ไม่ตรงปก! สั่ง “กรรเชียงปู” ได้ “ปูนึ่ง” ขาลีบแพงยับ-เจ้าของร้านลั่นไม่ขายเมนูนี้แล้ว

( 16 ต.ค. 61 )  ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองหัวหิน นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังมีผู้บริโภคโพสต์ภาพและข้อความลงในสื่อออนไลน์ เพื่อขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้าตรวจสอบร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังของหัวหิน หลังสั่ง “กรรเชียงปู” แต่กลับได้ปูตัวเล็กหันครึ่งมาจำนวน 6 ชิ้น ในราคา 650 บาท

โดยหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปถูกแชร์และวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์กันอย่างหนัก โดยต่างระบุว่า ราคาแพงเกินความเป็นจริง ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

โดยที่ประชุม ( 16 ต.ค. )  มี นายประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นางสาวไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน , นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมด้วย ทหารชุดรักษาความสงบที่ 2 พื้นที่หัวหิน , กอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค จ.ประจวบคีรีขันธ์ , ตำรวจ ตม. ,ตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน , ตำรวจ สภ.หัวหิน , ปลัดอำเภอหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยที่ประชุมใช้เวลาประชุมนานประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถสรุปข้อมูลพร้อมวางแผนระยะยาวในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยร้านอาหารซีฟู้ดชื่อดังที่ถูกกล่าวถึงในโพสต์ดังกล่าว คือ “ร้านไข่มุกซีฟู้ด 2”  ริมถนนเพชรเกษม เขตเทศบาลเมืองหัวหิน

เบื้องต้นพบว่า ร้านอาหารดังกล่าวมีการปิดป้ายแสดงราคาปรับใหม่ จากเดิม ราคา 450 บาท เป็น 650 บาท ในช่วงวันหยุดเทศกาลที่ผ่านมา เนื่องจากทางร้านแจ้งว่าวัตถุดิบที่ซื้อต่อมามีราคาสูงจึงจำเป็นต้องขยับราคาตาม ส่วนจะแพงเกินจริงหรือไม่นั้นจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง

ส่วนกรณีที่พบว่า ลูกค้าสั่งกรรเชียงปูแต่ลูกค้ากลับได้รับเป็นปูขนาดเล็กผ่าครึ่งซีกนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง ทั้งนี้ที่ประชุมสรุปเบื้องต้นว่า จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อเตรียมออกคำสั่งควบคุมร้านอาหารทุกร้านในพื้นที่ อ.หัวหิน ให้ปฏิบัติตามระเบียบที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

โดยจะใช้กรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นตัวอย่างและจะทำให้เป็นเคสสุดท้ายไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาได้อีก จากนั้นคณะฯ ได้เดินทางลงพื้นที่ “ร้านไข่มุกซีฟู้ด 2”  เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ร้านอย่างละเอียด โดยทางร้านได้จัดเมนูกรรเชียงปูที่เป็นข่าวมาให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบด้วย

นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังตรวจร้านอาหารซีฟู้ดแล้วว่า หลังเกิดปัญหาขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายทางตนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลทันทีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งทางจังหวัดไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีกและอยากให้เคสนี้เป็นเคสสุดท้าย

โดยวันนี้ ( 16 ต.ค. )  ได้มีการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนเพื่อออกตรวจสอบ โดยหลังจากนี้จะออกคำสั่งจังหวัดเพื่อให้ทุกร้านอาหารทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้นักท่องเที่ยว หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องขอความเป็นธรรมได้

โดยเฉพาะการรับประทานอาหารขอให้ตรวจสอบราคาให้ชัดเจน หากอาหารที่สั่งไม่ถูกต้องตามที่สั่งหรือราคาผิดปกติสามารถโต้แย้งหรือคืนสินค้าได้ ถ้าร้านไหนไม่ติดราคา ถือว่าผิดกฎหมาย โดยสามารถร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ตรวจสอบ

กรณีนี้พบว่ามีลูกค้าสั่งกรรเชียงปู แต่กลับได้อาหารเป็นปูขนาดเล็ก แต่ทางผู้บริโภคยอมรับว่าไม่ได้ดูราคา และไม่ได้ติดใจเอาความ ส่วนราคาที่ทางร้านติดราคาไว้ ราคาสูงหรือไม่นั้น จะตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ผู้บริโภครายนี้รู้สึกเสียใจเพราะเป็นคนหัวหินแต่กลับเจอเรื่องดังกล่าว

เบื้องต้นทางร้านได้ยอมรับผิดในส่วนดังกล่าว และจะดำเนินการปรับปรุงตามคำแนะนำ ส่วนกรณีเรื่องการขอใบอนุญาตที่เบื้องต้นพบว่า ร้านอาหารดังกล่าวยังไม่มีใบอนุญาต เพราะคิดว่าขออนุญาตแล้วในสาขาที่ 1 นั้น หากพบว่าไม่ถูกต้องก็จะไม่อนุญาตให้ค้าขายต่อ ประเด็นนี้จะให้ทางเทศบาลเมืองหัวหินเข้ามาตรวจสอบต่อไป

ด้าน นางสมลักษณ์ เจ้าของ “ร้านไข่มุกซีฟู้ด 2” กล่าวกับสื่อมวลชนว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แล้วบอกว่า กรรเชียงปูนั้นไม่ถูกต้อง ทางร้านก็จะแก้ไข แต่อาจจะไม่ขายเมนูดังกล่าวแล้ว จะเปลี่ยนเป็นปูนึ่งไปเลย เพื่อตัดปัญหา

ส่วนกรณีราคาอาหารแต่ละเมนูนั้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีราคาแพง ทางร้านยืนยันวันปรับเป็นบางเมนูเท่านั้น ถ้าซื้อมาแพงก็จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นตามความจริง ไม่เช่นนั้นก็ขายไม่ได้ ขาดทุน แต่ทางร้านยืนยันว่าได้ติดป้ายราคาปรับใหม่ไว้ในเมนูอาหารแล้ว และในเมนูแต่ละหน้าได้ลงรายละเอียดว่า ตรวจสอบราคาก่อนสั่งไว้ แต่ก็ยังมาเกิดเรื่องขึ้น

หลังเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นเป็นข่าวดังในโลกออนไลน์ ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่า เราไม่สามารถไปห้ามใจของคนที่แสดงความคิดเห็นในสื่อออนไลน์ได้ จะให้ไปตามแก้ทุกอย่างก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีเวลาและจะกลายเป็นว่าตนนั้นแก้ตัว

ทั้งนี้ตนเปิดขายอาหารที่ร้านสาขา 1 มานานกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนร้านสาขา 2 ก็นับ 10 ปีแล้ว ทางเราก็มั่นใจว่าได้ทำถูกต้องหมดทุกอย่าง ตนรอให้ส่วนราชการมาตรวจสอบเพื่อต้องการจะบอกความในใจ และพูดตามความเป็นจริงทุกอย่าง

ซึ่งตัวกรรเชียงปูที่ทางร้านขายไม่ตรงกับที่ลูกค้ารับประทาน ทางร้านจะแก้ไข ส่วนราคาจะถูกหรือแพงต้องขึ้นอยู่กับราคาสินค้าที่ซื้อมาเช่นกัน เมื่อชี้แจงแล้วตนก็รู้สึกสบายใจ เพราะค้าขายอยู่จึงอยากโปร่งใส

นายทวีศักดิ์ เบญจธิวัฒน์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการศูนย์ดำรงธรรม จ.ประจวบคีรีขันธ์ (สคบ.ประจวบคีรีขันธ์) กล่าวว่า เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายบนเมนูอาหารแล้วพบว่าไม่ตรงกัน ทางร้านยอมรับว่า ภาพดังกล่าว กรรเชียงปูในเมนูอาหารไม่ได้ถ่ายจากในร้าน แต่เป็นภาพที่ร้านรับทำเมนูอาหารนำมาใส่ให้

ทั้งนี้เมื่อตรวจแล้วจึงได้แนะนำให้ทางร้าน ขอให้เปลี่ยนชื่อเมนูเป็น “ปูนึ่ง” แทนการใช้ชื่อว่า “กรรเชียงปู” และติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก โดยทางร้านยินดีรับดำเนินการแก้ไข

ส่วนทางด้าน นางสาวณัฐธัญ (ขอสงวนนามสกุล) ลูกค้าที่โพสต์ภาพกรรเชียงปู ระบุว่า หลังทราบว่าหน่วยงานระดับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยอมรับว่า เสียความรู้สึกที่เจอเหตุการณ์ดังกล่าว ตนอยู่อาศัยที่หัวหินมานานกว่า 6 ปีแล้ว เข้าร้านอาหารชื่อดังมาหมด กุ้งตัวละ 2,000 บาท ก็กิน ไปกินร้านอาหารชื่อดังริมทะเล เช็คบิลจ่าย 7,000-8,000 บาท ไม่เคยมีปัญหา เพราะอาหารที่ได้มันคุ้มราคา หรือว่ามีคุณภาพ เป็นของสด ตัวใหญ่

แต่กับกรณีที่เกิดขึ้นตนมองว่าตัวเองถูกเอาเปรียบ ราคาแพงไม่ว่าแต่ของต้องมีคุณภาพ ในอดีตตนเคยทำร้านอาหาร รู้ดีว่าราคาอาหารต้นทุนซื้อราคาเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่ถูกต้อง แพงไม่ว่าแต่ของต้องมีคุณภาพ

ทั้งนี้ ตนไม่ได้ต้องหาอะไร ไม่ได้อยากได้ค่าชดเชยหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ทางร้านควรยอมรับและปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่ควรจะให้เกิดกับนักท่องเที่ยว สิ่งที่เกิดขึ้นกับตนหากมองในแง่ดี คือ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในสังคม ให้ช่วยกันตรวจสอบสิ่งที่ไม่ถูกต้องและควรแก้ไขให้ดีขึ้น