คนพัทยาโล่งอก รื้อเครนร้างยอดตึกเจ้าปัญหา หวั่นโดนลมมรสุมพัดร่วง
เข้ารื้อถอนเรียบร้อย เครนยอดตึกวอเตอร์ฟรอนท์ แหลมบาลีฮาย หลังอดีตนายกฯ เมืองพัทยาหวั่นเครนโดนพายุพัดถล่ม เพราะถูกทิ้งร้างเอาไว้บนนั้นมาหลายปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี อดีตนายกเมืองพัทยา มีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานกับอาคารชุด “วอเตอร์ฟรอนท์ คอนโดมิเนียม” บริเวณท่าเรือแหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จ.ชลบุรี เร่งดำเนินการรื้อถอน “ทาวเวอร์เครน” ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ยอดอาคารสูงกว่า 50 ชั้น เป็นการเร่งด่วน
เนื่องจากพบว่าทาวเวอร์เครนตัวดังกล่าว ได้มีการติดตั้งไว้เป็นเวลานานหลายปี หลังจากที่เมืองพัทยามีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างจากปัญหาเรื่องของอาคาร ซึ่งมีกำหนดให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.จะมีคำสั่งให้ พลตำรวจตรีอนันต์ พ้นจากตำแหน่ง และให้ นายสนธยา คุณปลื้ม มาเป็นนายกเมืองพัทยาแทนนั้น
จากการตรวจสอบความคืบหน้าล่าสุด พบว่าพื้นที่บนดาดฟ้าอาคาร วอเตอร์ฟรอนท์ คอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ทาวเวอร์เครนขนาดใหญ่ ทางบริษัทผู้รับเหมาได้นำวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรที่จำเป็นเข้าไปดำเนินการรื้อถอนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งระบบไฟฟ้าและลิฟท์ พร้อมมีการยกชิ้นส่วนของทาวเวอร์เครนลงมากองไว้ในพื้นที่ของอาคารด้านล่างตามนโยบายก่อนหน้านี้ สร้างความอุ่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง
สำหรับโครงการ วอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนท์ เป็นประเภทอาคารชุดพักอาศัย โดยมีลักษณะเป็นอาคาร คสล.สูง 53 ชั้น และชั้นใต้ดิน 3 ชั้น มีห้องพักจำนวน 315 ห้อง ตั้งอยู่บนที่ดิน 7 แปลง มีพื้นที่รวม 2-1-63.4 ไร่ ติดถนนสาธารณะด้านถนนพัทยาสาย 3 ดำเนินการโดยบริษัท บาลีฮาย จำกัด
แต่ต่อมาเมืองพัทยาได้ออกคำสั่งให้ ระงับการก่อสร้างโครงการฯ เนื่องจากมีปัญหาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมและผังเมือง รวมทั้งโครงสร้างและพื้นที่ส่วนเกินของอาคารที่ดำเนินการไม่ตรงตามแบบ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ถึงปัจจุบัน เนื่องจากเป็นอาคารที่สูงโดดเด่น บดบังทัศนียภาพของเมืองพัทยาไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ หลังจากเมืองพัทยาได้ออกคำสั่งระงับการก่อสร้างและถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานาน ผู้รับผิดชอบโครงการยังไม่ได้นำทาวเวอร์เครนขนาดใหญ่ที่ติดตั้งไว้บนตึกสูงออก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อผู้สัญจรไปมาและอาศัยบริเวณใกล้เคียงได้ จึงได้ประสานงานไปยังบริษัท บาลีฮาย จำกัด ให้นำอุปกรณ์ดังกล่าวออกจากพื้นที่ ซึ่งบริษัท บาลีฮาย จำกัด ได้มอบหมายให้บริษัท วรกิจ ก่อสร้าง จำกัด บริษัทผู้รับเหมาเป็นผู้ดำเนินการจนแล้วเสร็จ