รปภ.แอบกินเหล้าที่ทำงาน แค้นเพื่อนฟ้องหัวหน้า ฆ่ายัดกระสอบทิ้งบ่อบำบัด

สุดโหด รปภ.แอบกินเหล้าที่ทำงาน แค้นเพื่อนฟ้องหัวหน้า ฆ่าโหดยัดกระสอบ

(2 ต.ค. 61) ร.ต.อ.นครินทร์ จำปานิล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุฆาตกรรมยัดศพใส่กระสอบ ทิ้งไว้ข้างบ่อบำบัดน้ำเสีย ภายในโครงการสถานีสูบน้ำเสียสำโรง กรมควบคุมมลพิษ สมุทรปราการ โดยที่เกิดเหตุ พบห่อผ้าใบที่ทำด้วยผ้ากระสอบสีฟ้าสลับขาว วางอยู่บนรถเข็นสองล้อ สีเหลือง มีเลือดไหลออกมาจากห่อผ้า จึงประสานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจเก็บหลักฐาน พร้อมแพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลสมุทรปราการ เข้าร่วมตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่มูลนิธิแกะห่อผ้าออกพบศพ นายถาวร อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ รปภ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก มีบาดแผลแตกที่กลางศีรษะ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่หน้าอกซ้าย ในสภาพที่สวมชุด รปภ.ครึ่งท่อน ใกล้ศพพบแป๊บเหล็กยาวประมาณ 80 เซนติเมตร เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 ท่อน พบโทรศัพท์มือถือผู้ตายตกอยู่ 1 เครื่อง พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ของผู้ตายจอดอยู่ ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าคือ นายสมชาย อายุ 65 ปี เพื่อน รปภ. และเป็นอดีตนักมวยเก่า หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

นายสมชาย อายุ 65 ปี หัวหน้า รปภ. เล่าว่า ช่วงเย็นวานนี้ผู้ตายเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่สถานีสูบน้ำเสีย โดยได้โทรศัพท์มาฟ้องตนว่านายสมชาผู้ก่อเหตุ ซื้อสุรามาดื่มขณะปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในอาการมึนเมา ทำลายข้าวของ หลังทราบเรื่องจึงโทรศัพท์มาต่อว่านายสมชาย พร้อมทั้งคาดโทษเอาไว้ไม่ให้ปฏิบัติตัวอย่างนี้อีก ก่อนวางสายไป

กระทั่งกลางดึกได้โทรศัพท์มาหาผู้ตาย แต่ไม่มีการรับสาย จึงโทรไปหานายสมชาย ซึ่งก็ไม่รับสายเช่นกัน จนในช่วงบ่ายวันนี้ จึงเดินทางมาตรวจสถานีฯ แต่ไม่พบทั้ง 2 คน พบเพียงรถจักรยานยนต์ของนายถาวรจอดอยู่ จึงออกตามหาจนพบห่อผ้าใบดังกล่าวมีเลือดไหลออกมา จากนั้นโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานว่า หลังนายสมชายถูกหัวหน้าโทรศัพท์มาต่อว่า จึงทราบว่าผู้ตายเป็นคนโทรศัพท์ไปฟ้องว่าดื่มสุราขณะปฏิบัติหน้าที่ เกิดความไม่พอใจ จึงเข้าไปต่อว่าผู้ตายและเกิดมีปากเสียงจนถึงขั้นลงมือชกต่อยกัน ด้วยความเมานายสมชายจึงใช้มีดปลายแหลมแทงเข้าที่หน้าอกซ้าย ก่อนใช้เหล็กแป๊บตีเข้าที่ศีรษะจนแตกและเสียชีวิต ด้วยความกลัวนายสมชายจึงลากศพนายถาวรมาวางบนผ้าใบ โดยจับขดแขน ขดขา ทั้ง 2 ข้าง และ ใช้ผ้าใบห่อจนมิด ก่อนใช้เชือกมัดวางศพบนรถเข็นเอาศพไปซ่อน ก่อนหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามจับกุมตัวนายสมชาย ผู้ก่อเหตุมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป