สาวโรงงานสะอื้น แอบสามีแชทคุยกับนักบินฝรั่งหล่อ สุดท้ายสูญเงิน 1 แสน
สาวโรงงานวัย 40 ปี ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นนักบินต่างชาติ ก่อนให้โอนเงินค่าของหมดไปกว่าแสนบาท
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหญิงสาวอายุ 40 ปี สาวโรงงาน ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นนักบินต่างชาติ เข้ามาเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก ก่อนส่งภาพสิ่งของมีค่ามาให้ดู และหลอกให้โอนเงินกว่า 1 แสนบาท
น.ส.เอ(นามสมุติ)หญิงสาวอายุ 40 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ในตำบลกระแสบน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ได้เปิดเผยว่า ถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินกว่า 1 แสนบาท โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว มีคนเข้ามาเป็นเพื่อนพูดคุยในเฟสบุ๊ก โดยเป็นภาพของชายชาวต่างชาติแต่งชุดเครื่องแบบนักบิน
จากนั้นพูดคุยกันได้ประมาณ 2 เดือน มิจฉาชีพได้ส่งภาพสิ่งของมีค่า พร้อมกับภาพเงินมาให้ดูและพิมพ์ข้อความว่า จะส่งของทั้งหมดมาให้ แต่น.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหายจะต้องไปรับเงินและสิ่งของที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ด้วยความไม่รู้ทำให้สาวโรงงานหลงเชื่อ แต่ยังไม่ทันเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ มิจฉาชีพแสบก็พิมพ์ข้อความบอกกับผู้เสียหายว่า ต้องเสียเงินค่าปรับ เป็นจำนวนเงินนับหมื่นบาท และให้โอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพซึ่งเป็นบัญชีของผู้หญิงคนหนึ่ง
โดยน.ส.เอ(นามสมมุติ)ที่เป็นผู้เสียหาย ก็หลงเชื่อและโอนเงินเข้าบัญชีให้กับมิจฉาชีพถึง 3 ครั้ง รวมเป็นเงินแล้วกว่า 1 แสน 1 หมื่นบาท โดยไม่บอกสามีให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
ต่อมาสามีตรวจดูเงินในบัญชี ถึงกับตกใจ พบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปเป็นจำนวนมาก จึงสอบถามน.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหายที่เป็นภรรยา จึงทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.แกลง จังหวัดระยอง แต่ไม่มีความคืบหน้า
จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาเปิดเผย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้กับคนอื่น และระหว่างที่น.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหาย กำลังให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว ปรากฏว่ามิจฉาชีพ ได้พิมพ์ข้อความส่งมาหาผู้เสียหาย โดยหลอกให้ส่งเงินไปให้อีก พร้อมทั้งอ้างว่าจะส่งของมาให้และจะเดินทางมาประเทศไทยเดือนหน้า
แต่ น.ส.เอ(นามสมมุติ) รู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก จึงได้พิมพ์ข้อความตอบกลับว่า กำลังจะไปหาเงิน และจะโอนไปให้ ด้านมิจฉาชีพจึงได้ให้เบอร์โทรศัพท์มือถือโดยอ้างว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์ของบริษัท ที่ทำงาน พร้อมกับตีเนียนขอหมายเลขบัญชี ธนาคารของ น.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหาย
โดยอ้างว่า จะส่งเงินค่าปรับของศุลกากร เข้าบัญชีคืนให้ แต่กลับถูก น.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหาย ปฏิเสธ มิจฉาชีพจึงพยายามพิมพ์ข้อความหว่านล้อมต่างๆ นานาเพื่อให้ น.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหาย ไม่ต้องกลัวหรือเป็นกังวลใดๆ ซึ่งมิจฉาชีพ อ้างว่าจะมาลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย
ทั้งนี้ น.ส.เอ(นามสมมุติ)ผู้เสียหาย บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า ต้องการให้ตำรวจติดตามจับตัวคนร้าย เพราะมีหลักฐานชื่อและบัญชีธนาคาร ที่โอนไปให้เป็นธนาคารอยู่ในกรุงเทพมหานคร และเชื่อว่าหากตำรวจจับตัวมิจฉาชีพได้ จะได้เงินกลับคืนมาบ้างก็ยังดี
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ