แม่ช้ำไปทั้งตัว ใช้ร่างบังลูกน้อย เผชิญหน้าพายุลูกเห็บพัดทะลุเข้ารถ

ออสเตรเลียเผชิญหน้ากับสภาพอากาศแปรปรวน คุณแม่ลูกอ่อนใช้ร่างตัวเองปกป้องลูกน้อยสุดชีวิต หลังพายุลูกเห็บซัดกระหน่ำทะลุเข้ารถตัวเอง ร่างบอบช้ำไปทั้งตัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนทางซีกโลกตอนใต้ทำให้เกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงแบบไม่คาดคิดขึ้น โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลียที่กำลังย่างเข้าสู่ฤดูร้อนช่วงปลายปี ระยะนี้จึงเกิดพายุฝนฟ้าคะนองขึ้นหลายแห่ง และทำให้ลูกแม่คู่หนึ่งเกือบจะไม่รอดจากพายุฝนลูกเห็บโหมกระหน่ำ

สภาพร่างกายของ "ฟิโอนา ซิมป์สัน" คุณแม่ยังสาวชาวรัฐควีนส์แลนด์ ต้องบอบช้ำไปทั้งตัว หลังจากที่เธอใช้ร่างตัวเองบดบังและป้องกันลูกน้อยวัย 4 เดือน จากพายุฝนลูกเห็บพัดกระหน่ำเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ระหว่างที่เธอกำลังขับรถอยู่บนถนน และเผชิญหน้ากับพายุฝนลมแรง ก่อนจะมีลูกเห็บซัดใส่รถของเธอ ทำให้กระจกแตกทั้งคัน

คุณแม่ฟิโอนา เปิดเผยว่า เธอได้ขับรถออกมาจากบ้าน พร้อมกับคุณยายและลูกตัวน้อยของเธอ แต่สถานการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้น เพราะพายุฝนฟ้าคะนองแปรเปลี่ยนเป็นหายนะ เพราะกระแสลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ฝนจะตกกระหน่ำ เพียงไม่กี่นาทีต่อมา เธอได้ยินเสียงดังเปรี้ยงมาจากรอบทิศทาง

"มันเริ่มจากฝนตกลงมาอย่างหนัก หลังจากนั้นกระจกรถด้านหลังก็แตกออก โดยที่ลูกสาวของฉันอยู่บนแบ็คซีทด้านหลัง ก่อนจะพายุลูกเห็บจะเริ่มตามมาเป็นระลอกต่อมา"

ด้วยสัญชาตญาณของแม่ ฟิโอนารีบโผตัวไปที่เบาะหลังรถ ก่อนจะใช้ร่างตัวเองป้องกันไม่ให้ลูกสาวตัวน้อยบาดเจ็บจากพายุลุกเห็บ เด็กน้อยไร้เดียงสาได้แต่ร้องไห้ตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนที่กระจกรถรอบคันจะแตกเพราะโดนพายุลูกเห็บ

เมื่อกระแสลมพายุฝนพัดผ่านไป เธอจึงตั้งสติและขับรถเข้าไปยังบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอกับครอบครัวถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อตรวจสอบร่องรอยตามร่างกายก็พบว่ามีรอยช้ำและแผลถลอกอยู่หลายแห่ง
แม้เรื่องราวของเธอจะถูกเผยแพร่ออกไปในฐานะฮีโร่ที่ปกป้องลูก แต่เธอกล่าวทิ้งท้ายว่า "ฉันไม่ได้เป็นฮีโร่อะไรเลย ก็เป็นแค่แม่คนหนึ่ง เป็นคุณก็ต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องลูก แม้จะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม แต่ฉันก็ยอมทำเพื่อปกป้องลูก"