ปล่อยคนแก่อยู่ลำพัง...คนร้ายแต่งตัวดีทำทีเข้าตีสนิท ฉกเงินคนแก่ครึ่งหมื่น

ปล่อยคนแก่อยู่ลำพัง...คนร้ายแต่งตัวดีทำทีเข้าตีสนิท ฉกเงินคนแก่ครึ่งหมื่น

ปล่อยคนแก่อยู่ลำพัง...คนร้ายแต่งตัวดีทำทีเข้าตีสนิท ฉกเงินคนแก่ครึ่งหมื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนร้ายหนุ่มแต่งตัวดีตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ อ้างเป็นเซลขายยาตีตัวสนิทกับผู้สูงวัยอยู่บ้านคนเดียว เข้าไปบีบนวดให้ยายจนเคลิ้มแอบฉกเงินครึ่งหมื่นหลบหนีลอยนวล ที่อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ

วันที่ 2 ตุลาคม 61 เวลาประมาณ 10.00 น. ร.ต.อ.สราวุฒิ มิ่งศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.แก้งคร้อ ได้รับแจ้งจากนายเวทิน นวลเกศา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านแก้ง ตำบลบ้านแก้ง อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ว่ามีลูกบ้านถูกคนร้ายอ้างเป็นเซลขายเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ตระเวนขี่จักรยานยนต์ตีสนิทแล้วฉกเงิน

คนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40-50 ปี อ้างเป็นเซลทำทีเข้าตีสนิท แล้วแอบฉกกระเป๋าเงินจำนวน 5,500 บาท ของนางจันทร์ พลเดช อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 4 บ้านแก้ง ตำบลบ้านแก้ง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังก่อเหตุได้ขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าหลบหนีไป

นางจันทร์ พลเดช ผู้เสียหายนั่งอยู่ภายในบ้านพร้อมกับเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่เข้ามาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งนางจันยังอยู่ในอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเพิ่งสูญเสียเงินจำนวน 5 พันกว่าบาท

จากการสอบถามนางจันทร์เล่าว่าเมื่อช่วงสายขณะที่ตนเองกำลังนั่งคุยอยู่กับนางใจ มั่นคง อายุ 79 ปี น้องสาวตามปกติเช่นทุกวัน ได้มีชายแปลกหน้า 1 คนสวมเสื้อคลุมแขนยาวแต่งตัวดูดีใส่หมวกกันน็อกขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้าน

จากนั้นคนร้ายก็เดินเข้ามาทักทายเหมือนคนรู้จักกันเข้ามาบีบนวดจับแขนจับขา พร้อมถามยายทั้ง 2 คนว่าเจ็บตรงไหนปวดตรงไหน ซึ่งตนเองก็ถามคนร้ายไปว่าเป็นใครมาจากไหนมาทำอะไรด้านคนร้ายได้ตอบกลับมาว่าเป็นเซลขายเครื่องดื่มสาหร่ายแดงสำหรับบำรุงสุขภาพ

คนร้ายถามยายจันทร์ผู้เสียหายต่อว่ามีเงินเท่าไหร่ ซึ่งตนเองก็ตอบกลับไปว่ามีไม่เยอะ คนร้ายก็ยังพยายามสอบถามชวนคุยและถามว่ามีคนอยู่บ้านไหม และเอาเงินเก็บไว้ไหน ยายจันทร์ก็ตอบไปอีกว่าอยู่ในกระเป๋าเสื้อที่ใส่อยู่นี่ล่ะ ซึ่งขณะนั้นคนร้ายก็เข้ามาบีบนวดตามร่างกายของยายจันทร์อีกครั้ง

จู่ๆ คนร้ายก็เดินออกไปที่รถจักรยานยนต์พร้อมกับขี่รถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการบอกกล่าวล่ำลาแต่อย่างใด ซึ่งก็สร้างความแปลกใจและงุนงงเป็นอย่างมาก หลังจากที่คนร้ายได้กลับไปตนเองก็พบว่ากระเป๋าเสื้อถูกรูดซิปออกและถุงเงินซึ่งมีเงินเก็บไว้จำนวน 5,500 บาทหายไป ตนเองและน้องสาวจึงรู้ว่าถูกคนร้ายล้วงกระเป๋า

จึงได้ตะโกนเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงช่วยโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สกัดจับคนร้ายอย่างเร่งด่วนทันที ท้ายสุดยายจันทร์วิงวอนขอให้คนร้ายนำเงินมาคืน และจะไม่เอาความแต่อย่างใดเพราะเงินก้อนนี้เป็นเงินที่ตนเองได้มาจากเบี้ยยังชีพที่อุตส่าห์เก็บไว้ซื้อยายามเจ็บป่วย

ด้านนายเวทิน นวนเกศา ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่าพฤติการณ์ของคนร้ายถือว่าอุกอาจมาก ลงมือก่อเหตุท่ามกลางชุมชนและมีผู้คนอยู่จำนวนมาก ซึ่งบ้านผู้เสียหายอยู่ติดกับร้านค้า และมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้เฒ่าผู้แก่ที่อยู่บ้านตามลำพัง ซึ่งต่อไปจะได้ทำเรื่องของบประมาณติดกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้านต่อไป

ขณะที่ ร.ต.อ.สราวุฒิ มิ่งศิริ กล่าวว่าขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และได้ขอดูกล้องวงจรปิดของร้านซ่อมจักรยานยนต์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเกิดเหตุ และสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ค่อนข้างชัดเจนทั้งรูปพรรณสัณฐาน และรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าจะติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ในไม่ช้านี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook