หนุ่มสุพรรณฉีดยาในนาข้าว "โรคลมชัก" กำเริบตกร่องน้ำดับอนาถ
1 ต.ค. 2561 ที่ จ.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.องอาจ ไชยสุริยงค์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตที่บ้านศพเพลิง หมู่ 8 ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร รพ.บางปลาม้า และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณคันร่องน้ำกลางทุ่งนา พบร่างนายปราโมทย์ อายุ 32 ปี นอนอยู่บนตักนางประนอม อายุ 59 ปี มารดาที่นั่งร้องไห้ปานจะขาดใจกอดร่างผู้ตาย โดยมีเครื่องฉีดพ่นยาถังพลาสติกขนาด 200 ลิตรตั้งอยู่และยาฆ่าแมลงประมาณ 5 ขวด
จากการสอบนางประนอม อายุ 59 ปี มารดาของผู้เสียชีวิตเล่าทั้งน้ำตานองหน้าว่า นายปราโมทย์ลูกชายเป็นคนขยันแม้จะมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก ระยะหลังโรคลมชักมักจะกำเริบบ่อยเนื่องจากขาดยา แต่ลูกชายก็ไม่ยอมหยุดทำงาน
โดยออกมาจากบ้านตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อมาฉีดยาฆ่าเพลี้ยในนาข้าวเพียงลำพัง กระทั่งสายไม่เห็นลูกชายกลับไปทานข้าวซึ่งผิดปกติ ตนจึงออกมาดู ก็พบลูกชายนอนคว่ำหน้าจมอยู่ในน้ำ จึงรีบแจ้งญาติให้มาช่วยแต่ไม่ทันเนื่องจากลูกชายเสียชีวิต จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ก่อนหน้าที่ลูกชายจะเสียชีวิตช่วงเช้าจากที่ตนได้ใส่บาตรพระเสร็จ ได้เดินมาดูลูกชายที่กำลังฉีดยา ลูกชายบอกกับตนว่าเหลือยาอีก 2-3 ถังก็จะเสร็จแล้วตนจึงกลับไปบ้าน
กระทั่งสายไม่เห็นลูกกลับบ้าน จึงออกมาดูก็พบว่าลูกชายนอนคว่ำหน้าอยู่ในร่องน้ำลึกประมาณ 30 เซนติเมตร โดยมีเครื่องฉีดพ่นยาติดคาอยู่ที่ด้านหลัง จึงรีบเข้าไปช่วยนำขึ้นมาด้านบน
โดยตัวลูกชายเปียกน้ำและมีกลิ่นเหม็นของยาฆ่าแมลง จึงพยายามช่วยพลิกตัวลูกชายให้หงายหน้าเพื่อจะได้หายใจได้ จากนั้นรีบไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้ช่วยนำร่างขึ้นจากน้ำเพื่อช่วยเหลือ
แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตของลูกไว้ได้เนื่องจากลูกชายได้เสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าขณะที่ลูกชายกำลังยืนเติมน้ำยาอยู่ริมร่องน้ำโรคลมชักเกิดกำเริบ ทำให้ตกลงไปในร่องน้ำไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ประกอบกับในถังเครื่องพ่นยามียาฆ่าแมลงอยู่เต็มถัง เมื่อลูกชายตกลงไปในร่อง น้ำยาในถังได้ไหลออกมาผสมน้ำในร่องและเปียกตัวลูกชายทำให้สารพิษเข้าสู่ร่างกายลูกชายเสียชีวิตดังกล่าว หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดได้มอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป