อุทาหรณ์...รถบรรทุกเหล็กเส้นติดหล่ม เร่งเครื่องพลิกคว่ำ เหล็กเส้นไหลทับคนงานดับ

อุทาหรณ์อันตรายจากการทำงาน รถบรรทุกเหล็กเส้นติดหล่มคนขับพยายามเร่งเครื่องแต่รถเสียหลักพลิกตะแคงทำให้เหล็กเส้นที่บรรทุกมาในรถไหลลงไปทับคนงานที่อยู่ข้างรถจนเสียชีวิต

เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 2 ต.ค. 61 ร.ต.ท.ณัตพงษ์ ธิตินุพัฒน์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุรถเครนล้มตะแคง และมีเหล็กเส้นที่บรรทุกหลังรถหล่นทับคนงานเสียชีวิต 1 ราย

เหตุเกิดที่บริเวณภายในแคมป์คนงาน ใกล้กับสวนน้ำสันกำแพง ม.10 บ้านสันช้างมูบ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมทั้งประสานทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง

เมื่อไปถึงพบรถเครนหมายเลขทะเบียน 70-2610 เชียงใหม่ สภาพล้มตะแคงอยู่ บริเวณด้านหลังรถพบเหล็กเส้นตกลงมา และพบร่างชายถูกเหล็กเส้นทับเสียชีวิตอยู่ ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เร่งนำอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเข้าทำการกู้ร่างของชายคนดังกล่าวออกมานานประมาณ 20 นาที จนกระทั่งสามารถนำร่างออกมาได้

จากการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตพบว่ามีร่องรอยของเหล็กเส้นที่หล่นทับศีรษะจนแหลกผิดรูป นอกจากนี้ตามร่างกายยังพบกระดูกหักหลายจุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยน้ำร่างผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา

คนขับรถเครนคันดังกล่าวคือนายรัฐติกุล ไกยะวินิจ อายุ 29 ปี เป็นชาวจังหวัดน่าน โดยขณะเกิดเหตุเจ้าตัวยังคงอยู่ในอาการหวาดผวา และมีความเครียดไม่พูดจากับใคร ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายสุทิน อั่วหงวน อายุ 61 ปี เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก

สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุคนขับรถเครนคันดังกล่าวได้ขับรถบรรทุกเหล็กเส้นมายังที่เกิดเหตุ ซึ่งระหว่างนั้นมีนายสุทิน ผู้เสียชีวิตกำลังทำงานอยู่บริเวณดังกล่าว โดยระหว่างรถเครนได้ขับเข้ามายังบริเวณที่เป็นโคลน

เนื่องจากคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนักทำให้ในละแวกดังกล่าวแฉะเป็นโคลน รถได้ติดหล่ม คนขับพยายามจะขับรถออกแต่กลับลื่นทำให้รถเกิดตะแคงล้มลง และเหล็กเส้นที่บรรทุกมานั้นได้หล่นลงมาทับร่างของนายสุทิน จนกระทั่งเสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการเชิญตัว นายรัฐติกุล คนขับรถไปสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ส่วนศพของผู้เสียชีวิตได้ส่งให้ทางแผนกนิติเวชทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนประสานทางญาติมารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป