“ปู ไปรยา” เปิดใจ แจงละเอียดยิบ ถูกมองทำงานสังคมสร้างภาพ ไม่ช่วยเหลือเด็กไทย
เป็นหนึ่งนักแสดงที่แบ่งเวลาส่วนตัวเพื่ออุทิศให้กับงานด้านสังคมสงเคราะห์ สำหรับนางเอกสาว ปู-ไปรยา ลุนด์เบิร์ก แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอก็มักจะถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโลกโซเชียลเสมอว่า สิ่งที่เธอทำไปนั้นเพราะต้องการจะสร้างภาพให้ตัวเองดูดี อีกทั้งยังถูกตั้งคำถามว่าไปลงพื้นที่เยี่ยมผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่บังคลาเทศ แต่ทำไมถึงไม่ช่วยเด็กไทย
>>ทำดีแต่โดนแซะ "ปู ไปรยา" ถูกถามทำไมช่วยแต่เด็กต่างชาติ ไม่ช่วยเด็กไทย
ล่าสุด ปู ไปรยา จึงได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟัง โดยเจ้าตัวได้ชี้แจงแบบละเอียดถึงทุกกรณีที่ถูกตั้งคำถาม พร้อมบอกไม่ได้เสียใจที่มีคนมองแบบนั้น เธอเพียงแค่อยากชี้แจงและอธิบายด้วยความสุภาพมากกว่าการที่มาใช้อารมณ์โต้กลับไป
ยังคงทำหน้าที่ด้านสังคมสงเคราะห์อย่างต่อเนื่อง ?
"ปูทำอย่างต่อเนื่องมาตลอดอยู่แล้ว ทำหลายด้าน แต่โฟกัสหลักคือ UNHCR เพิ่งไปลงพื้นที่ที่บังคลาเทศมาค่ะ ปูติดต่อ UNHCR เพราะอยากช่วยชาวโรฮิงญาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นอาสาสมัครให้กับ UNHCR แล้ววันนี้ได้เดินทางไปบังคลาเทศ แล้วได้พบปะกับผู้ลี้ภัยโรฮิงญาเป็นครั้งแรก ได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิตเขาว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง ปูรู้สึกว่าทำให้การทำงานของปูมีคุณค่าและความสำคัญมากขึ้น ปูดีใจที่ได้มาสร้างความรับรู้ในประเทศไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งปูได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ลี้ภัย บางคนอดข้าวอดน้ำมา 7 วัน บางคนสูญเสียลูก สูญเสียพ่อแม่ เป็นเรื่องที่ทำใจยาก แต่หน้าที่ปูไม่ใช่มาเสียใจ หน้าที่ปูมาแก้ปัญหา มองว่าในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่งไม่มีใครควรจะเจออะไรแบบนี้ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีสัญชาติ มีบ้านที่อยู่อย่างปลอดภัย"
ปฏิญาณกับตัวเองว่าจะทำหน้าที่ช่วยสังคมตลอดชีวิต ?
"ตลอดชีวิตค่ะ พูดตั้งแต่วันแรกที่ส่งอีเมล์ไปหา UNHCR แล้วว่าจะทำตลอดชีวิต แต่ปูขอชี้แจงคนไทยว่าปูทำงานสังคมด้านอื่นด้วยนะคะ ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ ให้ทุนการศึกษาเด็ก ปูไม่เคยลืมที่จะให้ เพราะปูพบคุณค่าชีวิตของตัวเองกับการเป็นผู้ให้ คนอย่าลืมว่า ปู ไปรยา เมื่อก่อนภาพลักษณ์เป็นยังไง ปูทำงานมาตั้งแต่เด็กไม่เคยมีเวลาให้กับตัวเอง พอเป็นผู้ใหญ่แล้วปูเลยอยากจะแสดงความเป็นผู้ใหญ่ ที่ปูทำงานสังคมทุกวันนี้เพราะปูเห็นโอกาสว่าคนที่ได้รับโอกาสอย่างเช่นปู โอกาสที่มีงานมีรายได้เป็นบุคคลที่โชคดี แต่มีคนอีกมากที่ไม่ได้รับโอกาส เราในฐานะคนที่ได้รับโอกาสควรจะหาคุณค่าในการให้โอกาสกับเขา ปูเลยมองว่านี่แหละคือเหตุผลที่ปูเกิดมาเป็นคนและคือเหตุผลที่ปูทำ มันคือความสุขในชีวิต"
เสียใจไหมที่มีบางคนมองว่าเราสร้างภาพ ?
"ไม่เคยเสียใจค่ะ เราต้องอยู่ในโลกของความจริง เราเป็นคนของประชาชน เราจะโกรธเขาเพราะเขามีทัศนคติเกี่ยวกับชีวิตเราเหรอ มันไม่ถูก เขาเสพข่าวสารของเรา เขาดูละครเรา เขาไปซื้อสินค้าที่เราเป็นพรีเซนเตอร์ เราไม่มีสิทธิ์ที่จะมาโกรธเพราะทัศนคติเขา เพราะอาชีพเราถูกตั้งขึ้นมาเพราะเขายังติดตามเราอยู่ ปูเลยคิดว่าการที่เขามีทัศนคติแบบนี้ดีแล้ว เผื่อมีอะไรให้ปูปรับปรุง ปูจะได้ไปปรับปรุง ทำให้ดีขึ้น มีอะไรที่ไม่เห็นด้วย ปูก็ชี้แจงอย่างสุภาพไม่ใช้อารมณ์”
“ปูเจอคอมเมนต์มาตลอด ไปล้างห้องน้ำก็ว่าสร้างภาพ ไม่เป็นไร ฟ้ามีตา ทำความดีต่อไป ปูเคยพูดตลอดว่าปูไม่ใช่คนดีนะ คนทำงานมนุษยธรรมไม่ได้แปลว่าเป็นคนดี แต่ปูมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ซีเรียสถ้าคนจะว่าเรา เพราะเราก็รู้อยู่ในใจว่าไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบหรอก คนเรามีรัก โกรธ หลง หวง อิจฉา มันเป็นความรู้สึกมนุษย์ เพียงแต่เรารับรู้ความรู้สึก เข้าใจแล้ว พัฒนาตัวเองแล้วปล่อยวาง"
ล่าสุดมีคอมเมนต์ในไอจีกับภาพที่เราไปลงพื้นที่เยี่ยมผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่บังคลาเทศ ว่าทำไมไม่ช่วยเด็กไทย ?
"ปูไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด เหตุผลที่ปูต้องชี้แจง เพราะปูรู้สึกว่าบางครั้งเราไปช่วยกลุ่มคนนี้หรือช่วยใครก็ตาม ปูไม่อยากให้มันมีเรื่องลบเข้ามาเกี่ยวข้องกับผู้ลี้ภัย ปูเลยชี้แจงที่เขาว่าทำไมไม่ช่วยเด็กไทยบ้าง ปูบอกว่าปีที่แล้วปูมอบทุนการศึกษาให้เด็ก 5 คน ก็พยายามจะส่งเขาให้สูงที่สุดเท่าที่เขาอยากเรียน ปูช่วยตลอดถ้ามีใครอยากให้ไปช่วย รบกวนติดต่อผู้ช่วยปูได้เลยนะคะ ยินดีอยากช่วย จะช่วยหาทุนให้ด้วย”
“แม่ปูเป็นคนอ่างทอง แม่ปูจบแค่ ม.6 แม่ปูไม่ได้รับโอกาสเหมือนที่ปูได้รับ ทำไมปูจะไม่ช่วยประเทศของตัวเองหรือเยาวชนของประเทศตัวเอง ถ้าเยาวชนของเรามีความสามารถและได้รับโอกาส ประเทศบ้านเกิดของปูก็พัฒนา มันก็มีแต่ผลบวกกับปู เลยชี้แจงไปว่าช่วยนะคะ แล้วอยากช่วยปูไหมคะ แต่เขาก็ตอบมาอย่างสุภาพว่า ขอโทษนะคะ ช่วยไม่ได้แต่ขอเป็นกำลังใจให้ ซึ่งเป็นคำตอบที่น่ารัก เห็นใจเขานะ สู้ๆ ไม่เป็นไร”
“ปูไม่โกรธเลย แค่ประโยคเดียวถ้าเสียใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว ปูเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 14 จนตอนนี้ปู 29 แล้ว ปูเจอข่าวอะไรมาบ้าง ถ้าโกรธแค่คอมเมนต์เดียว สงสัยอยู่โลกยากนี้แล้ว คนถามมา เราก็ต้องตอบ แต่อย่าตอบแบบใช้อารมณ์ ตอบแบบสุภาพ เราพยายามสร้างความรับรู้ให้ผู้ลี้ภัย อยากให้โฟกัสกับสิ่งนั้น รีบตอบให้จบ คนให้กำลังใจเยอะ เราก็ดีใจค่ะ”
ก่อนหน้านี้ เอ ศุภชัย ลงรูปปูไปเดินแบบงานมิลานแฟชั่นวีค เมื่อปีที่แล้วในไอจี คนจับโยงว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ ใหม่ ดาวิกา กำลังไปเดินในปีนี้ คนมองว่าเขาใช้รูปเราแขวะใหม่ ?
“ตอนที่พี่เอลงปูอยู่ที่อเมริกา ซึ่งพี่เอก็เป็นคนหนึ่งที่เจอปูในห้าง ปูมีทุกวันนี้ก็เพราะคุณเอ ศุภชัย ในตอนแรกเลย แล้วก็ต่อด้วยพี่โก้ (อดีตผู้จัดการ) จริงๆ พี่เอเป็นคนที่ให้กำลังใจปูมาตลอด เขาก็โทรมาบอกว่าลงรูปปู เรารักกันนะ แค่นั้น ปูก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ก็บอกพี่เอว่าขอบคุณค่ะ เพราะตอนอยู่เมืองนอกปูไม่ได้ติดตามข่าวสารที่นี่ ปูก็อยู่กับคุณแมท เลยไม่ได้ติดตามอะไร”
“เอาจริงๆ พอเราไปลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัย เราจะรู้เลยว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กมาก ที่พี่เอลงรูปปู ก็คือ พี่เอทำสิ่งที่น่ารักต่อเรา แล้วดาราคนไหนไปเมืองนอก จะไปคนแรกคนที่สอง สาม สี่ ย่อมเป็นข่าวดีต่อประเทศไทย ถ้าเราต้องสู้กับประเทศที่มีประชากรเยอะกว่า แค่นี้เราก็สู้จนเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เพื่อให้เขามาสนใจเรา ปูไม่มีอะไรนอกจากความยินดีจริงๆ แล้วถ้าคนอื่นจะเดินแบบ ทำงานสังคม ทำอะไรที่เขาเห็นว่าเราทำแล้วมีความสุขที่จะทำ เราก็ยินดี แสดงว่าคนตามรอยในสิ่งที่ดี ปูเลยรู้สึกดีกับเรื่องนี้”
ส่วนตัวเราไม่ได้คิดว่าเอตั้งใจลงรูปเพื่อแขวะใคร ?
“เอาจริงๆ นะ ปูเดาเจตนาคนไม่ออก แต่ปูรู้ว่าพี่เอเป็นคนดี แล้วเขาเป็นคนพาปูเข้าวงการ ยังไงพี่เอก็ต้องมีบุญคุณต่อปูค่ะ”
เขาได้พูดอะไรเพิ่มไหม ?
“ไม่มีนะ เขาบอกว่าไม่เกี่ยวกันนะ รัก ปูก็เชื่อว่าพี่เอรักปู เพราะปูก็ดื้อกับเขามาหลายปีมาก ปูไม่มีอะไรจะพูดนอกจากบอกว่าปูก็รักพี่เอเช่นกันค่ะ (ยิ้ม)”
พอคนมองเป็นดราม่าเกาเหลาแล้วรู้สึกยังไงบ้าง ?
“ก็อย่างที่บอกโลกนี้มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงหรือน่าคิดเยอะมาก ปูปล่อยวางกับเรื่องนี้ ปูไม่เคยแข่งกับใครค่ะ ปูไม่ได้ดังเพราะบทละครหรือหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทุกอย่างที่ทำคือสิ่งที่ปูรัก ปูวิ่งมาราธอน คนก็พูดถึง ต้องขอบคุณผู้สื่อข่าวด้วย ปูทำงานเมืองนอก เพราะช่วงนั้นอกหักเลยหนีไปทำงานเมืองนอก พอไปทำงานเมืองนอกเพื่อหนีเรื่องเศร้า กลายเป็นกระแสขึ้นมา ทำให้มีงาน มีคนรู้จักก็ดีใจ คนเริ่มพูดถึงเรา”
“งานสังคมก็ทำ เพราะอ่านข่าวชาวโรฮิงญาแล้วรู้สึกอยากทำ ทุกอย่างที่ปูทำไม่ใช้แผนการซับซ้อน แต่มีความสุข แล้วฟ้ามีตา ทำแล้วได้ดี ก็ขอทำต่อไป เลยไม่ได้มองว่าแข่งกับใคร เพราะแข่งไม่เป็น อยู่มานานแล้ว แข่งกับตัวเองอย่างเดียว เพราะถ้าเรายังเอาชนะตัวเองไม่ได้ เราอย่าได้คิดไปแข่งกับใครเลยค่ะ”
หลังจากนี้งานของปูจะเป็นไปในทิศทางไหน ?
“งานในวงการก็ทำนะ พรีเซ็นเตอร์ก็ยังมีอยู่เยอะ ทำหนัง ซีรีส์ เดินแบบ ทำงานต่างประเทศ แต่งานเพื่อสังคม คือ องค์ประกอบที่สำคัญของชีวิต ปูอุทิศเวลา 1 ปีที่ผ่านมาประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์กับเรื่องนี้”
พรีเซ็นเตอร์ยังแน่นอยู่ไหม ?
“ก็เห็นตามบิลบอร์ดอยู่เนอะ”
พรีเซนเตอร์สินค้าแบรนด์ระดับโลก Guess หลุดมือไป ใหม่เสียบแทน ?
“เราก็มารับอีกแบรนด์คือ Pomelo แต่จริงๆ มันก็ไม่แปลก การที่แบรนด์เขาจะเอาคนใหม่มา เขาใช้รูปเรามาปีหนึ่ง เราทำงานร่วมกัน สร้างกระแสมาด้วยกัน คนซื้อสินค้า กาลเวลาเปลี่ยน พรีเซนเตอร์ก็ต้องเปลี่ยน ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ต้องคิดอะไรเยอะเลยจริงๆ โลกนี้มีความเครียดเยอะแล้ว เวลาปูเห็นคนอื่นดี ปูมีแต่ความยินดีให้กับเขาจริงๆ”
เสียดายไหม ?
“ไม่เสียดายค่ะ ปูก็รับสินค้าอีกตัวหนึ่งมาแล้วในส่วนของเสื้อผ้า ฝากซื้อด้วยนะ เขาจะได้ต่อสัญญาฉัน (หัวเราะ) ซื้อกันเยอะๆ เลย มันเป็นเรื่องปกติของการตลาดค่ะ อย่าลืมว่าไม่มีอะไรถาวร กระแสยังไม่ถาวรเลย มันก็สลับกันไปมา มันเป็นวัฏจักรของวงการนี้ ถ้าเรามองทุกครั้งว่างานไปหาคนอื่น เราจะเป็นคนที่จิตใจแคบมากเลยนะ เราต้องมีความยินดีสิ เขามีรายได้ เรามีรายได้ การแข่งขันในทางที่ถูกมันเป็นสิ่งที่บวกต่อเศรษฐกิจ ถ้าไม่มีการแข่งขันแล้วใครจะซื้อสินค้าล่ะ”
มีวงในโฆษณาบอกว่าผู้จัดการเราคือแมท ใช้ระบบการทำงานแบบฝรั่ง เรียกค่าตัวสูงและไม่มีลดแลกแจกแถม เลยทำให้เราหลุดพรีเซนเตอร์ ?
“ไม่นะ คุณแมทเขาไม่ใช่ผู้จัดการปู เขาแค่เข้ามาดูสัญญาต่างๆ ให้ปู ปูทำงานของตัวเอง ถ้าย้อนกลับมา 6 ปี จากมาราธอน ออกกำลังกาย ทุกอย่างที่ปูทำเป็นการวางแผนของปูว่าปูอยากจะใช้ชีวิตแบบนี้ในวงการบันเทิง ว่าปูอยากจะมีหุ่นที่ผอมลง อยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งมันทำให้ปูมีงาน ปูเลยคิดว่าปูไม่จำเป็นต้องมีผู้จัดการส่วนตัว เพราะปูอยากจะวางแผนชีวิตตัวปูเอง แล้วปูไม่เคยเรื่องมาก การแข่งขันในวงการบันเทิงมันค่อนข้างยากอยู่แล้ว ปูทำทุกอย่างที่ไม่ได้เรื่องมากอะไรเลย แต่เรื่องผลประโยชน์ตัวเองมันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ต้องรักษา แต่อย่าเอามาเชื่อมโยงกับคนที่ปูรักเลย เพราะผู้ชายคนนี้ปูรักมาก บอกเลยค่ะ ดังนั้นห้ามแตะเลย เพราะเขาไม่ได้ผิด (หัวเราะ) นะคะ”
การที่เราปรับมาทำงานในระบบของฝรั่งมันทำให้เราบริหารวางแผนชีวิตง่ายขึ้นไหม ?
“หลายคนไม่เข้าใจปูว่าปูเป็นคนพูดตรง ทำไมถึงต้องพูดตรง เพราะปูไม่อยากหวานเป็นน้ำต้มกระดูกแต่ต้องไปโกหกใคร ปูไม่แทงคนข้างหลังค่ะ ปูทำอะไรปูพูดเลยว่าฉันสะดวกแบบนี้ ฉันสามารถทำได้แบบนี้ ฉันทำงานได้วันนี้ เวลานี้ประมาณนี้ ถ้าคุณโอเคเรามาร่วมงานกัน ถ้าคุณถ่ายงานเกินเวลา ไม่เป็นไร เราอะลุ่มอล่วย เพราะดาราใหม่ๆ เกิดขึ้นเยอะ ปูคงจะไปเรื่องมากอะไรไม่ได้หรอก (หัวเราะ) นี่คือความจริง ก็เลยไม่หวง ตอนนี้ก็มีงานอยู่ แต่ก็ยังอยากมีงานเรื่อยๆ นะ ยังไม่แต่งงาน จ้างได้ค่ะ”
ก็คือถ้าเขาโอเคกับข้อเสนอเราก็โอเค ถ้าไม่โอเคเราก็ไม่เสียดาย หรือซีเรียส ?
“ก็ไม่เป็นไรค่ะ มันมีเรื่องของราคา และองค์ประกอบหลายๆ อย่างด้วย ปูไม่มีทางลดราคาค่าตัวปู นี่คือสิ่งที่ยังสตริคอยู่เหมือนเดิม”
เราไม่แคร์ถ้างานจะหายเพราะคนอื่นเขาลดแลกแจกแถมแล้วได้งานไป ?
“ปูไม่ลดเพราะปูเชื่อว่า ถนนหนทางนี้มันยังอีกยาวไกล ปูเข้ามาในเส้นทางนี้ตั้งแต่อายุ 14 ปี ปูลดวันนี้วันหน้าปูเพิ่มไม่ได้ คุณค่าของปู ปูสู้ไว้แล้ว ปูขอสู้ต่อไปแล้วกันค่ะ”
ฉลองครบรอบ 2 ปีกับแมทธิวที่เมืองนอกเป็นยังไงบ้าง ?
“ดีใจค่ะ รักข้ามทวีป 2 ปีแล้ว ดีใจ ตอนนี้คุณแมทอยู่เมืองไทย (ยิ้ม) เขาชอบเมืองไทยมาก เดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่เขามาเดือนมกราคม ก็ดีใจ ปูก็มีแพลนจะพาไปเที่ยว ซึ่งก็จะเจอคุณพ่อคุณแม่ปูด้วย ก็สนิมกัน แม่เขาก็ช่วยปู หาบ้านที่นิวยอร์ค สนิทมาก ปูรักครอบครัวเขาค่ะ และคุณแมท ก็เป็นคนที่น่ารัก พี่ก็จะได้เจอเขาน่าจะเดือนหน้า ปูเชื่อว่าเดี๋ยวพี่ๆ ก็รักเขาแหละ”
คุยเรื่องแต่งงานไหม ?
“มีคุยค่ะ แต่เขาก็รู้อยู่ว่าปู ยังมีงานอยู่ตอนนี้ ถ้าปูรีบประกาศแต่งงานก็คงต้องสู้หนักกว่านี้อีก ขอเก็บเงินก่อน เราเป็นคู่รักที่ต้องเก็บเงินเอง เขาเป็นฝรั่ง ไม่ได้มีเงินจากพ่อแม่มาเลี้ยงลูก ปูก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะมาให้ปู ก็วางแผนว่าจะต้องทำงานอีก 2-3 ปี เพื่อที่จะเก็บเงินมีบ้านมีลูกมีครอบครัว”
พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายมาเจอกันจะคุยเรื่องแต่งงานด้วยเลยไหม ?
“เขาเจอกันแล้ว เรื่องเซอร์ไพรส์เดี๋ยวให้คุณแมทมาบอกเองละกัน (ยิ้ม)”
อยากมีลูกเองด้วยไหม ?
“ผู้หญิงทุกคนก็อยากมีอยู่แล้ว ที่ถามสุดท้ายเรื่องวงการบันเทิงปู ดราม่าไหม ปูไม่ดราม่า แต่ปูจะดราม่าถ้าปูไม่มีชีวิตครอบครัวเลย เพราะเราเกิดมาเป็นมนุษย์ อยากมีคนที่รักเรา ดูแลเราในวัยที่เราอายุเยอะขึ้นเราอยากมีตัวเล็กๆ ที่ทำความดี ทำอะไรดีๆ ให้เราได้ภาคภูมิใจ เป็นธรรมชาติของคนอยู่แล้ว ปู ไปรยาไม่ได้อยู่ค้ำฟ้าอยู่แล้ว วันหนึ่งก็กลายเป็นปูที่ใครก็ไม่รู้จัก”
>>“ปู ไปรยา” จับมือ “แมทธิว” ก้าวผ่านปัญหารักข้ามทวีป ยอมรับคุยเรื่องแต่งงานมาตลอด
>>“เอ ศุภชัย” บอกอย่าคิดมาก คนโยงโพสต์รูป “ปู ไปรยา” ไปมิลาน เหน็บ “ใหม่ ดาวิกา”
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ