ไม่จบง่ายๆ หนุ่มคู่กรณีลั่นไม่ยอมความ ยันโชเฟอร์รถแดงถือดาบไล่ฟัน

ไม่จบง่ายๆ หนุ่มคู่กรณีลั่นไม่ยอมความ ยันโชเฟอร์รถแดงถือดาบไล่ฟัน

ไม่จบง่ายๆ หนุ่มคู่กรณีลั่นไม่ยอมความ ยันโชเฟอร์รถแดงถือดาบไล่ฟัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มคู่กรณีแจ้งความโดนโชเฟอร์รถแดงเชียงใหม่ถือมีดดาบตามไล่ฟัน แม้อีกฝ่ายจะอ้างแค่ใช้ข่มขู่ เจ้าตัวย้ำไม่ยอมความ อยากให้เป็นคดีตัวอย่าง ตร.ให้เวลาไปหาหลักฐานมายืนยัน

จากกรณีที่มีการแชร์คลิปจากกล้องหน้ารถ บันทึกภาพเหตุการณ์โชเฟอร์รถแดงเมืองเชียงใหม่และเพื่อนอีกคน ถืออาวุธมีดดาบลงมาไล่ฟันทำร้าย เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ช้างเผือก ก่อนที่ 2 ผู้ถูกกล่าวหาจะเข้ามอบตัว พร้อมกับให้การภาคเสธ ตามข่าวที่รายงานไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายนิพัทธ์ อายุ 37 ปี ชายผู้เสียหายได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก โดยยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าถูก นายพันกร ใช้อาวุธมีดดาบไล่ฟันหมายเอาชีวิต แต่ตนวิ่งหลบได้ทัน ไม่ใช่แค่ถือมีดดาบมาข่มขู่ตามที่คู่กรณีให้การ

>> โชเฟอร์รถแดงถือดาบมามอบตัว อ้างโดนด่าก่อน ซ้ำคู่กรณีมายืนกลางถนน

ส่วนมีดดายที่ใช้ก่อเหตุนั้น ก็เป็นมีดดาบที่เป็นอาวุธชัดเจน ไม่ได้เป็นมีดดายหญ้าที่ติดมากับรถตามที่กล่าวอ้าง เรื่องนี้ตนต้องการให้ดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะอยากให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ถือเป็นพฤติกรรมที่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่

นายนิพัทธ์ ยังกล่าวอีกว่า หากตนยอมความไม่เอาเรื่องในครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุอาจจะได้ใจและไปก่อเหตุซ้ำกับคนอื่นอีกก็ได้ และต้องการให้ผู้ประกอบการรถสาธารณะได้เห็นเป็นตัวอย่างในกรณีนี้ แต่ยืนยันว่าเหตุครั้งนี้ไม่ได้เหมารวมถึงรถแดงเชียงใหม่ทกคัน เพราะส่วนใหญ่ทำมาหากินสุจริต ไม่มีพฤติกรรมแบบนี้ เรื่องนี้เป็นพฤติกรรมแต่ละบุคคลเท่านั้น

นอกจากนี้ นายนิพัทธ์ยังเตรียมเข้าร้องเรียนกับขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้ตรวจสอบการให้บริการรถรับจ้างสาธารณะของคู่กรณีว่ามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และพฤติกรรมดังกล่าวเหมาะสมหรือมีบทลงโทษหรือไม่

>> หนุ่มเชียงใหม่หอบคลิปแจ้งความ โชเฟอร์รถแดงกร่าง คว้าดาบมาไล่ฟัน

ขณะที่ นายพันกร โชเฟอร์รถแดงที่ถูกกล่าวหา ได้ให้การขัดแย้งกันว่าไม่ได้ลงมือใช้มีดฟัน เพียงแค่ถือมีดดาบออกมาข่มขู่เท่านั้น หลังจากนี้หากคู่กรณีจะดำเนินคดีก็จะไปหาภาพวงจรปิดมายืนยันว่าไม่ได้ฟันตามที่ถูกกล่าวหา

ขณะที่ ร.ต.อ. พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นพบความผิดชัดเจนคือการพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกาย หรือ พยายามฆ่า ยังมีหลักฐานที่ไม่ชัดเจน เพราะคลิปภาพที่บันทึกมาได้นั้นมีเพียงภาพหน้ารถ ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ต่อจากนั้น โดยในตอนนี้จะให้โอกาสคู่กรณีไปหาหลักฐานมายืนยัน และจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook