รวบโจรบุกจี้ "ร้านสะดวกซื้อ" สารภาพนำเงินไปใช้หนี้ค่ารักษาลูก

รวบโจรบุกจี้ "ร้านสะดวกซื้อ" สารภาพนำเงินไปใช้หนี้ค่ารักษาลูก

รวบโจรบุกจี้ "ร้านสะดวกซื้อ" สารภาพนำเงินไปใช้หนี้ค่ารักษาลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 13 ต.ค. 2561 เวลา 11.00 น. พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พ.ต.ท.ภูเบศ แสงอร่าม รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเพชรบูรณ์

นำตัวนายสุพิน หรือโจ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาสะเดียง มาแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

พร้อมของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีดำ ทะเบียน 1กง-5146 กาญจนบุรี มีดสั้นปลายแหลม เสื้อผ้าและรองเท้า หมวกกันน็อคที่ใส่ และเงินสด 5,510 บาท

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม 2561 มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดเข้าไปจี้เอาเงินจากพนักงานภายในห้างโลตัสเอ็กซ์เพรส สาขาสะเดียง ได้เงินสดไปจำนวน 21,600 บาท จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไป

พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จนกระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุพิน หรือโจ เป็นลูกจ้างของร้านทำกระจกแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์

จึงได้ติดตามจับกุมแต่ไม่พบ ต่อมาจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปหาภรรยาที่จังหวัดหนองคาย และหลบซ่อนตัวอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองคาย จึงขออำนาจศาลออกหมายจับและสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด

จากการสอบสวนนายสุพิน หรือโจ ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพเป็นลูกจ้างที่ร้านกระจกในตัวเมืองเพชรบูรณ์ สาเหตุที่ต้องก่อเหตุในครั้งนี้เนื่องจาก ได้ยืมเงินจากคนที่รู้จักกันจำนวนหนึ่ง เพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลลูกที่ป่วย

ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าของเงินได้ทวงถามตนหลายครั้งแต่ตนไม่มีเงินให้ กระทั่งวันก่อนเกิดเหตุได้โทรศัพท์มาทวงอีกและยื่นคำขาด แต่ตนไม่มีจึงเกิดความเครียดและตัดสินใจนำมีดทำครัวปลายแหลม

จากนั้นได้ยืมรถจักรยานยนต์ของเพื่อนขี่มาจอดไว้ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 50 เมตร และเดินมานั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างๆ ห้างฯ จนกระทั่งสบโอกาสไม่มีลูกค้าในห้าง จึงเดินเข้าไปใช้มีดจี้บังคับให้พนักงานเอาเงินมาให้ และวิ่งหลบหนีไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดซุ่มเอาไว้

จากนั้นได้นำรถจักรยานยนต์ไปคืนเพื่อน พร้อมทั้งนำเงินไปใช้หนี้และนำไปให้ลูกส่วนหนึ่ง จากนั้นได้นั่งรถประจำทางหลบหนีไปยังจังหวัดหนองคาย เพื่อไปหาภรรยาคนใหม่ กระทั่งมาถูกจับดังกล่าว

สำหรับนายสุพิน หรือโจ เมื่อหลายปีก่อน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติด ศาลสั่งจำคุกและพ้นโทษออกมาประมาณปี 2555 จากนั้นได้ไปรับจ้างทำงานอยู่ต่างจังหวัด และกลับมาทำงานที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพียงไม่กี่เดือนก็มาก่อเหตุและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้

เจ้าหน้าที่จับกุมพร้อมแจ้งข้อหากระทำความผิดฐาน "ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ โดยมอมหน้า หรือกระทำด้วยประการใดเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และข้อหาพาอาวุธไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook