เปิดใจ ภรรยา "ลุงจรูญ" สูญเสียคู่ชีวิตกว่า 40 ปี ซ้ำยังมีหนี้กู้สร้างหอพักเกือบ 2 ล้าน

เปิดใจ ภรรยา "ลุงจรูญ" สูญเสียคู่ชีวิตกว่า 40 ปี ซ้ำยังมีหนี้กู้สร้างหอพักเกือบ 2 ล้าน

เปิดใจ ภรรยา "ลุงจรูญ" สูญเสียคู่ชีวิตกว่า 40 ปี ซ้ำยังมีหนี้กู้สร้างหอพักเกือบ 2 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ภรรยาลุงเจ้าของหอพักเหยื่อแก๊งวัยรุ่นรุมทำร้ายจนตาย เผยยังทำใจไม่ได้และคิดถึงสามีที่แต่งงานอยู่กินกันมา 40 ปีทุกวัน ผวา หวั่นกลุ่มผู้ก่อเหตุหวนมาข่มขู่ทำร้ายคนในบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (5 ต.ค.) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าบรรยากาศงานศพของ นายจรูญ อายุ 60 ปี เจ้าของหอพักที่เสียชีวิต จากการถูกกลุ่มวัยรุ่นแก๊งทวงหนี้รุมทำร้ายระหว่างเข้าไปช่วยระงับเหตุทะเลาะวิวาท เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 28 ก.ย.61 ที่ผ่านมา ที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 6 ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

>> เผยวงจรปิด แก๊งโจ๋สุดเหี้ยมรุมกระทืบเจ้าของหอพัก ก่อนดักทำร้ายซ้ำจนตาย

มีเพื่อนบ้านและคนรู้จักแวะเวียนเข้าไหว้ศพ พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัวอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยคืนนี้จะมีการสวดบำเพ็ญกุศลศพเป็นคืนที่ 6 และจะมีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 6 ต.ค.61 นี้

นางศรีวรรณ อายุ 58 ปี ภรรยาของนายจรูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้แม้ว่าจะผ่านมาหลายวันแล้ว แต่ตัวเองและทุกคนในบ้านทั้งแม่ของนายจรูญวัย 91 ปี และลูกชายยังทำใจยอมรับกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้

และจากนี้ไปยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร เพราะตลอดเวลาที่แต่งงานและอยู่กินกันมาประมาณ 40 ปี นายจรูญเป็นสามีและหัวหน้าครอบครัวที่ดี ดูแลทุกคนในครอบครัวมาโดยตลอด

ซึ่งทุกวันนี้ตัวเองคิดถึงนายจรูญอยู่เสมอ ทุกคืนนอนไม่หลับต้องกินยานอนหลับช่วย โดยมีเพียงรูปถ่ายคู่กันและรูปถ่ายกับลูกชายเพียงไม่กี่รูปเท่านั้นไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นรูปถ่ายคู่กันเมื่อครั้งไปทำบุญที่วัดที่ตัวเองตั้งไว้ให้เป็นรูปหน้าจอโทรศัพท์มือถือ

สำหรับหอพักที่เกิดเหตุนั้น นางศรีวรรณ บอกว่า นายจรูญ กู้เงินจาก ธ.ก.ส.เกือบ 2 ล้านบาท มาสร้าง โดยนำที่ดินที่สร้างหอพักและบ้านเป็นหลักค้ำประกัน ด้วยความตั้งใจไว้ว่าจะได้เก็บค่าเช่าและหักต้นทุน เหลือเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัวและตัวเองในยามแก่เฒ่า

แต่เพิ่งจะเปิดให้เช่าได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ก็มาเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียในครั้งนี้ขึ้นเสียก่อน ซึ่งยอมรับตามตรงว่าในเวลานี้ยังคิดไม่ออก ว่าหลังจากนี้ไปจะทำอย่างไรต่อไปดีเพื่อดูแลบริหารจัดการหอพัก และหนี้สินที่มีภาระอยู่ต้องผ่อนชำระเดือนละเป็นหมื่น จากการเก็บค่าเช่าหอพักที่มี 9 ห้อง และเก็บค่าเช่าเพียงห้องละ 1,100 บาท เท่านั้น

นอกจากนี้ นางศรีวรรณ กล่าวถึงการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัววัยรุ่นที่ก่อเหตุได้จำนวนหนึ่งแล้วว่า อยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวให้ได้ครบทุกคน และดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ หากจับกุมได้ทั้งหมดแล้วอยากให้มีการนำมาแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ เพราะครอบครัวและญาติอยากจะรู้จากปากผู้ก่อเหตุ ว่าทำไมจึงได้ลงมือก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมอย่างนี้ แต่คงไม่ให้มาขอขมาศพ เพราะสิ่งที่ทำไปเกินกว่าจะให้อภัยได้

โดยระหว่างนี้ที่ยังจับกุมตัวคนร้ายได้ไม่ครบ ยอมรับว่าตัวเองและทุกคนในครอบครัวรู้สึกหวาดผวาเป็นอย่างมาก ว่ากลุ่มคนร้ายจะหวนกลับมาข่มขู่ทำร้าย แม้แต่ผู้ที่เช่าหอพักอยู่ก็หวาดกลัวและย้ายออกไปเหลือเพียงห้องเดียว หรือหากจับกุมได้หมดก็ยังมีความเป็นห่วงอยู่ดี ว่าหากกลุ่มผู้ก่อเหตุพ้นโทษออกมาจะหวนกลับมาข่มขู่ทำร้ายหรือไม่ ซึ่งอยากจะร้องขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในเรื่องนี้ด้วย

ส่วนความคืบหน้าของคดีนั้น รายงานข่าวแจ้งว่าที่สถานีตำรวจภูธรสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายศักดิ์ชัย ,นายอารักษ์ และนายอนิวัต ที่ถูกจับกุมมาสอบสวน พร้อมของกลางมีดที่ใช้ในวันก่อเหตุรุมทำร้ายเจ้าของหอพักเสียชีวิตและนายแดง ชาวเมียนมา ได้รับบาดเจ็บสาหัสกะโหลกร้าวเลือดคั่งในสมอง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอำเภอสันทราย

ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนเป็นบุคคลในภาพจากกล้องวงจรปิดจริง โดยวันเกิดเหตุตนพร้อมพวกได้นั่งดื่มสุราในงานวันเกิด นายสุพิฌาย์ หรือ นุ๊ก ขณะนั้นมีโทรศัพท์เข้ามาว่านายบรรจง  หรือ แบงค์  ถูกทำร้ายร่างกายจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามพรรคพวกไป เมื่อไปถึงตนได้เป็นคนกระโดดถีบประตู และงัดบานเกล็ดประตูหอพักจริง ส่วนมีดที่ถือวิ่งไปนั้นเป็นมีดของนายแดง ชาวเมียนมาร์ที่ตนเองแย่งมาได้

อย่างไรก็ตาม ยืนยันไม่ได้เป็นคนทำร้าย ทั้งนายแดง และนายจรูญ ผู้เสียชีวิต ขณะที่นายอนิรุต  ให้การว่า นายอนิวัต ซึ่งเป็นน้องชายเป็นคนพาไปและขณะเกิดเหตุตนได้ถีบประตูห้อง แต่ไม่รู้ทำร้ายใครไปบ้างเนื่องจากอยู่ในช่วงชุลมุน

เบื้องต้น ตำรวจ ตั้งข้อร่วมกัน ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ และผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน เวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์

ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายบุญญฤทธิ์ หรือ โปร หัวหน้าแก๊งเก็บเงินกู้สายจังหวัดลำพูน ได้เข้ามอบตัวที่ สภ.มะขาม จังหวัดจันทบุรี แล้วหลังถูกตำรวจออกหมายจับ

โดยล่าสุดวันนี้ตำรวจออกหมายจับเพิ่ม 7 ราย มอบตัว 3 ราย ขาดอีก 4 ราย คือ นายดิเรก หรือ ช้าง,นายแม็ก ไม่ทราบนามสกุล, นายวิชิต ไม่ทราบนามสกุล และ นายเบนซ์ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook