ย่องเงียบ! ชาวลาวขับเก๋งขนเงิน 38 ล้านบาทข้ามประเทศ ศุลกากรสกัดจับยึด 32 ล้าน

ย่องเงียบ! ชาวลาวขับเก๋งขนเงิน 38 ล้านบาทข้ามประเทศ ศุลกากรสกัดจับยึด 32 ล้าน

ย่องเงียบ! ชาวลาวขับเก๋งขนเงิน 38 ล้านบาทข้ามประเทศ ศุลกากรสกัดจับยึด 32 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศุลกากรหนองคายรวบ 3 ชาวลาว ขับรถเก๋ง จะข้ามสะพานกลับประเทศ ค้นรถเจอเงินสดซุกซ่อนในตู้ลำโพงและช่องเก็บของ รวม 38 ล้านบาท คาดเป็นขบวนการค้าเงิน เผยเป็นรอบ 3 ในการยึดเงินเช่นนี้ ยังเหลืออีก 2 กลุ่มเป้าหมาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค. 61 ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคาย นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ ผู้อำนวยการศุลกากรภาคที่ 2 นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมชาวลาว 3 คน

เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน (ขอสงวนชื่อและนามสกุลเพื่อการขยายผลจับกุม) รถยนต์เก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ ทะเบียน คว 9889 กำแพงนคร ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ซุกซ่อนในตู้ลำโพงด้านหลังรถ 10 ล้านบาท และซ่อนไว้ในช่องเก็บของช่วงกลางเบาะนั่งโดยสารด้านหลัง 28 ล้านบาท รวม 38 ล้านบาท

การดำเนินการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรเฝ้าระวังขบวนการลักลอบนำเงินตราออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวมีการเข้าออกประเทศบ่อยครั้ง จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา รถยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามาบริเวณด่านพรมแดนและกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ

เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงได้เรียกตรวจสอบก็พบของกลางดังกล่าว โดยมีการอำพรางนำเครื่องอุปโภคบริโภควางปกปิดลำโพงในช่องเก็บของกระโปรงหลังรถ จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งสามคนยอมรับสารภาพว่าได้ซุกซ่อนเงินทั้งหมดไว้จริง โดยต่างคนต่างมีธุรกิจของตนเอง ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการขายอาหารสดและอาหารแห้ง รวมทั้งทำธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาวด้วย หลังถูกจับกุมยินยอมระงับคดีในชั้นศุลกากร

นายกฤษฎา ทองธรรมชาติ ผอ.ศุลกากรภาคที่ 2 กล่าวว่า การตรวจยึดเงินในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่ศุลกากรหนองคายจับกุมได้ ครั้งแรก 98 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยทางศุลกากรจะประสานกับ ปปง. ทำการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินว่าเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย ยาเสพติดหรือไม่

แต่คาดว่าน่าจะเป็นขบวนการค้าเงิน เมื่อผู้กระทำผิดทั้ง 3 คน ยอมรับผิดและยินยอมระงับคดีในชั้นศุลกากร ก็จะถูกปรับเงินคนละ 20,000 บาท และคืนเงินให้คนละ 2 ล้านบาทตามสิทธิ เงินที่เหลือ 32 ล้านบาท ยึดเข้าหลวงรวมทั้งรถยนต์ก็จะถูกยึดด้วย

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขบวนการนำเงินออกนอกประเทศที่เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามมี 5 กลุ่ม ถูกจับกุมแล้ว 3 กลุ่ม ยังเหลือที่ต้องจับตาดูพฤติกรรมอีก 2 กลุ่ม ซึ่งกลุ่มนี้จะถูกดำเนินการเช่นเดียวกับสองกลุ่มที่ผ่านมา

โดยการเป็นชาวต่างชาติก็จะถูกควบคุมตัวไว้ก่อนจนกว่าคดีจะสิ้นสุดจึงจะกลับประเทศได้ และต้องมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ทุกครั้งที่ได้รับการประสาน ส่วนเงินของกลางจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่ธนาคารก่อนจะโอนเข้าคลังต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook