โผล่เว็บมือสอง-ล่อจับโจรสาวย่องลักตุ๊กตาราคา 20,000 บาท วงจรปิดจับชัด (คลิป)

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ต.ค. 61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้จับกุมตัว น.ส.นภัสสร อายุ 42 ปี พร้อมของกลางตุ๊กตา Bearbrick มูลค่า 20,000 บาท และรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 61 เวลาประมาณ 06.42 น. ได้มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ที่ร้าน 234 คาเฟ่แอนด์แกเลอรี่ หมู่ 3 ถนนเลียบคลองประปา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยลักตุ๊กตา Bearbrick มูลค่า 20,000 บาท ตุ๊กตาแม็กเน็ต น้ำเชื่อมไซรัป และตาชั่งกาแฟราคา 1,000 บาท โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน

กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา 06.42 น. วันที่ 12 ต.ค. 61 เป็นหญิงขับจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟีโน่ สีชมพู ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดที่ด้านหน้าร้าน จากนั้นได้หยิบถุงผ้าออกมาจากรถและเดินไปที่ด้านประตูหลังร้าน หายเข้าไปสักพักก่อนออกเดินมาที่ด้านหน้าประตูทางเข้าร้าน

กล้องตัวที่ 2 สามารถจับภาพคนร้ายได้ชัดเจนสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล สวมกางเกงยีน สะพายกระเป๋าเงิน และกระเป๋าผ้า เข้ามาเดินสำรวจภายในร้าน จนถึงหน้าตู้โชว์ตุ๊กตา และเดินเข้าไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์สำรวจห้องเก็บของ และกระเป๋าเงินของคนงานในร้าน คนร้ายได้หยิบขวดน้ำเชื่อมไซรัปไป 1 ขวด และเดินออกไปที่หน้าตู้โชว์ ลากเก้าอี้มาหยิบตุ๊กตา และตาชั่งใส่กระเป๋าออกจากร้านไป

การเข้าจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เกิดจากที่ นายนนท์ธนวรรต ณ น่าน อายุ 33 ปี เจ้าของร้านผู้ได้พบว่าเว็บขายสินค้ามือสองชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้มีบุคคลนำตุ๊กตา Bearbrick กัปตันช่างทาสีที่หายไปมาลงขายในเว็บราคา 3,000 บาท และจำได้ว่าเป็นของของตน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด และทำการล่อซื้อตุ๊กตาดังกล่าว

โดยนัดมอบสินค้าที่สถานที่จับกุม จึงได้มีการวางแผน จนนำมาซึ่งการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ พบว่าเป็นตุ๊กตาตัวเดียวกันที่ถูกลักไปเนื่องจากมีหมายเลขระบุ เบอร์ 22/30 ถูกต้อง จากการสอบสวนผู้ต้องหา อ้างว่าในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาจะเข้าไปซื้อกาแฟ แต่เมื่อสบโอกาสเห็นว่าไม่มีพนักงานอยู่จึงได้ลักทรัพย์ดังกล่าว ตนเองเคยเป็นโรคซึมเศร้าต้องรักษาตัว ต้องการเอาเงินไปใช้จ่ายและเลี้ยงดูลูก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อในคำให้การ เนื่องจากผู้ต้องหามีการเตรียมกระเป๋าเพื่อมาใส่ของกลาง โดยหลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผล เนื่องจากตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุและมีคดีติดตัวหลายคดี