มติสภาฯอนุมัติคลังเพิ่มภาษีสิงห์รมควัน

มติสภาฯอนุมัติคลังเพิ่มภาษีสิงห์รมควัน

มติสภาฯอนุมัติคลังเพิ่มภาษีสิงห์รมควัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มติที่ประชุมสภาฯอนุมัติ คลังเพิ่มภาษีสิงห์รมควัน หลังฝ่ายค้านโจมตีเกาไม่ถูกที่คัน กระทบรายได้เกษตรกร กระตุ้นธุรกิจค้าบุหรี่เถื่อน

(18พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏร เป็นประธานการประชุม โดยพิจารณา พ.ร.ก.เพิ่มเติมพ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ.2509 (ฉบับที่ 2) ตามที่รัฐบาลเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขเพิ่มเติมอัตราค่าแสตมป์ยาสูบ สำหรับยาเส้นและยาสูบให้สูงขึ้นให้เหมาะสมกับสภาวะการณ์เศรษฐกิจ ขณะที่ส.ส.ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง อีกทั้งยังจะมีผลกระทบต่อเกษตกรผู้ปลูกยาสูบ และเพิ่มการลักลอบการนำเข้าบุหรี่มายิ่งขึ้น

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ทราบมาว่ามีการนำเงินจากกองทุนยาสูบประมาณ 7 พันล้านบาทมาเข้าในระบบงบประ มาณเพื่อปรับปรุงโรงงานการผลิตยาสูบ ซึ่งกองทุนนี้ควรจะเก็บเงินเอาไว้เพื่อส่งเสริมสวัสดิการของพนักงานของโรงงานยาสูบมากกว่า ขณะเดียวกันการที่นายกฯบอกว่าการเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวจะสามารถลดยอดผู้สูบบุหรี่ได้นั้นคิดว่าไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะถ้าดูจากสถิติตั้งแต่ปี 2519 ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีจำนวนผู้สูบลดลง แต่เป็นในส่วนของผู้สูงอายุ แต่ตรงกันข้ามกลับมีการเพิ่มผู้สูบหน้าใหม่ ซึ่งมีอายุ 15 ปีขึ้นไป นอกจากนี้อัตราภาษีดังกล่าวยังมีเพดานไม่เท่ากัน เพราะตอนนี้บุหรี่ที่นำเข้าประเทศไทยมีอัตรานำเข้าจำนวนในราคาที่ต่ำ ทำให้การเก็บอัตราภาษีจำเป็นต้องต่ำไปด้วย ดั้งนั้นการเพิ่มอัตราภาษีลักษณะนี้จึงไม่ช่วยให้มีผู้สูบลดงลง แต่กลับกัน ถ้าบุหรี่ยี่ห้อเดิมที่เคยสูบแล้วมีราคาแพงขึ้นก็คิดว่าผู้สูบจะเลือกไปสูบบุหรี่ที่มีอัตราต่ำกว่าแทน อยากสอบถามว่าช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาทางโรงงานยาสูบได้มีอัตราการผลิตลดลงหรือไม่หลังจากที่มีการประกาศใช้พ.ร.ก.นี้ไปแล้ว เพราะที่ผ่านมามีการเก็งกำไรของผู้ค้าส่งจำนวนมาก สร้างผลกระทบให้กับประชาชน

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พ.ร.ก.ดังกล่าวถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดพลาด วันนี้การขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นการควบคุมโรงงานยาสูบทำให้แทบจะแข่งขันไม่ได้ และบีบให้เกษตรกรเปลี่ยนอาชีพ ทำให้ต่างประเทศหัวเราะ เพราะทำให้โรงงานยาสูบอ่อนแอ และสามารถเข้าครอบงำตลาดในเมืองไทย ขณะนี้สัดส่วนของบุหรี่ต่างประเทศอยู่ในไทยไม่น้อยกว่า 20% และบุหรี่เถื่อนอีก 17% รวมเป็น 37% ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสารปรุงแต่งมากกว่าของไทยที่มีอยู่เพียง 11 ชนิด เพราะรัฐบาลไทยควบคุมได้ แต่การสูบบุหรี่ต่างประเทศจะกระทบต่อสุขภาพปอด และเสพติดง่ายกว่า จึงอยากถามว่ารัฐบาลวางมาตรการป้องกันโรงงานยาสูบ และป้องกันบุหรี่ต่างประเทศเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ดูแลเกษตรกรอย่างไร นอกจากนี้การขึ้นราคาบุหรี่ทำให้ยาเสพติดชนิดอื่นเพิ่มขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสมาชิกอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมได้มีมติ อนุมัติ ด้วยคะแนนเสียง 245 เสียง ไม่เห็นด้วย 33 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง และไม่ลงคะแนน 13 เสียง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook