รวบโจรบุกจี้ "ร้านสะดวกซื้อ" สารภาพนำเงินไปใช้หนี้ค่ารักษาลูก
![รวบโจรบุกจี้ "ร้านสะดวกซื้อ" สารภาพนำเงินไปใช้หนี้ค่ารักษาลูก](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1508/7541066/4.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
วันที่ 13 ต.ค. 2561 เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พ.ต.ท.ภูเบศ แสงอร่าม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์
นำตัวนายสุพิน หรือโจ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาสะเดียง มาแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พร้อมของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีดำ ทะเบียน 1กง-5146 กาญจนบุรี มีดสั้นปลายแหลม เสื้อผ้าและรองเท้า หมวกกันน็อคที่ใส่ และเงินสด 5,510 บาท
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2561 มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดเข้าไปจี้เอาเงินจากพนักงานภายในห้างโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาสะเดียง ได้เงินสดไปจำนวน 21,600 บาท จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไป
พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุพิน หรือโจ เป็นลูกจ้างของร้านทำกระจกแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์
จึงได้ติดตามจับกุมแต่ไม่พบ ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปหาภรรยาที่จังหวัดหนองคาย และหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย จึงขออำนาจศาลออกหมายจับและสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด
จากการสอบสวนนายสุพิน หรือโจ ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพเป็นลูกจ้างที่ร้านกระจกในตัวเมืองเพชรบูรณ์ สาเหตุที่ต้องก่อเหตุในครั้งนี้เนื่องจาก ได้ยืมเงินจากคนที่รู้จักกันจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลลูกที่ป่วย
ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าของเงินได้ทวงถามตนหลายครั้งแต่ตนไม่มีเงินให้ กระทั่งวันก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาทวงอีกและยื่นคำขาด แต่ตนไม่มีจึงเกิดความเครียดและตัดสินใจนำมีดทำครัวปลายแหลม
จากนั้นได้ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนขี่มาจอดไว้ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 50 เมตร และเดินมานั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ ห้างฯ จนกระทั่งสบโอกาสไม่มีลูกค้าในห้าง จึงเดินเข้าไปใช้มีดจี้บังคับให้พนักงานเอาเงินมาให้ และวิ่งหลบหนีไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดซุ่มเอาไว้
จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์ไปคืนเพื่อน พร้อมทั้งนำเงินไปใช้หนี้และนำไปให้ลูกส่วนหนึ่ง จากนั้นได้นั่งรถประจำทางหลบหนีไปยังจังหวัดหนองคาย เพื่อไปหาภรรยาคนใหม่ กระทั่งมาถูกจับดังกล่าว
สำหรับนายสุพิน หรือโจ เมื่อหลายปีก่อน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติด ศาลสั่งจำคุกและพ้นโทษออกมาประมาณปี 2555 จากนั้นได้ไปรับจ้างทำงานอยู่ต่างจังหวัด และกลับมาทำงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพียงไม่กี่เดือนก็มาก่อเหตุและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้
เจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมแจ้งข้อหากระทำความผิดฐาน "ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้า หรือกระทำด้วยประการใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และข้อหาพาอาวุธไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร"