ดาวโจรดับ-วิ่งราวทรัพย์เลขาอดีต นอภ.-ตร.ทำงานเร็วตามรวบทันควัน

( 4 ต.ค. 61 )  พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ  ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม  ระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวน เร่งติดตามจับกุมคนร้าย หลังมีผู้เสียหาย  คือ  นางนงนุช อายุ 50 ปี  เลขาอดีตนายอำเภอธาตุพนม  แจ้งว่า มีคนร้ายได้ก่อเหตุขโมยกระเป๋า ที่วางไว้ขณะนำคณะประชาชน นักท่องเที่ยว และคนสำคัญ ที่มาทำบุญ ทำพิธีทำบุญขอพรองค์พระธาตุพนม ภายในบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

จากนั้นได้มีคนร้ายฉวยโอกาส ขโมยกระเป๋าสิ่งของมีค่าที่วางไว้ วิ่งหลบหนีไป  ภายในมีทรัพย์สิน คือ  สร้อยคอทองคำ 3 บาท เงินสด จำนวน 800 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ และแท็บเล็ต 1 เครื่อง  เจ้าหน้าที่จึงได้ ลงพื้นที่เร่งสืบสวนติดตาม

จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้ หลังพบหลักฐาน มีการนำกระเป๋าสิ่งของมีค่า และแท็บเล็ต ทิ้งไว้ บริเวณหลังวัด  และมีการนำสร้อยคอทองคำ เงินสด หนีไป ก่อนมีการระดมกำลังคนหา พบคนร้ายหลบซ่อนบนต้นไม้  เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงปิดล้อม จับกุมตัวไว้ได้  ตรวจค้นพบของกลาง สร้อยคอทองคำ ผู้เสียหาย หนัก 3 บาท และเงินสด 800 บาท ควบคุมตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบชื่อคนร้าย คือ   นายพรพัฒน์  อายุ 54 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.นิคมห้วยผึ้ง อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์  พบประวัติอาชญากรรมโชกโชน เคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี พ.ศ. 2552 ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี

หลังพ้นโทษออกมาได้ไม่ได้ ตกงาน  จึงตระเวนหางานทำ ก่อนตัดสินใจมาพึ่งบารมีองค์พระธาตุพนม  ยึดอาชีพ หารายได้เลี้ยงชีวิต  ขายอาหารปลา หารายได้จากการจำหน่ายปลา จำหน่ายเต่า แก่นักแสวงบุญ  ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 สุดท้ายไม่สำนึก และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสพยาบ้าอีกเลิกไม่ได้ 

จากนั้นหลังเสพยาบ้า เมา  จึงคิดหาทางรวยทางลัด ฉวยโอกาสขโมยกระเป๋ากับประชาชน นักท่องเที่ยว นักแสวงบุญ ที่นำทรัพย์สินมีค่ามาด้วย แต่ไม่ได้ทันระวัง และก่อเหตุชิงกระเป๋า เลขาอดีตนายอำเภอธาตุพนม ที่นำติดตัวมาด้วย ขณะมาดูแล คณะนักแสวงบุญวิ่งหนี  โชคดีหนีไม่รอด ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาได้  

พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ  ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม  ฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชน นักท่องเที่ยว และนักแสวงบุญ ที่มาทำบุญ ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  ให้ระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบดูแลทรัพย์สินของมีค่า ที่ติดตัวมาด้วย ห้ามวางไว้โดยไม่มีคนดูแล เพราะอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพ ที่แฝงมากับนักแสวงบุญ รวมถึงแฝงมาหากินในสถานที่สำคัญ เพราะมีประชาชน นักท่องเที่ยว เดินทางมาจำนวนมาก 

จึงฝากแจ้งเตือนให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ  นอกจากนี้ทางตำรวจจะได้เพิ่มมาตรการเข้ม จัดกำลังคอยดูแลตรวจสอบ เข้มงวดมากขึ้น พร้อมตรวจสอบ ดูแล บุคคลที่มายึดอาชีพหารายได้กับนักแสวงบุญ ที่อาจจะมีมิจฉาชีพแฝงตัวมาด้วย  อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้เร่งหาทางดูแลป้องกันไม่ให้ก่อเหตุซ้ำอีก