ทัพเรือแจ้งความจับ หนุ่มศรีสะเกษ อ้างตัวเป็นหน่วยซีล คุยโวใช้จีบสาว

ทัพเรือแจ้งความจับ หนุ่มศรีสะเกษ อ้างตัวเป็นหน่วยซีล คุยโวใช้จีบสาว

ทัพเรือแจ้งความจับ หนุ่มศรีสะเกษ อ้างตัวเป็นหน่วยซีล คุยโวใช้จีบสาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กองทัพเรือส่งตัวแทนเข้าแจ้งความจับ "หนุ่มศรีสะเกษ" อดีตเคยเป็นพลทหาร แต่อ้างตัวเป็นหน่วยซีล ตัดต่อรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊ก คุยโวเคยร่วมภารกิจช่วยทีมหมูป่า ซ้ำอวดยศจีบสาว

เมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (หน่วยซีล) ได้มอบหมายให้ นาวาเอก อนันท์ สุราวรรณ์ เสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เป็นผู้แทนหน่วย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ คำกอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ พร้อมนำหลักฐานให้ดำเนินคดีกับ "นายกิตติศักดิ์" อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ

โดย นายกิตติศักดิ์ นั้น เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ “ราชนาวีไทย หมวดต้น” และ “ขุนศึก ทะลวงฟัน” ที่แอบอ้างว่า ตนเองเป็นข้าราชการทหารเรือ และเป็นนักทำลายใต้น้ำจู่โจม สังกัดหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือ หน่วยซีล ด้วยตัดต่อรูปอยู่ในเครื่องแบบข้าราชการกองทัพเรือ และมีการโพสต์ข้อความในสื่อโซเชียล ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อหน่วยและกองทัพเรือ

นาวาเอก อนันท์ กล่าวว่า ภายหลังสื่อและโซเชียลมีเดียได้ตีแผ่เรื่องของ นายกิตติศักดิ์ ที่ได้ใช้เฟซบุ๊กตัดต่อรูปอยู่ในเครื่องแบบทหารเรือ สังกัดหน่วยซีล พร้อมโพสต์ข้อความ อ้างเคยผ่านภารกิจช่วยเหลือ 13 หมูป่าอะคาเดมี ที่ติดถ้ำขุนน้ำนางนอน รวมถึงนำไปแสดงตนใช้แอบอ้างในการจีบสาวทางโลกออนไลน์ กระทั่งมีคำถามมากมายถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้

ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่า นายกิตติศักดิ์ ไม่ได้เป็นข้าราชการทหารเรือแต่อย่างใด เคยเป็นอดีตทหารเกณฑ์ในสังกัดหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เมื่อปี 2558 เท่านั้น ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย

เบื้องต้น พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผบ.หน่วยซีล ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้หน่วยเหนือรับทราบ พร้อมมอบหมายให้ตน เป็นผู้แทนหน่วยแจ้งความดำเนินคดีกับ นายกิตติศักดิ์ ให้กฎหมายลงโทษอย่างถึงที่สุด อันส่งผลต่อความเสื่อมเสียชื่อเสียงหน่วย และเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างต่อผู้อื่น

ทั้งนี้ ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ในคดีนี้ได้ให้ผู้เสียหายแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว เบื้องต้นได้เตรียมออกหมายเรียก นายกิตติศักดิ์ มาสอบปากคำถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่า มีการตัดต่อรูปจริง และแอบอ้าง ก็จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook