“บูม จิรัชพิสิษฐ์” พูดครั้งแรก ปมถูกโยงฟอกเงิน 797 ล้าน
หลังเก็บตัวมานาน ท่ามกลางความแคลงใจของใครหลายคน ล่าสุด บูม-จิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต ดารานายแบบ ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังครั้งแรก ถึงปมที่ถูกโยงว่าตนฟอกเงินจำนวน 797 ล้านบาท
>>รวบกลางห้าง "บูม จิรัชพิสิษฐ์" ดาราหนุ่มลวงเหยื่อสูญ 797 ล้าน
โดย บูม จิรัชพิสิษฐ์ เผยว่า สภาพจิตใจตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว ต้องขอบคุณครอบครัวและคนรอบข้างที่ให้กำลังใจและอยู่ข้างๆ เสมอ พร้อมฝากบอกถึงคนที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด ว่าอย่าเพิ่งตัดสินตนจากข่าว
ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง ?
“ดีขึ้นแล้วครับ จากตอนแรกที่ไม่ค่อยโอเค ผมโชคดีด้วยแหละครับ เพราะตอนที่ผมเจอเรื่องก็มีคนที่อยู่ใกล้ๆ คอยเป็นกำลังใจให้ผม คือเราไม่ได้อยู่คนเดียวเลย มีทั้งพี่ทีมงาน พี่ในกอง ที่คอยช่วยเป็นกำลังใจให้ผมตลอดเวลา”
ย้อนกลับอารมณ์ตอนนั้น เราช็อกแค่ไหน แล้วต้องตั้งสติยังไง ?
“ช็อกมากเลยครับ เอาจริงๆ ผมไม่ได้คาดคิดเลย เพราะผมไม่รู้เรื่องเลยสักนิด คือตอนโดนก็ยังงงและคิดตลอดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา และพยายามติดต่อคนในบ้าน แต่ติดต่อไม่ได้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไง จนมีพี่ทีมงานมาช่วยปลอบครับ”
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรารู้สึกยังไงบ้างที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ?
“เอ่อ... ไม่มีใครที่เขาอยากจะมีคดีหรอกครับ ซึ่งตัวผมเองก็ไม่คาดคิดด้วยเหมือนกันเพราะผมเองก็ไม่รู้ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง มันเป็นประสบการณ์มากกว่า ผมมองในแง่ดีนะ อย่างน้อยๆ เราก็ยังรู้ว่ามีใครอยู่ข้างเราบ้าง และตอนเราไม่ดี ใครเขาช่วย คอยให้กำลังใจเรา ผมโดนกระแสหนักมาก ซึ่งตัวผมก็เสียใจ เราไม่รู้ว่าเราจะพูดอะไร เพราะเราไม่รู้เรื่อง”
เราโดนกระแสอะไรบ้าง ที่ทำให้ต้องเฟลไปเลย ?
“คือเราใช้ชีวิตปกติ ไปกินข้าวร้านอาหารปกติ แต่ก็มีคนที่เหมือนจะจำเราได้ เขาพูดมาประมาณว่าไปขอถ่ายรูปเขาสิ เหมือนพูดจาไม่ค่อยดี คือเราไม่ได้คาดคิดไงครับ ผมแค่รู้สึกว่าทำไม แต่ก็ช่างมัน เพราะเรารู้ตัวอยู่ว่าเราทำอะไร เรารู้ตัวว่าเราเป็นคนแบบไหน เราห้ามเขาไม่ได้ แต่เราห้ามตัวเองได้ครับ”
เคยร้องไห้กับเรื่องนี้ไหม ?
“เคยครับ ตอนนั้นมันเครียด คือมันไม่ใช่เรื่องของเราอ่ะครับ ซึ่งเราก็ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับเราเลยในชีวิตนี้ ส่วนตอนนี้ก็ไม่ได้เครียดอะไรแล้วครับ แต่ผมกลับรู้สึกดีในตอนที่ผมเฟล มีคนอยู่ข้างผม คอยให้กำลังใจ ช่วยดึงเราขึ้นมา ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนะ”
มีแอบคิดสั้นบ้างไหม ?
“ไม่ครับ ต่อให้แย่แค่ไหนผมก็ยังคิดถึงคุณพ่อคุณแม่ผมอยู่ตลอดเวลา”
คุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงมาก เราได้คุยกับท่านแล้วท่านว่ายังไงบ้าง ?
“คุณพ่อคุณแม่ตอนทราบเรื่องก็ช็อกนะครับ เพราะตัวท่านเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน เหมือนผมเลย ซึ่งท่านก็ไม่คาดคิด และท่านก็พยายามบอกว่า สู้นะ เราสู้ไปด้วยกัน เหมือนเราต้องเป็นกำลังใจให้กันครับ และผมก็พยายามบอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ ลูกพยายามทำในส่วนของลูกเต็มที่ ทำในส่วนที่เราสามารถทำได้ครับ”
ตลอดระยะเวลาที่มีปัญหา เราก็ยังคงทำงานอยู่ ต้องแบ่งความคิดในสมองยังไง เพราะงานก็ต้องทำ เรื่องก็ยังไม่จบ ?
“งานก็คืองาน เราต้องมีความรับผิดชอบในงาน ผมรู้สึกว่าผมพยายามรับผิดชอบทุกอย่างที่ผมทำ พี่ที่ออฟฟิศก็เป็นห่วงเรา เราก็อยากทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุดในทุกๆ ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นจากทางบ้าน ทางสังคม ทางครอบครัว เราพยายามทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุดครับ”
มันส่งผลกระทบกับงานเราไหม ?
“ตอนแรกผมก็เครียดเหมือนกัน เพราะมันเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ผมโชคดีตรงที่ทุกๆ คนเข้าใจ ว่าเราไม่ได้ทำอะไร“
แฟนๆ ยังคอยซับพอร์ตเราอยู่ไหม ?
“อันนี้ผมต้องขอบคุณทุกๆ คนเลยนะครับ มีทั้งดีและไม่ดี มีทั้งส่งกำลังใจมาให้ ไดเรกต์ไอจีมา ขอบคุณที่เป็นห่วงมากๆ ครับที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม”
เวลาได้อ่านข้อความที่คนเข้ามาคอมเมนต์โดยที่ไม่รู้ความจริงทั้งหมด เราจัดการยังไง ?
“เหรียญมันมีสองด้าน ผมมองว่ามันก็ดีที่ทำให้เรารู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งๆ ที่เรายังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แต่เราก็มองว่ามันทำให้เรามีภูมิคุ้มกันตรงนี้มากขึ้น ตัวผมเองก็ยอมรับว่ายังใหม่ ได้ปรึกษาคนเยอะเหมือนกันว่าจะทำยังไงดี จนได้คำปรึกษาว่าเราห้ามเขาไม่ได้จริงๆ เราห้ามคนไม่ได้ เราห้ามได้แค่ตัวเราเอง”
เหมือนเราก็เสียใจที่คนตัดสินไปแล้วโดยที่ยังไม่ทันได้ฟังความจริง ?
“ใช่ครับ คือเรื่องมันยังไม่ถึงไหนเลย แต่คนตัดสินไปแล้ว อย่างตัวผมเองก็ให้ทางทนายจัดการ ตัวผมเลยไม่รู้จริงๆ ส่วนตอนนี้เรื่องก็ให้ทางทนายติดตามอยู่ครับ ล่าสุดก็มีไปที่ศาล แต่เขาก็ยังพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง ยังอยู่ในขั้นสืบสวนอยู่เลย ตัวผมเองยังรู้สึกว่าผมไม่ได้มีอะไรเลย”
คิดว่าข่าวนี้จะส่งผลให้กับงานในวงการบันเทิงในอนาคตไหม ?
“ผมคิดว่าก็มีครับ ตัวเราเองก็รู้สึก แต่ผมทำในส่วนที่ผมทำได้ ผมทำในสิ่งที่ผมรัก ผมชอบ ผมเลยทำ ผมก็ได้แค่บอกตัวเองว่าเราทำให้ดีที่สุดนะ สุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง เราตัดสินเองไม่ได้”
วันนี้เราอยากจะขอบคุณใครเป็นพิเศษไหม ?
“ผมขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ พี่น้องทุกๆ คน และคนที่อยู่รอบข้างผม ที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม ทั้งที่ดีและไม่ดีนะ ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้ผมโตขึ้นครับ ผมขอร้องนะครับ อย่าเพิ่งตัดสินผม เพราะเรื่องมันไม่มีอะไรจริงๆ”
>>"บูม จิรัชพิสิษฐ์" ปัดข้อหาฟอกเงิน 797 ล้าน พี่ชายหนีไปนอก-พี่สาวขอมอบตัว
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ