ชีวิตบัดซบ! สาวใหญ่วัย 57 ถูกคู่ขาหญิงปอกลอก โวยรพ.ดังจับขังหาว่า "เป็นบ้า"

ชีวิตบัดซบ! สาวใหญ่วัย 57 ถูกคู่ขาหญิงปอกลอก โวยรพ.ดังจับขังหาว่า "เป็นบ้า"

ชีวิตบัดซบ! สาวใหญ่วัย 57 ถูกคู่ขาหญิงปอกลอก โวยรพ.ดังจับขังหาว่า "เป็นบ้า"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวใหญ่วัย 57 โวยโรงพยาบาลดังจับขังหาว่าเป็นบ้า บ้านแตก-ถูกไล่ออกจากงาน เสียใจหลงไปคบกับคนไม่ดี

เมื่อเวลา 18.00 น. (2 ต.ค.61) นางทัศนัย อายุ 57 ปี เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ ร.ต.อ.ยงยุทธ สังข์วิริยะกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี หลังเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับโรงพยาบาลเกี่ยวกับระบบประสาท ชื่อดังใน จ.นนทบุรี ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว และทำให้สูญเสียรายได้ ซึ่งนางทัศนัยได้แจ้งความไว้แล้วก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งเดินหน้าเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุข แต่เรื่องดังกล่าวกับเงียบหายเข้ากลีบเมฆจึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ความเป็นธรรมกับตนเอง

นางทัศนัย กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า ตนเองเป็นภรรยาเสี่ยเต้นท์รถมือสองในจังหวัดปทุมธานี แต่ทำตัวไม่ดีไปคบหากับ นางแคท (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี โดยมีความสัมพันธ์กันแบบเลสเบี้ยน ตนเองโดนนางแคทปอกลอกจนต้องขายทรัพย์สินเป็นบ้านเดี่ยว 50 ตารางวา ที่ อ.บางบัวทอง ทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียวในหมุ่บ้านพฤกษา 3 อ.บางบัวทอง รถเก๋งโตโยต้า วีออส ทะเบียน ศธ-8438 กรุงเทพ เพื่อนำเงินมาให้นางแคทคู่ขา

หลังจากหมดเงินแล้วอีกทั้งยังต้องแยกทางกับสามีและลูกชายคนเดียว ทำให้ตนเครียดจัดคิดมาก นางแคทจึงพาตนไปหาหมอที่รพ.รัฐแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 59 เพื่อรักษาสภาพจิตใจ แต่พอนางแคทคุยกับหมอในห้องเพียงไม่นานก็มีรถตู้ของ รพ.เกี่ยวกับระบบประสาทชื่อดัง ใน จ.นนทบุรี มารับตัวตนเองทันที ตนเองก็ยืนยันว่ามีจิตปกติทุกประการ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อกลับพาตนเองไปไว้ในห้องผูกแขนผูกขาไว้ก่อนกักตัวไว้รักษาบังคับให้กินยา ตนปฎิเสธก็จะถูกทุบตี จนถึงวันที่ 2 พ.ย. 59 จึงปล่อยตนเองกลับมา และออกหนังสือให้มารับยาบำบัดประสาทไปทาน ตนเองต้องเดินทางไปรับยาทั้งๆ ที่ไม่ได้บ้าแต่กลับมีอาการน้ำลายเหนียวกลืนลงคอได้ลำบาก ซึ่งเชื่อแน่ว่ามาจากการกินยาของโรงพยาบาล

นางทัศนัย สาวชีวิตตกอับ กล่าวด้วยน้ำตาซึมว่า ตนเองต้องเสียครอบครัว สูญเสียรายได้เพราะถูกกักตัวไว้รักษาที่โรงพยาบาล ทั้งที่ไม่ได้บ้าหรือเสียสติแต่อย่างใดเลย เมื่อออกจากโรงพยาบาลจึงเดินหน้าเรียกร้องหาความเป็นธรรมจากผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุขแต่ก็ถูกปฎิเสธ อีกทั้งเรื่องทุกเรื่องที่ร้องเรียนไปก็เงียบหาย จึงมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชนด้วย

ทางด้าน ร.ต.อ.ยงยุทธ เปิดเผยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้แล้ว แต่คดีนี้ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวคดีหมดอายุความไปแล้ว ส่วนข้อหาทำให้สูญเสียรายได้ผู้เสียหายต้องไปฟ้องร้องเอาเอง แต่อย่างไรก็ตามตนจะทำหนังสือสอบถามไปทางโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อขอทราบเรื่องราวข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันนั้นเพื่อมาประกอบสำนวนพิจาราณาและชี้แจงให้กับนางทัศนัยได้เข้าใจ และเรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้บังคับบัญชาก็กำชับให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายผิดถูกว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมายอย่างแน่นอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook