ชีวิตสำคัญกว่า "คุณหมอคนสวย" ยอมทิ้งธุระ โดดขึ้นรถกระบะทำคลอดฉุกเฉิน

(14 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ด.ต.วิเชษฐ์ ฑีฆายุทธสกุล เจ้าหน้าที่วิทยุ สน.ดอนเมือง รับแจ้งมีหญิงใกล้คลอดบนรถกระบะ ด้านหน้าเสาธงของ สน.ดอนเมือง จึงรุดตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถกู้ชีพคุ้มเกล้า รพ.ภูมิพลอดุลยเดช มาให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บต 8060 หนองบัวลำภู จอดอยู่หน้าเสาธงด้านใน สน. บนหลังกระบะพบ น.ส.ปริญญา อายุ 19 ปี นั่งอยู่ในกระบะ มีน้ำคร่ำไหลออกมานองพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ดอนเมือง จึงทำการปิดการจราจรไม่ให้รถเข้ามาด้านใน สน. และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับรถพยาบาล ขณะเดียวกัน มีหญิงสาวผมยาววิ่งเข้ามา พร้อมขอถุงมือยางกับเจ้าหน้าที่ โดยระบุว่าเป็นแพทย์ เจ้าหน้าที่จึงยอมให้เข้ามาช่วยเหลือ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ทำคลอดได้สำเร็จ เป็นทารกเพศชาย ก่อนจะทำการส่งมอบต่อให้รถกู้ชีพภูมิพล ดำเนินการนำ น.ส.ปริญญา และเด็กทารกส่ง รพ.ภูมิพล

จากการสอบถาม น.ส.ปริญญา ทราบว่า ก่อนหน้าเมื่อช่วงเที่ยง ตนไปพบแพทย์เนื่องจากครบกำหนดคลอด แต่ทางแพทย์ได้ทำการตรวจแล้วแจ้งกับตนว่าปากมดลูกยังไม่เปิด ให้ตนกลับบ้านมาก่อน แต่กลับถึงบ้านได้ไม่ถึงชั่วโมง ตนปวดท้องจะคลอด ญาติเลยนำขึ้นรถ จะไป รพ.ภูมิพล แต่ไม่ทันไปถึงก็คลอดออกมาเสียก่อน ซึ่งท้องนี้เป็นท้องที่สอง

สำหรับหญิงสาวที่เข้าให้การช่วยเหลือทำคลอดในครั้งนี้เป็นแพทย์สูตินรีเวชของโรงพยาบาลบีแคร์ ทราบชื่อคือ พญ.ปรียทัศน์ เจริญช่าง หรือ หมอปุ๊ก

BCare MedicalCenter

พญ.ปรียทัศน์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังจะไปทำธุระ โดยระหว่างที่ตนกำลังขับรถผ่านหน้า สน.ดอนเมือง พบเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปิดหน้า สน.ไม่ให้รถเข้า และสังเกตมีคนมุงดูที่ด้านหลังรถกระบะ ตนจึงชะลอรถ และสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตนคิดว่าถ้ามีเหตุฉุกเฉิน ตนน่าจะช่วยอะไรได้บ้าง เจ้าหน้าที่ได้บอกกับตนว่ามีคนใกล้คลอดอยู่บนรถ กำลังรอหน่วยกู้ชีพ ตนจึงแจ้งกลับไปว่าตนเป็นแพทย์สูตินรีเวช ขอเข้าไปช่วยจากนั้นตนจึงรีบขอถุงมือจากกู้ภัย และกระโดดขึ้นไปบนรถเพื่อเข้าช่วยเหลือทันที

แพทย์สูตินรีเวชใจบุญ กล่าวด้วยว่า ตอนที่เข้าไปดูคนไข้ พบว่าขณะนั้น ทารกได้คลอดออกมาแล้ว แต่รกยังติดอยู่กับแม่เด็ก ตนจึงต้องรีบให้การช่วยเหลือนำรกออกมา เพราะหากปล่อยไว้ คุณแม่อาจเกิดอาการตกเลือดจนเป็นอันตรายได้ ตนดีใจที่ได้ช่วยเหลือถึงจะไปทำธุระไม่ทันก็ตาม ดีใจที่ได้ทำหน้าที่ของแพทย์สูตินรีเวช

>> แม้รายได้ “หมอปุ๊ก” จะมหาศาลขนาดนี้ ก็ไม่มิอาจสู้ความสุขจากการช่วยคนได้