ศาลชั้นต้นสั่งคุกตลอดชีวิต หัวหน้าแก๊ง 14 โจ๋ไขควงแทงหัว "น้องปอนด์" คดีดังปี 60
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ น้องปอนด์ นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี วัย 24 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ใช้ไขควงแทงที่ศีรษะเสียชีวิตภายในหอพัก เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560
โดยคดีดังกล่าวมีจำเลยทั้งหมด 14 คน ได้แก่ นายอาร์ท อายุ 22 ปี, นายไบรท์ อายุ 20 ปี, นายบิ๊ก อายุ 20 ปี, นายปาล์ม อายุ 19 ปี, นายเต้ย อายุ 20 ปี, นายปาล์ม อายุ 20 ปี, นายเติ้ล อายุ 26 ปี, นายอั้ม อายุ 19 ปี, นายนนท์ อายุ 20 ปี, นายมิก อายุ 18 ปี, นายแป้ง อายุ 20 ปี, นายซีม อายุ 21 ปี, นายกิต อายุ 18 ปี และ นางสาวลูกหมี อายุ 20 ปี
จำเลยทั้งหมดถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายแก่กาย, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควร โดยมีอาวุธโดยใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
สำหรับคดีนี้ จำเลยที่ 2 คือ นายไบรท์ เป็นเพียงคนเดียวที่ถูกควบคุมเอาไว้ที่เรือจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนจำเลยคนอื่นๆ ได้รับการประกันตัว
>> ติดตามข่าวคดีฆ่าแทงไขควงใส่หัว น้องปอนด์ ที่นี่
ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาเห็นว่า พยานโจทก์และโจทก์ร่วมมีประจักษ์พยานและวัตถุพยานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้การยืนยันฟังได้ว่า จำเลยที่ 1-13 ได้กระทำการตามฟ้องจริง บุกรุกโดยมีเหตุฉกรรจ์ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับอันตรายและเสียชีวิต
โดยจำเลยที่ 1 และ 2 คือ นายอาร์ท และ นายไบรท์ ได้ร่วมกันฆ่าผู้ตาย โดย นายอาร์ท ล็อกคอให้ นายไบรท์ ใช้ไขควงแทงผู้ตายเข้าบริเวณขมับขวา จึงพิพากษาให้ นายอาร์ท จำคุกตลอดชีวิต ส่วน นายไบรท์ สั่งจำคุก 25 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันฆ่า
ส่วนจำเลยที่ 3, 10, 12 สั่งจำคุก 1 ปี ฐานบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย จำเลยที่ 4, 5, 6, 11 สั่งจำคุก 11 ปี ฐานบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน และร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายฯ โดยให้จำคุกจำเลยที่ 4 ต่อจากคดีเดิมที่ศาลจังหวัดหัวหิน
ขณะที่จำเลยที่ 7, 8, 9, 13 สั่งจำคุก 10 ปี 6 เดือน ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่น และให้จำเลยที่ 1-13 ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมที่ 1 เจ้าของหอพักที่เกิดเหตุเป็นเงิน 150,000 บาท โจทก์ร่วมที่ 2 เจ้าของห้องที่เกิดเหตุและ 1 ในผู้บาดเจ็บ 125,000 บาท โจทก์ร่วมที่ 3 ผู้บาดเจ็บเป็นเงิน 95,000 บาท และโจทก์ร่วมที่ 4 มารดาของผู้ตาย เป็นเงิน 6,870,000 บาท และให้ชำระ ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 จนกว่าจะชำระเงินให้กับโจทก์ร่วมครบถ้วน
นอกจากนี้ ได้พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 14 เนื่องจากเป็นผู้ที่พักอาศัยในหอพักที่เกิดเหตุ รวมทั้งไม่ได้ลงจากรถของจำเลยไปร่วมก่อเหตุแต่อย่างใด
ป้าของน้องปอนด์ เปิดเผยว่า ทางครอบครัวรู้สึกพึงพอใจกับคำพิพากษาในครั้งนี้ โดยจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ แต่หากอีกฝ่ายยื่นก็สามารถทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นทางญาติไม่เคยคิดอโหสิกรรมให้กับคนที่ก่อเหตุ ขณะนี้ร่างน้องปอนด์ยังถูกแช่เย็นอยู่ที่บ้าน จะรอจนกว่าให้คดีสิ้นสุดทุกอย่างก่อน และจะดำเนินการฌาปนกิจศพต่อไป