ขอตรวจดันอวดเบ่ง-หนุ่มโชว์เสื้อติดเครื่องหมายทหารเต็มยศ ถามหาบัตรข้าราชการ ถึงกับหน้าซีด

ตำรวจทางหลวงตั้งด่านตรวจเจอรถกระบะขับเร็วขอตรวจ กลับเบ่งว่าเป็นทหารโชว์เสื้อติดเครื่องหมายเต็มยศ สุดท้ายขอตรวจบัตรข้าราชการ ถึงกับหน้าซีด

วันที่ 18 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก จ.ส.อ.สมพร หงษ์ทอง หัวหน้าชุดรักษาความสงบที่ 2 พื้นที่หัวหิน ว่าได้รับการประสานจาก ร.ต.อ.ณรงค์ พิทักษ์ฉงวน รอง สว.ส.ทล.3 กก.2 บก.ทล. ซึ่งนำกำลังตั้งด่านตรวจกวดขันจับกุมอาชญากรรมทุกประเภทและกวดขันจับกุมผู้กระทําผิดวินัยจราจรในพื้นที่รับผิดชอบตามนโยบายผู้บังคับบัญชา ที่บนถนนหลวงหมายเลข 37 หลัก กม.ที่ 34 ฝั่งขาล่องใต้ หน้าที่ว่าการอําเภอหัวหิน ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

พบชายต้องสงสัยขับขี่รถด้วยความเร็วสูง เมื่อขอตรวจค้นอ้างตัวว่าเป็นข้าราชการทหารสังกัดหน่วยงานหนึ่ง ขอให้มาตรวจสอบ จึงเดินทางพร้อมด้วย จ.ส.อ.นิติเทพ จิตประสงค์ เจ้าหน้าที่จาก กอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง

จากการตรวจสอบ ทราบชื่อชายคนดังกล่าวว่า นายบุญเคน อายุ 52 ปี แต่งกายด้วยเสื้อยีนแขนยาว สวมกางเกงยีนสีดำ ขับขี่รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กอ-1227 อุดรธานี ติดสติกเกอร์ที่กันชนหน้าว่า ทบ1/29 ซึ่งนายบุญเคนขับรถคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

เจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจพบว่ารถคันดังกล่าว ฝ่าฝืนป้ายจํากัดความเร็ว จึงได้ส่งสัญญาณให้รถคันดังกล่าวหยุดรถเพื่อทําการตรวจสอบและแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ทั้งนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุม ขอทําการตรวจสอบรถคันดังกล่าวแต่นายบุญเคนได้อ้างตนเองว่าเป็นข้าราชการทหาร พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ตํารวจช่วยอํานวยความสะดวกเรื่องการฝ่าฝืนป้ายจํากัดความเร็ว เนื่องจากตนเองต้องรีบเดินทางไปราชการทหารที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ระหว่างตรวจสอบพบเสื้อเครื่องแบบทหารบก (สีเขียว) ยศจ่าสิบเอก สังกัดเหล่าสารวัตรทหาร และติดป้ายชื่อ-สกุลของ นายศราวุธ (ชื่อเดิม) แขวนอยู่ภายในรถคันดังกล่าว เมื่อสอบถามนายบุญเคน อ้างว่าได้เปลี่ยนชื่อจาก ศราวุธ เป็น บุญเคน เครื่องแบบที่เห็นเป็นของตนเอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบบัตรข้าราชการทหาร แต่นายบุญเคน ไม่สามารถนํามาแสดงได้ และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่ข้าราชการทหารจริงอย่างที่กล่าวอ้าง ส่วนเครื่องแบบที่เห็นได้ซื้อมาแขวนไว้ในรถยนต์เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมหลักฐาน ทําบันทึกการจับกุม และนําตัวผู้ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน เพื่อดําเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตามกฎหมายมีโทษทั้งจำและปรับ