สาวใช้เดนนรก ปล้นทรัพย์นายจ้างแล้ววางเพลิงเผาบ้านอำพราง

สาวใช้เดนนรก ปล้นทรัพย์นายจ้างแล้ววางเพลิงเผาบ้านอำพราง

สาวใช้เดนนรก ปล้นทรัพย์นายจ้างแล้ววางเพลิงเผาบ้านอำพราง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวใช้ตัวแสบ แอบย่องฉกเงินนายจ้างที่เผลอวางกระเป๋าเอาไว้ แล้วย้อนกลับมาวางเพลิงจุดไฟเผาบ้านอำพราง หวังฆ่าให้ตายทั้งบ้าน แล้วทำทีเหมือนไม่อะไรเกิดขึ้น ก่อนจำนนเพราะภาพวงจรปิด

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมสายตรวจตู้ยามประจำตำบลเสม็ดใต้ ได้เข้าทำการควบคุมตัว น.ส.จันจิรา อายุ 25 ปี เป็นแม่บ้านรับเลี้ยงเด็ก ที่ก่อเหตุแอบฉกเงินในกระเป๋าของนายจ้าง ซึ่งวางไว้บนโซฟาในซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.วรรณษา อายุ 31 ปี ผู้เป็นนายจ้างไป

หลังจากนั้นได้หวนกลับมาก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้าน เมื่อช่วงเวลา 05.00 น. ของวันนี้ (12 ต.ค.) ขณะที่นายจ้างพร้อมด้วยสามีกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บนชั้นสองของตัวบ้าน แต่เคราะห์ดีที่คนรับใช้ภายในบ้านคนอื่นๆ ตกใจตื่นขึ้นมาเห็นก่อน ก่อนจะร้องเรียกให้เจ้าของบ้านมาช่วยกันดับเพลิงเอาไว้ได้ทัน

เหตุดังกล่าวทำให้พื้นบ้านซึ่งเป็นแผ่นไม้ปาเก้ ภายในห้องนั่งเล่นหน้าบ้านพร้อมด้วยโซฟาชุดใหญ่ถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายไปทั้งชุด และตัวอาคารภายในบ้านถูกควันไฟรมจนมีคราบเขม่าสีดำฟุ้งกระจายติดไปทั่วทั้งหลัง

หลัง ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ บัวธรา และ ร.ต.อ.ประมวล พูลศิลป์ รองสารเวรสอบสวน สภ.บางคล้า ทั้งกลางคืนและกลางวัน เดินทางมาทำการสอบสวน น.ส.จันจิรา ยอมรับสารภาพเพราะจนมุมด้วยหลักฐานว่า ได้เข้ามาทำงานให้นายจ้างมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนที่จะแอบฉกทรัพย์สินจากในกระเป๋าใส่เงินของนายจ้างที่วางเอาไว้อยู่ในห้องนั่งเล่นบนโซฟาไปจริงเป็นจำนวนเงินกว่า 3,000 บาทเศษ

จากนั้นจึงกลับไปยังบ้านพักในพื้นที่ ต.คลองขุด ซึ่งเป็นตำบลใกล้เคียงพื้นที่ติดกัน แต่เกรงว่านายจ้างจะตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าแอบขโมยเงินจากกระเป๋าไป จึงได้คิดวางแผนตื่นขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงเช้ามืดเพื่อนำน้ำมันเบนซินใส่ขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมาเทลาดวางเพลิงเผาโซฟาเพื่ออำพรางคดี

สำหรับตนเองนั้นต้องการนำเงินที่ขโมยนายจ้างไปส่งค่างวดรถจักรยานยนต์ ที่ยังหาเงินส่งไม่ได้จำนวน 2,400 บาท และใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูกอีก 2 คน เนื่องจากตนเองมารับจ้างเลี้ยงดูบุตรของนายจ้างได้เงินค่าจ้างเพียงวันละ 250 บาท ส่วนสามีมีอาชีพเป็นช่างเชื่อมมีรายได้รวมกันยังไม่พอใช้จ่ายในบ้าน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว

ขณะที่ พ่อของเจ้าของบ้านเกิดเหตุกล่าวว่า อยากฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะจ้างคนเข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านพักอาศัยด้วยว่า ขอให้ดูให้ดีๆ ต้องรู้หัวนอนปลายเท้าให้มากที่สุด สำหรับตนเองนั้นก็คิดว่าได้คัดเลือกดูมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นคนที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ก็ยังมาถูกลอบก่อเหตุลักทรัพย์ และวางเพลิงเผาบ้านแบบนี้อีก

ซึ่งหากไม่มีคนตื่นมาเห็นบ้านทั้งหลังก็อาจจะถูกเพลิงเผาไหม้ไปหมดทั้งหลัง รวมถึงเจ้าของบ้านคนที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านก็อาจเสียชีวิตตายในกองเพลิงไปพร้อมกันหมดทั้งครอบครัวด้วย

หากเราเลือกคนรับใช้ที่ไม่ดีเข้ามาอยู่ด้วยและรู้เส้นทางเข้านอกออกในภายในตัวบ้านเป็นอย่างดีนั้น ก็ยิ่งมีอันตรายมาก เช่น แม่บ้านเลี้ยงเด็กรายนี้ ที่แอบเข้ามาก่อเหตุในช่วงเช้ามืดในขณะที่คนในบ้านกำลังนอนหลับกันอยู่ และหลังจากก่อเหตุแล้วยังเดินทางกลับไปบ้าน ก่อนจะอาบน้ำเดินทางกลับมาทำงานใหม่ตามปกติ ในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังเข้ามาช่วยเก็บกวาดถูบ้านตรงบริเวณจุดเกิดเหตุที่ได้ลงมือเผาไว้เองอีกด้วย แต่พอในช่วงสายลูกสาวและลูกรู้สึกเอะใจ จึงได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านดูจึงทราบว่าคนใช้รายนี้เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาทำการควบคุมตัวไปดำเนินคดี ทั้งที่ครั้งแรกตนเข้าใจว่าเป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจรด้วยซ้ำ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook