เปิดใจ อดีตพระเอกดัง “บดินทร์ ดุ๊ก” โดนมรสุมชีวิต เสี่ยงอัมพาตครึ่งหน้า

เปิดใจ อดีตพระเอกดัง “บดินทร์ ดุ๊ก” โดนมรสุมชีวิต เสี่ยงอัมพาตครึ่งหน้า

เปิดใจ อดีตพระเอกดัง  “บดินทร์ ดุ๊ก” โดนมรสุมชีวิต เสี่ยงอัมพาตครึ่งหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดใจ อดีตพระเอกดัง! “บดินทร์ ดุ๊ก” โดนมรสุมชีวิตเสี่ยงอัมพาตครึ่งหน้า

หายหน้าหายตาไปจากวงการนานเกือบ 20 ปี สำหรับอดีตดัง บดินดร์ ดุ๊ก ที่ในวันนี้เจ้ำตัวกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งท่ามกลางกระแสข่าวต่างๆ มากมาย ล่าสุด เจ้าตัวมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง one31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป๊กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

ตอนนี้ทำไมต้องใส่หน้ากาก?

ดุ๊ก : เกาะกระแสมั้ง ป่วยครับ เขาเรียกว่าเป็นอัมพาตครึ่งหน้า แต่ข่าวไปลงว่าจะเป็นอัมพาตครึ่งตัว เพราะว่าลงไม่ละเอียด หลายคนก็โทรกันเข้ามาใหญ่เลยว่าเป็นอะไร นอนโรงพยาบาลไหนอะไรแบบนี้ จริงๆ เป็นแค่ครึ่งหน้าครับ

>> เพื่อนแท้โอ วรุฒ! “บดินทร์ ดุ๊ก” แม้ป่วย แต่ไม่พัก ขอร่วมส่งสหายให้ถึงที่สุด

มีหลายคนเห็นไปร่วมงานศพ โอ วรุฒ เลยสงสัยว่าไปสนิทกันตอนไหน?

ดุ๊ก : คือจริงๆ ในวงการบางอย่างที่ข่าวออกไปเนี่ย ประชาชนไม่ได้รับรู้ก็มี จริงๆ เราสนิทกับใคร ทุกคนก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้ทั้งหมด คือเราทำงานด้วยกันหลายเรื่องแล้วก็ส่วนใหญ่เป็นละครยาวเท่านั้นเลย อย่างเรื่อง ผู้กองยอดรักมี 30 กว่าตอน ถ้าเรตติ้งดีมันก็ยืด ก็เท่ากับว่าละครเรื่องนี้เป็นละครปี เพราะฉะนั้นเราก็จะอยู่กันทั้งปี

ตอนป่วยได้มีไปเยี่ยมกันบ้างไหม?

ดุ๊ก : ตอนป่วยก่อนที่เขาจะเสียเนี่ย เราไปเชียงใหม่เราก็จะโทรหากัน ก็ถามอาการกันอยู่ตลอด ยังเตือนเรื่องการดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้พอ อะไรแบบนี้กันอยู่เลยแต่ก็ไม่ได้ถึงกับบ่อย คือคนในวงการสมัยก่อนจะอยู่กันแบบครอบครัว เพราะฉะนั้นมันก็จะมีความสนิทสนมกันครับ ถึงไม่เจอกัน 5 ปี 10 ปีแต่ความรู้สึกดีๆ ความเป็นพี่เป็นน้องมันก็ยังมีครับ ไม่ใช่แค่โอนะครับ แต่มันกับทุกๆ คน

หวังเกาะกระแสเพื่อที่จะกลับมาดังหรือเปล่า?

ดุ๊ก : ชอบจังเลยครับงานโชว์ตัวในงานศพ คิดได้นะครับ ผมแต่งตัวดีๆ ไปโชว์ตัวตามงานอีเว้นไม่ดีกว่าเหรอ คิดได้ยังไง งานศพก็คืองานศพ ไปส่งเพื่อน ไปส่งพี่ส่งน้อง แต่นี่กลายเป็นเกาะกระแส

ลองดูจากพวงหรีดสิครับ ที่จัดงานทำไมถึงมีเยอะขนาดนั้นนั่นก็แสดงว่าโอเขามีคนที่รักเยอะ ด้วย Attitude เขาหรืออะไรต่างๆเขาเป็นคนที่น่ารัก เขาไปที่ไหนก็มีแต่คนรักนะ ถ้าไม่รักกันจริงสนิทกันจริงจะไปไหมลองคิดดู

ไปเปิดเผยเรื่องอาการป่วยที่งาน โดนกล่าวหาว่าสร้างอีก?

ดุ๊ก : มันเป็นจังหวะ คืออยู่มาทุกคืนก็ไม่เป็นไร จนมาคืนสุดท้าย ตอนไปยังไม่เป็นอะไรก็ยังรับแขกได้ปกติ แต่พอมาคืนสุดท้าย หลังจากที่สวดอภิธรรมอะไรเสร็จ ก็กลับมาบ้านที่พัก แล้วก็นั่งคุยกันไปคุยกันมาก็รู้สึกว่าทำไมหน้าเราตึงๆ เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไรก็เลยเข้านอน แล้วก็เล่นโทรศัพท์มือถือน้ำตามันก็ไหล ปากก็เริ่มตุ่ยๆ แข็งๆ เราก็แปลกๆ เลยเดินไปส่องกระจก

ครั้งแรกที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกเป็นไง?

ดุ๊ก : มันก็ตกแล้วไง หน้ามันจะนิ่ง คือกล้ามเนื้อหน้าที่โดนเอฟเฟคมันจะไม่ทำงาน แต่ด้านที่มันปกติเราจะพูด จะยิ้มอะไรมันก็สามารถทำได้ปกติ มันเกิดขึ้นเร็วมากสาเหตุมาจากเส้นประสาทคู่ที่ 7 อักเสบ มันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยมาก อาจจะเกิดจากติดเชื้อไวรัส ซึ่งเปอร์เซ็นน้อยมาก เกิดจากการอักเสบโดยส่วนตัวของอวัยวะเอง หรืออุบัติเหตุอะไรแบบนี้

จริงๆ มันมีเยอะมาก ต้องบอกก่อนว่าเคยเป็นมา 2 ครั้งแล้ว แต่ครั้งแรกเป็นแล้วจะหาย ครั้งนี้ถามว่าตกใจมากไหม ก็ไม่ตกใจเท่าไหร่ แล้วก็คิดว่าเป็นอีกแล้ว แต่เป็นอีกข้างนึง เราเลยก็รู้แล้วว่าเป็นอะไร

ครั้งที่แล้วที่เป็นนานไหมกว่าจะหาย?

ดุ๊ก : ประมาณเกือบ 2 เดือน แต่ต้องทำกายภาพทุกวัน อย่างเช่นตอนนี้ต้องทำทุกวัน ครั้งนี้เป็นมาประมาณอาทิตย์นึงแล้ว ที่ตั้งใจมาออกคืออยากเป็นวิทยาทานกับคนที่เป็น ก็คือไม่ต้องตกใจ สามารถหายได้แต่ว่าคุณต้องขยัน ทานยาให้ครบโดสที่หมอสั่ง ก็พยายามทำกายภาพ

วิธีทำกายภาพก็คือไปทำที่ศูนย์กายภาพบำบัดโดยการใช้ไฟฟ้าจี้ กระตุ้นกล้ามเนื้อ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อลีบ หลังจากนั้นก็ทำกายภาพตัวเองเขาก็จะมีท่าให้เราทำ ได้แต่ละท่าก็จะประมาณ 15 ครั้ง แต่คุณบอกว่าจะบอกว่าทำให้ได้มากที่สุดก็จะดีกับตัวเรา

ถ้าเกิดต้องเป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตกลัวไหม?

ดุ๊ก : ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น เพราะว่าได้ทีมคุณหมอเดิม แล้วเขาทำให้เราหายได้ในครั้งนั้น เราก็ต้องโฟกัสที่ตัวเองความขยันในการออกกำลังกายมากกว่า เหมือนคนนอนติดเตียงที่นอนไปนานๆแล้วแขนลีบขาลีบ แล้วลุกขึ้นมาทำกายภาพมันก็หายได้ แต่บางมุม เช่น มุมยิ้มมุมอะไรมันอาจจะไม่เหมือนเดิม

ตอนนี้การรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว?

ดุ๊ก : คือตอนนี้จะแบ่งเป็น 2 ทาง คือทางเทอราปิส เวลาเขาที่เขาจะเห็นว่ามันกระตุ้นกลับมาได้ดีขึ้น แต่เมื่อวานไปหาคุณหมอ คุณหมอประเมินด้วยสายตาเปล่าบอกว่ามันยังไม่ยกขึ้น คือถ้ามันดีมันก็ยกขึ้น คุณหมอก็เลยให้ทำสเตียรอยด์ไปอีก 1 อาทิตย์ เพื่อที่จะฆ่าเชื้อให้มันแน่นอน หลังจากนั้นถ้ายังไม่หายต้องเน้นทำกายภาพต่อ

มันกระทบกับชีวิตมากไหม?

ดุ๊ก : กระทบมาก ก็คืออย่างเวลาไปทำงาน ไปสอนหรืออะไรแบบนี้ มันจะพูดได้ด้านเดียว บางคำเราจะพูดไม่ได้ เสียงที่ออกมันไม่ชัด มันก็จะรำคาญนิดนึง แล้วก็เรื่องของการกิน เวลาตักอาหารเข้าปาก แล้วปากเราเปิดแค่ด้านเดียวมันก็หก เวลาดูดน้ำก็จะไหลออกทางข้างปาก ก็ต้องบีบปากอีกข้างหนึ่งไว้

การขับรถก็จะลำบากเรื่องสายตานิดนึง ก็ใช้ชีวิตลำบากนิดนึง ความรู้สึกถามว่าเศร้าไหม ก็ไม่เศร้านะมันเป็นธรรมดาของชีวิต ไม่เคยกลัวตาย เพราะเรารู้ว่ายังไงมันก็ต้องตาย แต่ขอตายแบบสบายๆ ได้ไหม

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ เปิดใจ อดีตพระเอกดัง “บดินทร์ ดุ๊ก” โดนมรสุมชีวิต เสี่ยงอัมพาตครึ่งหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook