หนุ่มง้อเมียไม่สำเร็จ แทงฝ่ายหญิงดับ รวบแม่ผัวขนศพขึ้นรถก่อนทิ้งไว้หน้าคลินิก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (16 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากพยาบาลมิตรไมตรีคลินิกเวชกรรม สาขาคลองสี่ลำลูกกา หมู่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่ามีคนนำผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทงจะมารักษาที่คลีนิก แต่เสียชีวิตระหว่างนำส่งขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌล-8843 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมทาง ที่กระบะท้าย พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.วราภรณ์ หรือ ใหม่ อายุ 29 ปี สภาพนอนนอนหงาย สวมกางเกงขาสั้น ลายสก็อต สวมเสื้อยืดสีขาว จากการชันสูตรเบื้องต้นพบมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ ใต้ราวนมซ้าย 1 แผลเป็นเหตุให้เสียชีวิต
สอบสวนเบื้องต้นพยาบาลที่คลินิก ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ มีหญิงสูงวัยคนขับรถกระบะคันดังกล่าวมาจอดที่ด้านหน้า ก่อนจะมีหญิงสาวอีกคนวิ่งเข้ามาที่คลีนิกบอกว่าช่วยไปห้ามเลือดให้หน่อย มีคนถูกรถชนมา ทางพยาบาลจึงวิ่งออกไปช่วยกัน แต่เมื่อไปถึงพบว่ามีบาดแผลถูกแทงจึงแนะนำให้ไปส่งที่รพ.
ขณะเดียวกันได้มีชาย 1 คนขี่จยย.มาจอดบริเวณท้ายรถกระบะคันเกิดเหตุ ก่อนจะสนทนากันกับคนที่ขับรถยนต์กระบะมาครู่ใหญ่ ก่อนที่ทั้งหมดจะหายไปแล้วเหลือไว้เพียงแต่ศพที่ท้ายรถยนต์กระบะจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.คูคต เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนสามารถควบคุมตัว นางลำเพย อายุ 51 ปี แม่ของสามีผู้ตายไว้ได้ 1 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบถามในเบื้องต้นแล้วยังให้การวกวน
กระทั่งทราบว่าเหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 5 ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านของเพื่อนผู้เสียชีวิตที่มีความสนิทคุ้นเคย และผู้เสียชีวิตได้หนี นายทรงสิทธิ์ หรือ ป๊อก อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นสามีมาอาศัยอยู่กับเพื่อนเป็นเวลา 4 วันแล้ว เพราะทะเลาะกันเกรงว่าสามีจะทำร้าย
จากการสอบสวนพยาน ทราบว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา นายทรงสิทธิ์ หรือ ป๊อก ได้ตามหาจนพบ น.ส.วราภรณ์ หรือ ใหม่ ภรรยาอยู่ภายในบ้านดังกล่าวกระทั่งเกิดมีปากเสียกัน ก่อนที่นายทรงสิทธิ์ หรือป๊อก จะใช้มีดแทงผู้ตายภายในห้องนอน ก่อนจะวิ่งออกมาขี่รถจยย.ของผู้ตายหลบหนีไป
ส่วนรถยนต์กระบะและศพมาอยู่บนรถกระบะได้อย่างไรนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งสอบปากคำแม่ของนายทรงสิทธิ์ หรือ ป๊อก อย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี รวมทั้งให้อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ภูมิพลอดุลยเดช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป