ชาวบ้านสุดทน-รวมกลุ่มร้องโรงงาน ปล่อยน้ำเสียลงบ่อปลาตายเกลื่อน

จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ตำบลหลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ได้ร้องเรียนไปที่ อบต.หลุมรังว่า โรงงานขนาดใหญ่ปล่อยน้ำเสียไหลออกมาลงไร่อ้อยและลำน้ำในหมู่บ้าน ทำให้เกิดน้ำเสียไหลลงบ่อเลี้ยงปลาที่เลี้ยงไว้ตายหมดบ่อ และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วสร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงไปร้องเรียนขอให้หน่วยงานภาครัฐให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

( 19 ต.ค. 61 ) นายชลัท ตะเพียนทอง ปลัดอำเภอชำนาญ(พิเศษ) รก.นายอำเภอบ่อพลอย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณ นายก อบต.หลุมรัง นายสราวุธ พรทิพย์ วิศวกรชำนาญการ หน.ฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม จนท.ประมงกาญจนบุรี  จนท.สิ่งแวดล้อมสนง.ทสจ.กาญจนบุรี ทหาร กกล. รส.มทบ.17 (บ่อพลอย) สาธารณสุขอำเภอบ่อพลอย นายปัญจพัฒน์ อภิรัตน์ธราธาร ผอ. บริษัท เคจีไอ กรีนอันเนอเวชั่น จำกัด ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านที่ร้องเรียน ร่วมประชุมหารือที่ห้องประชุม อบต.หลุมรัง

หลังการประชุม นายชลัท ได้นำคณะลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ พบว่า น้ำมีสีดำเน่าเสียซากปลาตายเป็นจำนวนมาก หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เก็บตัวอย่างน้ำและดินรวมทั้งซากปลาตายปลาเป็น ส่งพิสูจน์หาสาเหตุโดยเร่งด่วนแล้วขณะนี้

ล่าสุด นายเฉลิมโชค  ผจก.โรงงานดังกล่าว ได้ออกมายอมรับแล้วว่า ท่อส่งน้ำเสียที่อยู่ในโรงงานมีความเก่ามากแล้วระหว่างสั่งท่อใหม่มาเพื่อทำการเปลี่ยน ได้เกิดแตกและรั่วไหลออกไปลงแหล่งน้ำนอกโรงงานเมื่อคืนวันที่ 9 ถึงเช้าวันที่ 10 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา

โดยวันนี้ ( 19 ต.ค. ) ได้เดินทางมาชี้แจงที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง ต่อหน้าหลายส่วนของภาครัฐและชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ว่าจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด  

ส่วนด้าน นายสราวุธ พรทิพย์ วิศวกรชำนาญการ หน.กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้เข้าไปตรวจสอบท่อที่มันได้หลุดออกและพบว่า มันไหลลงสู่ลำน้ำสาธารณะ  จึงได้สั่งให้หยุดกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่วันที่ 12 ตุลาคม 2561

จากนั้นให้ซ่อมแซมท่อที่มีลักษณะที่มั่งคงและก็ให้ปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จ  ต่อมาทางโรงงานก็ได้แจงขอเปิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ซึ่งทางอุตสหกรรมได้ไปตรวจสอบแล้วจึงอนุญาติให้เปิดทำการต่อได้  ส่วนขั้นตอนของการเยียวยาชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบนั้น ทางโรงงานก็กำลังพิจารณาให้อยู่ รวมทั้งในเรื่องของการฟื้นฟูลำน้ำสาธารณะให้ด้วย

และในวันเดียวกันนี้ ทางศูนย์ภาคตะวันตกกรมโรงงานอุตสหกรรมก็จะมาเก็บน้ำไปตรวจวิเคราะห์ด้วย ทั้งยังได้สั่งดำเนินคดีกับโรงงานแห่งนี้ด้วย เพราะลักษณะดังกล่าวเป็นการระบายน้ำทิ้งออกนอกโรงงานโดยไม่ผ่านระบบการบำบัด ขณะนี้ได้ส่งเรื่องเข้าไปที่สำนักงานกฎหมายกระทรวงอุตสหกรรมเพื่อดำเนินคดีกับโรงงานแล้ว อีกทั้งจะติดตามระยะยาวว่าโรงงานมีระบบป้องกันน้ำไหลออกนอกโรงงานเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นมาอีก     

ด้านสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรีกล่าว ในส่วนบ่อเลี้ยงปลาที่มีปลาตายนั้นเท่าที่ตรวจดูแล้วนั้นมีการเลี้ยงสัตว์รอบบ่อแล้วนั้นก็ต้องรอผลพิสูจน์ต่อไป โดยจะประสานสิ่งแวดล้อมภาคมาเก็บตัวอย่างน้ำในสัปดาห์หน้าเพื่อเป็นผลยืนยันกันกับทางอุตสาหกรรม  

ด้านเจ้าที่ประมงจะขอเข้าไปตรวจสอบวัดค่าสภาพน้ำก่อนว่า มีความเหมาะกับการเลี้ยงปลาหรือไม่ อีกทั้งจะต้องเก็บตัวอย่างปลาที่เป็นยังไม่ตาย เพื่อที่จะไปตรวจยังห้องแล็บศูนย์วิจัยประมงกาญจนบุรี ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรที่ทำให้ปลาตายมากมายดังกล่าว    

หลังเลิกประชุม นายปัญจพัฒน์  อภิรัตน์ธราธาร ผอ.บริษัท เคจีไอ กรีนอันเนอเวชั่น จก.ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า “เราอยู่กับชาวบ้านมาแบบยั่งยืน เรามาสร้างโรงงานที่นี่เราต้องการให้ชาวบ้านเกษตรกรในเขตหลุมรังบ่อพลอยรัศมีรอบโรงงาน 20 กิโลเมตร มีอาชีพมีรายได้

ส่วนการที่มาตั้งโรงงานต้องผ่านหน่วยงานรัฐบาลในเรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งหลายโดยมีอุตสาหกรรมจังหวัดควบคุมระบบมลพิษทั้งหลายไม่ว่าทางน้ำ ทางอากาศ ที่นี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นมันมีผลจากที่มันเป็นอุบัติเหตุที่มันต่อเนื่องกลับมา เราก็อยากแก้ปัญหาเราอยากอยู่กลับชุมชนรอบโรงงานเรา

สิ่งที่โรงงานเราช่วยได้เรายินดี แต่ขอว่าให้มันเกิดข้อเท็จจริงเพราะบางทีข่าวออกไปโรงงานผิดเต็มๆ เลย เราฐานะรับผิดชอบต่อหน้าที่สังคมมันก็มีส่วนบ้าง แต่เราก็ยินดีแก้ปัญหาให้ทุกเรื่องก็ได้ประสานไปกับ นายก อบต. และหน่วยงานราชการทุกอย่าง เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น อยากให้หน่วยงานของรัฐมาพิสูจน์ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นความผิดของโรงงานเราก็ต้องไปแก้ไข”