ทางหลวงดักจับจึงขับหนี...เก๋งฝ่าไฟแดงเสียหลักตกร่อง พบซุกยาบ้าใต้เบาะนับแสนเม็ด!
รถเก๋งฝ่าไฟแดง เจอทางหลวงดักจับ ขับหนีเสียหลักตกร่องกลางถนน ก่อนคนขับและคนที่มากับรถเปิดประตูหลบหนีหายไปกับความมืด เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบยาบ้าซุกใต้เบาะตรวจนับได้ 1 แสนเม็ด
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 3 ตุลาคม 2561 ด.ต.วิมล แก้วชู พร้อมด้วย ด.ต.เกษม อุดมศิลป์ ผบ.หมู่ สถานีตำรวจทางหลวงชุมพร ได้รับแจ้งจากประชาชนว่า บริเวณสามแยกไฟแดงนากระตาม ถนนสายเพชรเกษม กม. 478 ต.นากระตาม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีรถยนต์ฝ่าสัญญาณไฟเป็นประจำหวั่นจะเกิดอุบัติเหตุ จึงได้นำรถตรวจการณ์ 2411 ออกกวดขันและเฝ้าจับกุมผู้กระทำความผิด
จนกระทั่ง เวลา 03.00 น.ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ณน 1832 กรุงเทพมหานคร ขับมุ่งลงภาคใต้ และได้ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง จึงได้เรียกให้จอด แต่รถคันดังกล่าวยังเหยียบคันเร่งหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถตรวจการณ์ออกไล่ตามอย่างกระชั้นชิด
จนรถคันดังกล่าวซึ่งขับรถแซงซ้ายขวารถข้างหน้ามาตลอด ได้ขับมาถึงด่านตรวจปฐมพร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งกรวยบังคับให้ใช้เลนซ้ายช่องเดียว จึงมีรถจอดเรียงเป็นแถวยาวเพื่อรอเข้าด่านจำนวนมาก คนขับรถเก๋งได้อาศัยช่องไหล่ทางขับแทรกรถคันอื่นไป
แต่ไปเจอรถจอดอยู่ไหล่ทางข้างหน้า จึงได้หักหลบและปาดหน้ารถบรรทุกที่วิ่งออกจากด่านเสียหลักรถตกลงร่องกลางถนน โดยคนในรถซึ่งมากันสองคนได้เปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าไปซอยข้างทางท่ามกลางความมืดหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เจ้าหน้าที่จึงได้นำรถเก๋งคันดังกล่าวลากมายังสถานีตำรวจทางหลวงเพื่อทำการตรวจค้น เนื่องจากต้องสงสัยพฤติกรรมในการขับรถหลบหนี ไม่น่าจะกลัวถูกจับเพียงฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ซึ่งก็เป็นจริงหลังจากตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้าจำนวน 10 มัด มัดละ 10,000 เม็ด วางเรียงซุกอยู่ใต้เบาะหลัง
นอกจากนี้ยังพบเอกสารหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวประชาชน 1 ใบ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 1 ใบ ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ 1 ใบ และสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย 1 เล่ม ซึ่งระบุชื่อเป็นของนายแสงสุรีย์ อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
พร้อมจะติดตามตัวนายแสงสุรีย์ว่าเป็นบุคคลที่หลบหนีเหตุการณ์ครั้งนี้หรือเปล่า และได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บรอยนิ้วมือแฝงตามรถ เพื่อติดตามหาตัวขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ต่อไป