โชเฟอร์รถแดงถือดาบมามอบตัว อ้างโดนด่าก่อน ซ้ำคู่กรณีมายืนกลางถนน

โชเฟอร์รถแดงถือดาบมามอบตัว อ้างโดนด่าก่อน ซ้ำคู่กรณีมายืนกลางถนน

โชเฟอร์รถแดงถือดาบมามอบตัว อ้างโดนด่าก่อน ซ้ำคู่กรณีมายืนกลางถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โชเฟอร์รถแดงในคลิปฉาวเมื่อเช้านี้ นำมีดดาบเข้ามอบตัวกับตำรวจ สารภาพข่มขู่ตามคลิปจริง แต่เพราะอีกฝ่ายตะโกนด่าก่อน ซ้ำยังจอดรถขวางอยู่กลางถนน

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปจากกล้องหน้ารถคันหนึ่ง เป็นภาพเหตุการณ์ที่โชเฟอร์รถแดงเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับเพื่อนอีกคน ถืออาวุธมีดดาบลงมาไล่ฟันทำร้าย บนถนนเชียงใหม่-ลำปาง หน้าร้านข้าวต้มครัวสุพรรณ เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

โดยหลังได้รับแจ้งความ ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องหน้ารถ พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของศูนย์เทคโนโลยีและสารสนเทศ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พบว่ารถแดงคันดังกล่าว มีชื่อ นายธีรเทพ เป็นผู้ครอบครอง จึงเชิญตัวมาสอบสวน ทำให้ทราบว่าโชเฟอร์ในคลิปดังกล่าวคือ นายพันกร อายุ 32 ปี เป็นญาติที่เช่ารถไปวิ่งรับผู้โดยสาร

>> หนุ่มเชียงใหม่หอบคลิปแจ้งความ โชเฟอร์รถแดงกร่าง คว้าดาบมาไล่ฟัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงเรียกตัว นายพันกร พร้อมกับ นายเอกชัย เพื่อนที่ร่วมกันก่อเหตุ ให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.ช้างเผือก กระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา นายพันกรและนายเอกชัย ได้ขับรถแดงคันที่ใช้ก่อเหตุ มาเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ พร้อมกับนำอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้ด้วย

จากการสอบสวน นายพันกรและนายเอกชัย สารภาพว่าได้ก่อเหตุตามคลิปภาพปรากฏจริง โดยอ้างว่า ขณะขับรถอยู่ดีๆ เมื่อผ่านจุดเกิดเหตุ รถของคู่กรณีมาจอดกีดขวางบนถนนเลนขวา ซึ่งถือว่าผิดกฎจราจรเช่นกัน ทำให้ตนขับแซงทางเลนซ้าย

แต่ปรากฏว่าตอนขับรถผ่านไป คู่กรณีที่ยืนอยู่กลางถนนได้ตะโกนด่า ตนได้ยินจึงโมโห ก่อนจะจอดรถถือมีดลงมาหวังเพียงข่มขู่และใช้ป้องกันตัวเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะทำร้าย เมื่อวิ่งไล่คู่กรณีไปได้สักพักจึงขับรถออกไปตามปกติ ส่วนมีดที่ใช้เป็นมีดที่เก็บได้ จึงนำมาเก็บไว้ใต้เบาะรถเพื่อใช้ป้องกันตัว

ขณะที่ นายธีรเทพ เจ้าของรถแดง บอกว่า นายพันกรขับรถแดงให้บริการมา 3 ปี ไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง เชื่อว่าสาเหตุจะมาจากคู่กรณีที่ตะโกนด่าท้าทายก่อน

ขณะที่พนักงานสอบสวนระบุพฤติกรรมของ 2 ผู้ถูกกล่าวหาเข้าข่ายพยายามฆ่า แต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใด รอให้ผู้เสียหายเข้ามาเจรจากันก่อน จึงจะแจ้งข้อหาอีกครั้งต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook