"กีต้าร์ ศิริพิชญ์" โกรธจัด ลูกชายขึ้นเครื่องกลับ กทม. ไม่ได้ เพราะไม่มีสูติบัตรตัวจริง

กีต้าร์-ศิริพิชญ์ วิมลโนช อดีตนักแสดงวัย 42 ปี ที่ตอนนี้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับละคร ได้โพสต์ข้อความยาวเหยียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ สนามบินภูเก็ต เมื่อลูกชายคนเล็กไม่สามารถขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพได้ เพราะไม่มีใบสูติบัตรตัวจริง

ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้โพสต์คลิปลูกชายที่กำลังร้องไห้ลงในอินสตาแกรม พร้อมกับข้อความประกอบว่า “สงสารลูกจับใจ”  ทั้งยังมีภาพข้อความที่แสดงออกถึงอารมณ์โมโห พร้อมข้อความบรรยายว่า “ไม่เคยโกรธขนาดนี้ ไม่เคยเขียนขนาดนี้ นี่คือ ครั้งเเรกในชีวิต!”

IG guitar_siripichข้อความจาก กีต้าร์
โดยเธอได้เขียนอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ ลงในเฟซบุ๊ก Siripich Vimolnoch ว่า...

สายการบินหนึ่ง...
ปกติเเล้ว ในชีวิตจะเป็นคนไม่วีน ไม่เหวี่ยงใครใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าคนสนิทต้าจริงๆ จะรู้ ต้าจะเป็นคนที่.. ช่างมันเถอะ เดี๋ยวก็ผ่านไป พนักงานทำอะไร ไปที่ไหนจะพูดดีๆ กับเขาเสมอ เพราะรู้ว่าเขาทำงานเหนื่อย เเละที่สำคัญเราเป็นที่รู้จักของทุกคน ไม่ควรทำอะไรที่เขาจะเอาเราไปว่าลับหลังได้
เเต่วันนี้! มันสุดจะทน ในชีวิตไม่เคยโมโหใครขนาดนี้ ยิ่งหันไปเห็นลูกร้องไห้ยิ่งรู้สึกเเย่มากๆ ต้าไปเช็คอินที่สายการบินหนึ่งในภูเก็ตค่ะ ไปถึงก็ยื่นเอกสารทั้งครอบครัวให้ สักพักพนักงานก็บอกว่า ของน้องผู้ชายมีสูติบัตรตัวจริงมาไหมคะ เราก็บอกว่า ไม่มีค่ะ พอดีเอาตัว copy มาเพราะปกติบางครั้งใช้ตัว copy เเละต้ากลัวเอกสารตัวจริงหาย เพราะถ้าสูติบัตรหายจะยุ่งมากๆ เพราะน้องยังเป็นเด็ก ต้องหยุดเรียนไปทำ พ่อเเม่ต้องไปครบ เลยเก็บไว้ เเละตัวจริงก็เปื่อยมากๆ เพราะใช้มาเกือบ 6 ปีเเล้ว ถ้าขาดจะยุ่งมากเลยบอกพนักงานไปว่า รบกวนหน่อยได้ไหมคะ นี่ยืนยันเลยค่ะว่า คุณพ่อ คุณเเม่เเละพี่สาวตัวจริง เเละยื่นหน้าพาสปอร์ตของทุกคนในครอบครัวในโทรศัพท์ให้พนักงานดูว่าเป็นตัวจริงของเติมเต็ม รบกวนหน่อยได้ไหมคะ ตอนนี้พี่มีเเต่ตัว copy พนักงานบอกว่า ไม่ได้ค่ะ กฎเพิ่งออกมาเมื่อเดือนที่เเล้วว่าตัองใช้เอกสารตัวจริงเท่านั้น ทางเราไม่อนุญาตให้น้องขึ้นเครื่องได้!
น้องคะ เเล้วพี่จะทำยังไง
พนักงานเเจ้งว่า เราเเจ้งไปทางเวปไซต์เเล้วค่ะว่าต้องใช้ตัวจริง.. ยังไงน้องก็ขึ้นเครื่องกลับไม่ได้!
อ้าว! เลยถามพนักงานกลับไปว่า
1. ถ้าเป็นคนที่บ้านเขาไม่มีคอม เช็คเว็บไซต์ไม่ได้ ซื้อตั๋วจากร้านทั่วไป เขาจะทราบได้อย่างไรคะ ว่ากฎเพิ่งออก
2. ตอนนี้อยู่ภูเก็ต พี่จะเอาตัวจริงมาให้น้องได้อย่างไร คือพี่ต้องบินกลับกรุงเทพเพื่อไปเอาสูติบัตรตัวจริงมาให้เหรอคะ พนักงานก็ยืนยันต่อว่า ใช่ เเละยังคงไม่ให้ขึ้นเครื่อง
3. ถ้าต้องให้คนที่บ้านซื้อตั๋วเครื่องบินมา เพื่อเอาสูติบัตรมาให้ พี่เก็บเอกสารไว้ในตู้ กุญเเจอยู่ที่พี่ เเล้วอย่างนี้จะทำอย่างไร
4. สำคัญสุด * สมมติว่าพี่บินมากับลูก 2 คน น้องให้พี่เอาสูติบัตรตัวจริงมายืนยันเเสดงว่าพี่ต้องบินกลับไปกรุงเทพ เอาสูติบัตรตัวจริงมาให้น้อง ลูกพี่ 6 ขวบ จะอยู่กับใคร ใครจะดูเเล
5. น้องที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ถ้าเกิดเเบบนี้กับหนู หนูไม่มีเงินซื้อตั๋วใหม่เพื่อกลับไปเอาเอกสาร เเล้วอย่างนี้ หนูจะทำยังไง จะพาลูกกลับบ้านยังไง!
กรณีนี้
พนักงานอาจจะเเจ้งว่า ครั้งนี้อนุญาตให้น้องขึ้นเครื่องได้ เเต่ครั้งหน้ารบกวนคุณเเม่ เตรียมเอกสารตัวจริงมาด้วยนะคะ
หรือ ให้ไปที่ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยันว่าเอกสารนี้พ่อเเม่รับรองว่า สำเนาถูกต้อง เเล้วเมื่อถึงกรุงเทพ ให้เอาสูติบัตรตัวจริงมาเเสดง เเต่! พนักงานไม่เเจ้งอะไรเลย เเจ้งเเค่เพียงว่า ต้องมีสูติบัตรตัวจริงเท่านั้น น้องถึงจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพได้ หรือ คุณเอาเงินคืนไป ในใจคงคิดว่าจะกลับอย่างไร ก็ช่างคุณ!
เด็ก ร้องไห้หนักเเค่ไหนก็ช่าง พวกคุณไปเเก้ปัญหาเอาเอง!
ต้าไม่ได้ต้องการจะทำผิดกฎนะคะ พนักงานควรเเนะนำเเก้ไขปัญหา ไม่ใช่ว่า เเค่คืนเงินเเล้ว คุณก็ไปหาทางออกเอาเอง
เขียนไว้เป็นอุทาหรณ์

งานนี้มีคอมเมนต์เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย บางส่วนมีความคิดเห็นว่าทางสายการบินควรมีวิธีแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ บ้างก็แสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยมองว่าพนักงานทำถูกต้องตามกฎของสายการบินแล้ว