ลูกเมียร่ำไห้ รอง สว.จร.เข้าเวรดึก บ่นปวดหัวแล้วล้มวูบ ตายในหน้าที่

(3 ต.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ไพรัตน์ วรรณี สว.สอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งมีตำรวจจราจรเสียชีวิตอยู่ภายในป้อมจราจร หน้าปากซอยใจเอื้อ ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.พรชัย จรวงษ์ รองผกก.จร.สภ.เมืองปทุมธานี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม

ที่เกิดเหตุภายในป้อมจราจรพบผู้เสียชีวิตคือ ร.ต.ท.ปรีชา บุญรอด รองสว.จร.สภ.เมืองปทุมธานี อายุ 58 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้น โดยมีลูกสาวและภรรยาที่ทราบข่าวนั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับกุมมือ-ร่ำไห้ด้วยความเสียใจ หลังจากที่เพื่อนพ่อโทรศัพท์แจ้งให้ทราบ ผลจากการชันสูตรคาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง

ด.ต.ปุณญศิษฏ์ เกตุหนู ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองปทุมธานี ผู้ที่พบศพ เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาหลังอบรมปล่อยแถวเสร็จ ตนจึงเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่ป้อมจราจรแยกใจเอื้อ แต่เมื่อเดินทางมาถึงก็พบว่าป้อมจราจรถูกล็อคจากด้านใน พยายามเคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ

แต่พบรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน จอดอยู่ริมทาง รถคันนี้เป็นของ ร.ต.ท.ปรีชา จึงโทรศัพท์เข้าหาแต่ไม่มีผู้รับสาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและนำกุญแจสำรองมาเปิด ก็พบว่า ร.ต.ท.ปรีชา นอนไม่ได้สติอยู่ที่พื้นห้องจึงช่วยกันปั๊มหัวใจและเรียกหน่วยกู้ภัยมาให้ความช่วยเหลือ แต่พบว่า ร.ต.ท.ปรีชา เสียชีวิตแล้ว

สำหรับ ร.ต.ท.ปรีชา บุญรอด รองสว.จร.สภ.เมืองปทุมธานี เป็นตำรวจที่มีความรับผิดชอบในหน้าที่สูง เป็นที่เคารพนับถือของเพื่อนร่วมงานและเป็นมิตร เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน

ขณะที่ ส.ต.ท.ธนดล เดสูงเนิน ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองปทุมธานี ซึ่งเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่คู่กัน เปิดเผยว่า ตนจะต้องเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. ซึ่งหลังจากเข้าเวรเมื่อเย็นวานนี้ ผู้เสียชีวิตได้บอกว่ามีอาการปวดหัว ตนจึงบอกให้ไปโรงพยาบาล เพื่อพบแพทย์แต่ผู้ตายกลับไม่ไป

ต่อมาตนจึงบอกว่าจะเรียกรถกู้ภัยมาพาไปโรงพยาบาลก็ได้ แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าไม่ไป จากนั้นเวลา 00.00 น. ตนได้ออกจากป้อมไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านมั่นคง บริเวณถนนทางหลวงสาย 345 กระทั่งรุ่งเช้ามีรุ่นพี่ตำรวจโทรไปแจ้งข่าว จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ

ทางด้านภรรยาของ ร.ต.ท.ปรีชา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ก่อนสามีจะมาเข้าเวร ยังคุยเล่นกันอยู่ว่า เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้จะได้ประดับยศ ร.ต.อ.แล้ว ที่ผ่านมาสามีมีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว ทำการตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยลูกสาวเป็นคนพาไปและรักษาสุขภาพมาโดยตลอด รวมทั้งเพิ่งได้รับการตรวจสุขภาพของตำรวจมา โดยทุกอย่างก็ปกติ กระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าว

พ.ต.ท.ไพรัตน์ วรรณี สว.สอบสวนสภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและบันทึกภาพเป็นหลักฐานให้แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบอย่างละเอียด และให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป