“วอนรัฐทบทวน” ป้าตาบอดรับเลี้ยงหมาแมวนับร้อยโอด-หากขึ้นทะเบียนจริงเตรียมควักครึ่งแสน!
( 11 ต.ค. 61 ) จากกรณีที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงมติคณะรัฐมนตรี เตรียมขึ้นทะเบียน ‘หมา-แมว’ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อขจัดปัญหาของสังคมที่จะเกิดขึ้น เพื่อคุ้มครองดูแลสัตว์ และดูแลสัตว์เลี้ยงที่มีอยู่ เจ้าของต้องดูแลสัตว์ไม่ปล่อยให้ก่อความรำคาญต่อผู้อื่น จึงต้องนำไปขึ้นทะเบียนโดยมีค่าใช้จ่ายดังนี้ คือ
- ค่าคำร้องขอขึ้นทะเบียนฉบับละ 50 บาท
- ค่าสมุดประจำตัวสัตว์ 100 บาท
- ค่าเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ ตัวละ 300 บาท
หากเจ้าของไม่ดำเนินการตามกฎหมาย
- เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นของรัฐ มีอำนาจเปรียบเทียบปรับไม่เกิน 25,000 บาท
โดยผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 93/1 หมู่ที่ 8 ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของ นางชุติมา หรือ “ป้าแมว” อายุ 61 ปี ซึ่งพิการตาบอด 1 ข้าง ใช้พื้นที่บ้านกว่า 1 ไร่ ภายในชุมชนทรัพย์เมืองทอง นำเอาสุนัขจรจัด และ แมวจำนวนมากมาเลี้ยงไว้
โดยจำนวน แมวทั้งสิ้น 70 ตัว, สุนัข 30 ตัว ซึ่งป้าแมวนำเงินส่วนตัวของตนและสามีซึ่งทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง ซื้ออาหารสุนัขและแมวกว่าเดือนละ 1 หมื่นบาท ในการเลี้ยงแมวและสุนัขจรจัดที่ถูกนำไปทิ้งไว้ที่ต่างๆ
เมื่อสอบถามถึงเรื่องการที่ ครม.ประกาศเตรียมให้ขึ้นทะเบียนสุนัขและแมวทำให้ป้าแมวถึงกับตกใจเนื่องจากต้องใช้เงินกว่า 50,000 บาท ในการขึ้นทะเบียน
ป้าแมวเปิดเผยว่า สุนัขและแมวที่นำมาเลี้ยงส่วนใหญ่มีผู้นำมาทิ้งไว้ และไปเจอถูกทิ้งตามที่ต่างๆ ก็เก็บมาเลี้ยงเพราะสงสาร เมื่อทราบข่าวการขึ้นทะเบียนซึ่งต้องใช้เงินตัวละ 450 บาท โดยที่บ้านเก็บแมวและสุนัขจรจัดมาเลี้ยงไว้ 100 กว่าตัว ทำให้ต้องใช้เงินกว่า 5 หมื่นบาท
ซึ่งจริงๆ แล้วหากถามว่า การขึ้นทะเบียนดีหรือไม่ก็ต้องตอบว่าดี แต่อยากให้มีข้อยกเว้นสำหรับคนที่รับสุนัข-แมวจรจัดมาเลี้ยงเพราะทุกวันนี้ก็ต้องใช้จ่ายเดือนละหมื่นกว่าบาทอยู่แล้ว
ส่วนหากคนที่ซื้อมาเลี้ยงคนละ 1-2 ตัว คงไม่กระทบ ซึ่งหากมีการนำเรื่องนี้มาใช้จริง ปริมาณสุนัข-แมวจรจัดน่าจะเพิ่มปริมาณมากขึ้น
ส่วนตนเห็นว่าหากมีการนำสุนัขหรือแมวไปปล่อยทิ้งที่วัดก็จะเป็นภาระกับทั้งพระ และก็ส่งผลกระทบกับสุนัขและแมวที่ต้องไปรวมกันอย่างแออัดอีกด้วยจึงอยากให้ทบทวนในเรื่องดังกล่าวด้วย
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ