ แม่ไม่เคยกระตือรือร้นที่จะไปเจอหรือตื่นเต้นกับเขา แซ็คไปหาที่บ้าน เรารับไหว้ แซ็คเอาของไปให้เรารับ ถามว่ากระเป๋าที่แซ็คเคยซื้อมาให้แม่แล้วอยากได้คืน ก็มาเอาไปเลยค่ะ เพราะเราไม่ได้ใช้เลย เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องเงิน 2 ล้าน จบไปได้เลย แม่บอกเลยว่าถึงแม้วันนี้แซ็คจะเอาเงินมาให้แม่ 5 ล้าน แม่ก็ไม่เอา”
ถามถึงประเด็นที่มีภาพเราวิดีโอคอลคุยกับ ก้อง เกริกฤทธิ์ นักฟุตบอล เลยทำให้ถูกสงสัยว่าเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เลิกกับแซ็คหรือเปล่า ?
มินดา : “หนูไม่รู้เลยค่ะว่าแชทนั้นมาจากไหน ยอมรับว่ารู้จักเขาค่ะ รู้จักว่าเขาเป็นนักบอล ไม่เคยวิดีโอคอลหากันเลยค่ะ เคยรู้จักนานมากแล้วค่ะ หลายปีแล้ว ไม่ได้สนิทกัน รู้จักเพราะเขาเป็นนักบอล เราไปดูบอลและก็ขอถ่ายรูปกับเขา”
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ