พระเครียดโรครุมเร้า ผูกคอดับคาต้นมะปรางหลังห้องน้ำวัด

วันที่ 14 ตุลาคม 61 เมื่อเวลา 06.40 น. ร.ต.อ.มานัส สุระจิต รอง สว. (สอบสวน) สภ.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจาก เจ้าอาวาสวัดวังกะพี้ ว่า มีพระลูกวัดผูกคอเสียชีวิตหลังห้องน้ำ

จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกู้ภัยอุตรดิตถ์ (มอส) และสมาคมกู้ภัยวัดวังโปร่ง แพทย์เวร รพ.อุตรดิตถ์ พญ.กนกวรรณ สินพิพัฒนฤดี

ตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บริเวณที่หลังห้องน้ำวัดวังกะพี่ หมู่ 5 ต.วังกะพี้ อ.เมือง พบศพพระบุญธรรม อายุ 59 ปี พรรษาที่ 3 สภาพศพยืนห้อยครองจีวรแบบห่มดองค์เพื่อจะออกไปบินฑบาตร ที่คอมีเชือกไนลอนผูกคอและนำเชือดังกล่าวผูกกับต้นมะปราง ข้างตัวมีเก้าอี้พาสติกสีฟ้าตั้งอยู่ข้างลำตัว

พระครูพิศาลจริยะธรรม เจ้าอาวาสวัดวังกะพี้ ปัจจุบันดำรงค์ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอเมืองกล่าวว่า ทุกๆ เช้าประมาณ เวลา 06.20 น. อาตมาจะเดินไปที่หลังห้องน้ำที่พระลูกวัดผูกคอเสียชีวิตเป็นประจำ เพราะได้ปลูกฟักทองและผลไม้นาๆ ชนิดไว้

ได้เห็นพระบุญธรรม พระลูกวัดผูกคอใต้ต้นมะปราง จึงได้เรียกให้พระประทุม พระลูกวัดอีกรูป ให้โทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมาตรวจสอบ สำหรับพระลูกวัดปีนี้ที่จำพรรษา มีทั้งหมดจำนวน 10 รูป จะมีพระที่มีอายุมากๆ กันแล้ว เรื่องทะเลาะกันไม่มีอย่างแน่นอน เพราะปกครองกันแบบญาติพี่น้อง

ส่วนทางด้าน ร.ต.อ.มานัส สุระจิต รอง สว. (สอบสวน) สภ.วังกะพี้ เจ้าของคดี กล่าว่า จากการสอบถาม นายสำราญ จุ้ยริต น้องชาย เล่าให้ฟังว่าก่อนที่จะมาผูกคอเสียชีวิตเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา บ่นว่าเครียดกับโรคประจำตัว ทั้งโรคความดันและโรคไทรอยด์

ตนจึงบอกให้พระพี่ชายไปหาหมอที่อนามัยวังกะพี้หรือไม่ก็ไปที่ รพ.อุตรดิตถ์ เพื่อไปรับยาเสีย แต่ก็มาทราบอีกทีพระพี่ชายมาคิดสั้นผูกคอเสียชีวิต หลังได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรแล้ว ไม่พบว่าตามร่างกายของพระบุญธรรมไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย

หรือบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่พบการต่อสู้แต่อย่างใด ในเบื้องต้นพบว่าขาดอากาศหายมาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 8-12 ชั่วโมง ส่วนทางญาติก็ไม่ติดใจในการผูกคอเสียชีวิตในครั้งนี้ จึงมอบศพให้กับญาติเพื่อบำเพ็ญกุศลในพิธีพระพุทธศาสนาต่อไป