พี่ชายป้องน้องสาวถูกกล่าวหา “แม่เลี้ยงใจร้าย” ผิดจริงยอมให้ประหาร ชี้เด็ก 14 ชอบโกหก
(16 ต.ค. 61) ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว นายอัครเศรษฐ์พร อายุ 47 ปี และ น.ส.นรินทร อายุ 32 ปี ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และกระทำการอันเป็นความรุนแรงในครอบครัว เนื่องจากแม่เด็กชายวัย 14 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ โดยนายอัครเศรษฐ์พร พ่อของเด็กสารภาพ ขณะที่น.ส.นรินทร แม่เลี้ยงยังให้การปฏิเสธ
>> รวบ "พ่อแท้-แม่เลี้ยง" ทำร้ายเด็กชายวัย 14 ผัวรับผิดแทนเมียอ้างแค่สั่งสอนลูก
ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านที่พ่อเด็กและแม่เลี้ยงถูกจับกุม ในพื้นที่เขตสายไหม กรุงเทพฯ โดย นายสกล พี่ชายของน.ส.นรินทร เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้ที่คอยส่งเสียค่าเรียน ดูแล ช่วยเหลือน้องสาวคนนี้มากว่า 15 ปี เนื่องจากน้องสาวสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก จึงอยู่ในโอวาทตนมาตลอด จึงรู้นิสัยใจคอกันมานาน ขอยืนยันว่าน้องสาวไม่มีพฤติกรรมรุนแรงตามที่เป็นข่าว ไม่เป็นความจริงตามที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่เลี้ยงใจยักษ์ เชื่อมั่นว่าน้องสาวไม่มีทางทำร้ายลูกเลี้ยงคนนี้อย่างแน่นอน อีกทั้งตนไว้วางใจน้องสาวคนนี้มากเพราะเป็นคนดี ให้รถไว้ใช้ ฝากให้ดูแลลูกให้ตนด้วย หากว่าน้องไม่ใช่คนดีจริง หรือหากเป็นคนรุนแรงจริง คงไม่ให้มาอยู่กับลูกตัวเอง
โดยส่วนตัว มองว่า เด็กวัย 14 รักแม่เลี้ยง และตัวน้องสาวก็รักเด็กคนนี้ ยืนยันว่าไม่มีปมขัดแย้งส่วนตัวระหว่างเด็กและแม่เลี้ยง เพียงแต่เคยรับรู้ว่า เด็กชาย 14 ปีคนนี้ ชอบโกหก ไม่มีความรับผิดชอบในตัวเอง ดูแลตัวเองไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว ใช้ชีวิตร่าเริงแจ่มใสเป็นปกติ อีกทั้งที่ผ่านมาแม่เลี้ยงดูแลเด็กชายวัย 14 ปีเป็นอย่างดี มักไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง หรือแม้แต่คุณยายของแม่เลี้ยงเสียชีวิต เด็กชายวัย 14 ขวบ ก็ไปบวชหน้าไฟให้ จึงอยากให้ลองกลับมาคิดดูว่า หากมีปัญหากันจริงคงไม่ทำอะไรหลายอย่างร่วมกัน
นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา เด็กชายวัย 14 ปีรายนี้ โดนแมลงต่อยที่หูจนเกิดอาการบวม ต้องพาเด็กไปรักษาถึงขั้นผ่าตัด อีกทั้งเด็กคนนี้ มักจะมีบาดแผลง่าย น้ำเหลืองไม่ดี กระแทกนิดหน่อยก็เขียวช้ำ จึงมั่นใจว่าน้องสาวไม่มีพฤติกรรมรุนแรง ทารุณ หรือโหดเหี้ยมตามที่เป็นข่าวแน่นอน ภายหลังจากเกิดเรื่อง พ่อและปู่ของเด็กพยายามติดต่อเข้าไปพูดคุยกับยายของเด็กแล้ว เพราะคิดว่าเป็นเรื่องของคนในครอบครัว อยากให้พูดคุยกัน แต่ไม่สามารถพูดคุยได้ จนกระทั่งเกิดกระแสข่าวออกมา
ส่วนน้องสาวและน้องเขยยืนยันว่าไม่มีการหลบหนีตามที่เป็นข่าว เนื่องจากหลังที่มีกระแสข่าวออกมาว่าเด็กหลบหนีไปหาแม่ที่ จ.ระยอง ตนและน้องสาวยังเดินทางไปกินข้าวนอกบ้านตามปกติ จนกระทั่งทราบข่าวจากการแชร์ในโลกออนไลน์ว่าเป็นแม่เลี้ยงใจร้าย น้องสาวเครียดและกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงให้พักอาศัยที่บ้านของตนไปก่อน โดยวันนี้ตั้งใจที่จะมอบอำนาจให้แก่ทนายความเดินทางไปติดตามคดีที่ สภ.คลองหลวง แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมตัวน้องสาวตามหมายจับเสียก่อน ซึ่งขณะเข้ามาจับกุมก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะสู้คดีเพื่อความยุติธรรมให้ถึงที่สุด เพราะส่วนตัวมั่นใจว่าน้องสาวตนไม่ผิด และท้าว่าถ้าพิสูจน์มีหลักฐานว่าผิดจริง พร้อมตัดหางปล่อยวัดทันที ประหารชีวิตได้เลย เพราะตนชอบความถูกต้อง ตรงไปตรงมา