"นายห้างประจักษ์" ลั่น "อาม ชุติมา" อยากอิสระจ่ายมา 2 ล้าน ค่าเยียวยาความรู้สึก
จากกรณีประเด็นดรามา อาม ชุติมา ถูกตำรวจจับไปโรงพักวังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ต.ค. ข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ จนนักร้องสาวน้ำตาแตก โดยมีผู้ใหญ่ค่ายเพลงเข้ามาเจรจากับทนาย โดยโลกโซเชียลเผยคนที่แจ้งจับที่แท้คือเจ้าของค่ายไหทองคำเรคคอร์ด ประจักษ์ เนาวรัตน์
ล่าสุด รายการโหนกระแส วันที่ 18 ต.ค. โดย อริสรา กำธรเจริญ เป็นผู้ดำเนินรายการแทน หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้สัมภาษณ์เปิดใจ นายห้างประจักษ์ชัย ถึงกรณีที่เกิดขึ้น
ข้อหาที่โดนละเมิดลิขสิทธิ์ คุณอามละเมิดลิขสิทธิ์อะไร?
ประจักษ์ชัย : "ต้องบอกก่อนว่าเป็นความลำบากใจ และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก เราเคยอยู่ด้วยกัน ด้วยความรัก ทะนุถนอมน้อง แต่ว่าระยะเวลาที่มีข่าวในรอบ 5 เดือนที่ผ่านมา ประเด็นที่เราขอไกล่เกลี่ยให้มาพูดคุย น้องมีประเด็นน้อยใจ หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผม น้องก็ขอแยกตัวเป็นอิสระ และบอกว่าตัวเองไม่มีสังกัด ตอนแรกบอกว่าไม่มีสัญญา แต่ไปๆ มาๆ ก็มีสัญญาจริง ที่ไปแจ้งจับวันนั้น มีขั้นตอนสืบเนื่องมาจากที่เราเคยเรียกมาคุยและยื่นโนติส ส่งจดหมายไปที่บ้านเกิด ประมาณ 3 ครั้ง น้องอาจให้ความสำคัญน้อยไปนิดนึง เลยไม่มีการพูคุยกัน ล่วงเลยไปเกือบ 5 เดือนหรือเราติดต่อไป น้องก็ไม่มีสัญญาณตอบรับว่าใส่ใจ ก็เลยเป็นขั้นตอนของฝ่ายกฎหมายที่เขารับงานไปแล้ว เขาก็เลยไปเชิญตัว ไม่ได้เรียกว่าจับกุม อันนี้เป็นภาษาข่าว ที่จริงรอให้น้องเล่นจนจบ แล้วเชิญตัวไปโรงพัก ไม่ได้รวบตัวโจ๋งครึ่มและน่าเกลียด ก็เชิญขึ้นรถตู้ น้องร้องไห้ไปถึงโรงพักแล้ว ก็เป็นธรรมดา นี่เป็นกฎหมายพิเศษ กฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องจับซึ่งหน้า ก็หาช่องทางไกล่เกลี่ยกัน”
อธิบายง่ายๆ ให้คนเข้าใจ?
ประจักษ์ชัย : "คนที่ไม่เข้าใจ เสพสื่อบางส่วนจะเข้าใจว่าการจับครั้งนี้เป็นผิดสัญญาลิขสิทธิ์เพลง ซึ่งไม่ใช่ ลิขสิทธิ์เพลง เราให้ใครร้อง เราประกาศว่ายินดี ให้ทุกคนร้อง น้องอามก็ต้องมีสิทธิ์ร้อง แต่เพื่อให้เกิดประเด็นว่าผมใจร้าย หรือรังแกเด็ก ถ้าจะไปตั้งประเด็นการจับลิขสิทธิ์เพลง ทางฝ่ายกฎหมายก็ต้องรัดกุม ทั้งที่เพลงนี้โอนสิทธิ์ขาดแล้ว ผมจับลิขสิทธิ์เพลงก็ได้ด้วยนะ แต่น้ำหนักมันจะล่อแหลมและละเอียดอ่อน เขาเรียกว่าลิขสิทธิ์ในตัวนักแสดง ไม่ว่าจะเป็นค่ายเพลง ค่ายมวย ประกวดนางงาม ค่ายโมเดลลิ่ง ก็จะมีสัญญาแม่ก่อน เป็นสัญญาลิขสิทธิ์ในตัวศิลปิน ถ้าจะจับก็ค่อยพ่วงไป แต่มันละเอียดอ่อนมาก ยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่ เป็นค่าย เขาเป็นเด็กผู้หญิงด้วย มันละเอียดอ่อนมาก ผมนอนอยู่ 5 เดือน ในการคิดจะทำอะไร เพราะเราสร้างมาด้วยกัน ไม่เคยลืม"
ตอนนี้อามยังเป็นเด็กในสังกัด?
ประจักษ์ชัย : "อันนี้คือน้องอามเป็นคนเซ็นคุณพ่อคุณแม่เป็นคนเซ็น ตอนนั้นน้องอายุ 17 ปี เป็นผู้เยาว์ ต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่ตรงนี้"
ก็ยังเหลืออีก 2 ปี 7 เดือน ตอนเซ็นสัญญาคุณแม่อ่านมั้ย?
ประจักษ์ชัย : "อ่านด้วยกันครับ จะมาบ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้อ่าน ด้วยสำนึกของคน อยู่ 2 ปี มีสัญญาคู่ฉบับนะครับ วันดีคืนดีบอกว่าไม่ได้อ่าน แล้วอ่านเฉพาะที่ตัวเองเสียเปรียบแล้วมาแย้งไม่ได้ สังคมไทยจะบอกว่าไม่รู้กฎหมายแล้วมาแย้งไม่ได้ ยิ่งบอกว่าอาจารย์ไม่ให้อ่าน มันยิ่งต้องอ่าน ไม่ได้บอกเลยว่าไม่ให้อ่าน การพูดว่าไม่เป็นธรรม โดนรังแก มันพูดได้หมด แต่คุณมีหลักฐานการจ่ายเงิน เบิกเงินตรงไหน ก็รู้กันแค่เราสองคน ทุกวันนี้เราไปศาลก็พูดด้วยเอกสาร เราไม่ได้รังแกเด็ก เราสร้างบรรทัดฐานให้ค่ายเพลงหลายค่าย ว่าไหทองคำ จะทำเคสนี้ให้เป็นกรณีศึกษายังไง ในยุคที่โซเชียลกำลังเบ่งบานแล้ว ศิลปินค่ายอื่นที่เคยอยากออกจากค่าย แล้วมีแบบนี้ เขารอเวลาให้ผ่านไป กับระยะเวลาที่เหลืออยู่ แต่ไม่ได้ใช้ฐานผู้ติดตามหรือสับสไคร์ มาเป็นแนวร่วม เขาเรียกว่าม็อบชนม็อบ แล้วเอามวลชนมาสู้กับสัญญา อย่างนี้คนก็ไม่มีกติกาสิครับ"
จะสร้างบรรทัดฐานค่ายไหทองคำ?
ประจักษ์ชัย : "ทุกค่ายครับ ไม่งั้นอยู่ๆ มาแหกสัญญา ฉีกสัญญา ตอนไม่ดังยอมอยู่ในกติกา คาแรคเตอร์ที่เราเลือกให้ทำ แต่พอเห็นกระแสอะไรเข้ามา ความมั่นใจเกิดขึ้น ก็มาขอฉีกสัญญา ฉีกสัญญาต้องฉีกทั้งสองฝ่าย เรื่องชดใช้ค่าเสียหายก็มาต่อรองกัน มันต้องพูดคุยกัน จบที่โต๊ะเจรจา แต่น้องไม่มี เราสื่อสารทุกช่องทาง หรือสุดท้ายใช้หมายศาล หรือโนติส"
จุดแตกหักคืออะไร?
ประจักษ์ชัย : "ก็รอแล้วรอเล่า น้องก็โพสต์ว่าทำไมไม่ปล่อยให้น้องไปทำมาหากิน เป็นผู้หญิง ผมก็จะบอกว่าก็ให้ทำมาหากินไงครับ แต่มาหากินด้วยกัน มาอยู่ในระบบ ผมเป็นคนสร้าง ผมทำธุรกิจค่ายเพลง กว่าจะสร้างมาได้สักหนึ่งคน คาแรคเตอร์ เสื้อผ้า ชุด เพลง การทำพีอาร์ โปรโมต ให้เขาดัง คือใคร ต้องมาคุยกัน"
เพราะระบบไม่เป็นธรรมหรือเปล่า เขาเลยไม่อยากอยู่?
ประจักษ์ชัย : "คนเราถ้าตอนแรกรักกันปานจะกลืน วันนึงบอกว่าไม่เป็นธรรม เป็นเรื่องของคนสองคน คุณก็ต้องชัดเจนว่าไม่เป็นธรรมตรงไหนบ้าง นี่คุณไปอ้างกระต่ายขาเดียว ทำให้ผมเป็นโจรในสังคม ผมก็ต้องนำสืบว่าผมใจร้ายตรงไหน ตอนที่คุณมาตอนแรก คุณมาจากศูนย์ ค่าน้ำมันรถไปยืนคนในหมู่บ้าน ยังไม่มีใครให้ยืม ผมต้องโอนเงินให้ 2 พันบาท เพื่อมาลงรถที่รังสิต ฟิวเจอร์ แล้วนั่งแท็กซี่มาก่อน แล้วพอวันหนึ่งมีชื่อเสียงขึ้นมา บอกว่าผมเอาเปรียบ ผมบอกได้เลยว่าผมทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมทุกคนที่มาอยู่กับผม อาจไม่ได้ดังทุกคน แต่ดีขึ้นกว่าเดิมทุกคน แต่พอดัง มันไม่ยุติธรรม"
คำพูดแบบนี้ คนจะมองว่าอาจารย์ทวงบุญคุณเด็ก?
ประจักษ์ชัย : "ก็เป็นธรรมชาติ ไม่งั้นน้องเอาสับสไคร์มาด่าผมว่าผมเอาเปรียบ คนที่ตาม อาม ชุติมา ตามใน 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ตามโปรไฟล์มาตั้งแต่แรก ว่าน้องมีต้นทุนยังไง"
น้องโพสต์บอกว่าว่าเราเป็นเด็กเลี้ยงแกะ แล้วคุณแก่จะตายแล้วเลี้ยงอะไร?
ประจักษ์ชัย : "อันนี้อาจเป็นเพื่อนผม น้องตั้งใจมาเคลียร์ที่บริษัท มีการปักหมุดว่าพรุ่งนี้จะได้มา ซึ่งคือเมื่อวาน จะมาเคลียร์ ที่จริงเขาต้องมา พอถึงตอนเช้าก็ปักหมุดที่สนามบินหนึ่ง แต่เขาบอกว่าซื้อตั๋วได้แค่ 2 ใบ อีก 3 คนไม่ได้มา สุดท้ายก็ยังไม่มา นี่ก็ตกลงกันว่าจะมาเคลียร์กันวันที่ 20 แต่น้องไปโพสต์บอกว่าจะมาวันที่ 22 ซึ่งก็ไหลไปเรื่อย เราถึงต้องมา เพื่อชี้แจงให้เห็นความจริง"
นี่คือโมโหขั้นสุด?
ประจักษ์ชัย : "ไม่ได้โมโห ที่จริงต้องเคลียร์เรื่องความแค้นส่วนตัว เรื่องโกรธไม่มี สังคมเฝ้ามองว่าเคสนี้จะจบยังไง ผมไม่ได้เป็นค่ายยักษ์ใหญ่ หรือโด่งดังระดับประเทศ แต่ภายใต้สัญญาก็ต้องมีกติกา สังคมเฝ้ามองอยู่ ถ้าน้องไปรับงานเอง ไม่รับงานค่าย อย่างมีงานค้าง ก.พ.-มี.ค. รับไว้ก้อนมีเรื่อง ถ้าน้องไม่รับงานตรงนั้น ผมก็ถูกฟ้องร้องเป็น 10-20 เท่าจากเจ้าภาพ ผมก็หาจังหวะมาพูดคุยจะเดินกับเรายังไง หรือน้องอยากได้สัญญาคืน มันมีค่าใช้จ่าย มีต้นทุนในการสร้าง ก็แค่มาคุย แต่แค่ 5 เดือนไม่มีการพูดคุย"
มีไปรับงานแล้วน้องไม่ไปเล่น?
ประจักษ์ชัย : "ก่อนหน้ามีปัญหา น้องไม่ไปโดยให้เหตุผลว่าเสียงไม่มีแต่จริงๆ น้องไม่ได้เป็นอะไรเลย การไม่มีเสียงกับการปวดท้องหมอก็สืบยากเหมือนกันนะ มันมีประเด็น แต่ก็ไม่ว่ากัน ต่อจากนี้ถ้าเรารับงานไว้แล้ว คุณไม่ไป สัญญาคาอยู่ ก็ใช้สิทธิ์ความเป็นค่ายมาพูดคุยกัน"
ใส่ความ อาม หรือเปล่า?
ประจักษ์ชัย : "ในไลฟ์สดก็เห็น คุณบอกว่าไม่มีเสียง แต่พอคนอื่นขึ้นไปแล้ว ร้องจะจบแล้ว คุณก็ดันมีเสียง การมีเสียงไม่ได้มีฉับพลันใน 5-10 นาทีนะ แล้วก็ 3-4 งานซ้อนนะ ตอนที่มีปัญหาเรื่องเสียง เขาก็บอกแค่ว่าไม่มีเสียง มันก็ทำให้คนอื่นที่จะรับงานในนามของค่าย ก็เกิดความไม่มั่นใจ ก็ต้องมีประเด็นเรียกมาคุย"
มีงานติดต่ออามผ่านค่าย?
ประจักษ์ชัย : "มีแต่รับไม่ได้ ไม่กล้ารับ มันก็ต้องมีสภาพบังคับ เราใช้สัญญาลิขสิทธิ์เพลง"
การแบ่งค่าตอบแทนแบ่ง 70-30?
ประจักษ์ชัย : "เราถือว่าเราทำถูกต้อง ตัวน้องยังไม่นิ่งนะครับ ก่อนมาเป็นอาม ชุติมา ตอนแรกค่าตัวเท่าไหร่ก็ไป เพราะตอนแรกน้องไม่มีกระแส ไม่ได้ตั้งว่ามาวันแรกต้องค่าตัว 3-5 หมื่น การแบ่งเปอร์เซ็นต์ บางทีเป็นงานช่วย บางทีเป็นงานขาดทุน ผมก็ควักให้ลูกน้องแบบครอบครัว ตอนคุณยังไม่ดังผมลงทุน ผมไปจ่ายเอง เป็นต้นทุนครับ แล้วบอกว่าไม่เป็นธรรม บางทีค่าตัวเขาให้ร้องรอเวลาลำไยไปเปลี่ยนชุด ให้ร้องรอเวลาให้ 5 พัน กว่าจะมีกระแสก็เป็นปี กว่าเขาจะมีตัวตนของเขา เขาเป็นนักร้องเพื่อรอให้ลำไยไปเปลี่ยนชุด และร้องแทรกเพื่อให้มีโปรไฟล์คู่ลำไย ซึ่งมีกระแสมาก่อน นั่นเป็นการตลาด ตอนนั้นมันยังเรียกราคาไม่ได้ ทุกคนยังไม่ได้ดังมาจากท้องพ่อท้องแม่ คุณบอกไม่ยุติธรรมเพราะมีอะไรมาไซโค มีกระบวนการ ตอนไม่ดังคุณไม่เห็นปั่นป่วน"
มีคนยุแยง?
ประจักษ์ชัย : "มีขบวนการ มีคนขายงาน มีโบรกเกอร์ คนทำงานด้วยกันนี่แหละที่อยากจะได้เขาไปดูแล มันเป็นธุรกิจทำเพลง ตอนแรกไม่ดังก็ไม่เป็นไร เพราะผมไปหามา ผมเป็นคนแต่งเพลงหานักร้องมาปั้น คนที่มีความสามารถแต่งเพลงได้ ก็ถูกต้องที่สุด น้องคนนี้มีแววแน่นอน"
ต่อจากนี้อามจะทำอะไรได้บ้าง?
ประจักษ์ชัย : "ก็ต้องเข้ามาคุยกัน ไปทำเองไม่ได้ หลังจากนี้ก็ต้องมาพูดคุยว่ารับงานมาใหม่ แบ่งกันเท่านี้นะ แต่ก่อนเขาไม่ได้เป็นแมส ไม่ได้เป็นตัวจริง ว่าคุณเป็นซุปตาร์ มันเป็นขบวนสร้างมาสเต็ปๆ ของมัน"
ใครมาเคลียร์บ้าง?
ประจักษ์ชัย : "จริงๆ อาม ครบ 18 แล้ว แต่ก็ต้องมาทั้งพ่อและแม่ สัญญาจะมาเมื่อวาน ตั๋วเครื่องบินซื้อได้ 2 คนอีก 3 คนขึ้นเครื่องไม่ได้ ผมก็เช็กทุกสายการบิน ก็ว่างอยู่ มีการเบี่ยงเบนประเด็นอยู่ ผมจะซื้อตั๋วให้หมดเลย แต่เขาปักหมุดให้เอฟซีเห็นว่าตั้งใจทำทุกอย่างแล้วนะ เมื่อคืนก็ปักหมุดว่าจะไปวันที่ 22 เอาอีกแล้ว เลื่อนอีกแล้ว ซึ่งสื่อเขารออยู่ เขาอยากรู้ว่าจะจบยังไง ไม่ใช่ผมจะมาแต่รายการโหนกระแสนะครับ ผมอยากอยู่ตามอัตภาพผมมาก ฝากเอฟซีนน้องอาม อย่าด่าผมมากเลย เพราะเขาไม่ได้อ่าน ไม่ได้เข้าใจถ่องแท้ ก็หาว่าผมรังแกเด็ก ต้องแยกแยะ คุณเป็นเด็กแต่ก็ต้องมีกติกา คุณไปเล่นละครจักรวงศ์ คุณก็ต้องมีสัญญากับพ่อแม่ ถูกมั้ย เขาบอกจะมา 22 ต.ค. ก็ไม่รู้จะว่ายังไง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ถึงวันอาจตั๋วเครื่องบินเต็มอีก ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไง"
วันที่ อาม มาจะคุยอะไรกันบ้าง?
ประจักษ์ชัย : "ก็คุยกันว่าเราจะอยู่กันยังไง เงื่อนไขการรับงาน ตอนนี้ เรามีสัญญาแม่ คุณต้องปฏิบัติตาม ให้สัญญามันผ่านพ้นไป"
ถ้าเขาอยากซื้อสัญญาคืน ใจไม่อยู่แล้ว?
ประจักษ์ชัย : "ก็ต้องมาคุยกัน จะให้ผมโดนด่าฟรี ไอ้หัวล้าน รังแกเด็ก ผมก็ไม่สบายใจ ขอแค่ให้เข้ามาคุย จะจบแบบไหนก็ให้เข้ามาคุย"
หลายคนอยากให้นายห้างประจักษ์ชัย ปล่อยน้องไป?
ประจักษ์ชัย : "ปล่อยก็ได้ แต่ให้มาขอโทษบ้าง ให้มีความรู้สึกว่าเคยอยู่ด้วยกัน จำวันที่มากรุงเทพฯ แล้วไม่มีค่ารถมา ผมส่งค่ารถให้ วันแรกผมจำสร้อยผม ยังจำได้อยู่เลย แล้วทำเพลงอดีตเคยพังให้ ถามว่าวันนั้นอาจารย์ทุ่มเทขนาดไหน มาขอโทษผม อยากไปทำกับเพื่อนฟีลที่หนูอยากเป็น ขอนะอาจารย์ ผมไม่ใช่คนใจร้าย อย่าเอาแต่อารมณ์ ขอให้คิดถึงหัวอกคนปั้น วันที่ไม่ดัง คุณเดินมาใส่เสื้อตัวร้อยกว่าบาท คอนเวิร์สคู่แรกยังไม่มี ผมก็ซื้อให้ ที่มีข่าวว่าไม่ได้ซื้อให้แค่กางเกงในกับเสื้อยกทรง นั่นเป็นความจริง ซื้อให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า"
เขาน้อยใจหรือเปล่า ดูแลศิลปินในค่ายไม่เท่าเทียมกัน?
ประจักษ์ชัย : "ก็แล้วแต่ มันก็เป็นแบบนี้ ในบ้านเรา ลูกเราก็ยังได้ไม่เท่ากัน มันอยู่ที่เวลาความเหมาะสม ถามว่าเขาได้น้อยกว่าคนอื่นมั้ย ความดังมันกำหนดไม่ได้ ตอนนั้นลำไยดังมาก่อน เขาจะซื้อบีเอ็ม จะซื้อบ้าน เงินสด อามซื้อรถกระบะ ผมก็ดาวน์รถให้ ทำบ้าน ทำรั้วให้ คนเราไม่เท่ากัน นิ้วไม่เท่ากัน ก็ต้องรอเวลา รอจังหวะ ถ้างั้นทุกคนในค่ายก็ต้องได้เท่ากัน ไม่ใช่เรื่องมาเป็นประเด็น ไม่ใช่เรื่องน้อยใจหรอกครับ ให้ถูกใจทุกคนเป็นไปไม่ได้ วันนี้ผมมาเพื่อให้ถูกกติกา ไม่ได้ให้ถูกใจ คนที่ติดตามอามอาจไม่ชอบขี้หน้าผม แต่ผมรักษาบรรทัดฐานทางสังคมผมเสื่อมเสียชื่อเสียงไม่เป็นไรครับ ไม่มีค่ายไหนที่สัญญายังคาอยู่แล้วให้นักร้องมาย่ำยีเผาบ้าน"
ถ้าขอโทษและซื้อสัญญาคืน ต้องจ่ายเท่าไหร่?
ประจักษ์ชัย : "2 ล้านบาท ไม่ได้อยากได้เงินคุณหรอก แต่เขียนคุมเพื่อให้เกิดสภาพบังคับ ถ้ามีนายทุนพร้อมซื้อ 2 แสนต่อยอดน้องอาม เขาเอาไปต่อยอดได้กี่ล้าน เขาไม่ได้อยากได้เงินจากน้องอามหรอก ค่าลงทุนยังไม่เท่าเยียวยาความรู้สึก"
ความรู้สึกประเมินค่าไม่ได้?
ประจักษ์ชัย : "ถูกต้องครับ ต่อให้ 5 ล้านตอนนี้ยังไม่อยากขายเลยครับ หมายถึงมูลค่าทางจิตใจ มันเทียบไม่ได้"
อยากบอกอะไรกับอาม?
ประจักษ์ชัย : "ก็รักเหมือนเดิม อยากให้เห็นความดีที่วันนึงผมส่งค่ารถให้ ผมอยากให้จบด้วยดี ยังไงก็เป็นอาจารย์"
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ